10 ก.ย.56 ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถนนแจ้งวัฒนะ ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดีทุจริตจัดซื้อรถและเรือดับเพลิง ของกรุงเทพมหานคร ที่มี นายธานิศ เกศวพิทักษ์ รองประธานศาลฎีกา เจ้าของสำนวน คดีหมายเลขดำ อม.5/2554 พร้อมองค์คณะผู้พิพากษารวม 9 คน คดีนี้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง
นายโภคิน พลกุล อดีต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จำเลยที่ 1
นายประชา มาลีนนท์ อดีต รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จำเลยที่ 2
นายวัฒนา เมืองสุข อดีต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จำเลยที่ 3
พลตำรวจตรีอธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ อดีตผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม.จำเลยที่ 4
บริษัท สไตเออร์ เดมเลอร์ พุค สเปเชียล ฟาห์รซอยก์ จำกัด หรือ STEYR-DAIMLER-PUCH Spezial fahrzeug AG&CO KG (ศาลสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราว ) จำเลยที่ 5
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่ากรุงเทพมหานคร จำเลยที่ 6
ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และการกระทำผิดตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (ฮั้วประมูล) พ.ศ. 2542 จากกรณีการจัดซื้อรถ และเรือดับเพลิง พร้อมอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัย ตามโครงการพัฒนาระบบบริหารและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกทม.มูลค่ากว่า 6 พันล้านบาท
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยที่ 1 เป็นเพียงผู้ทำหน้าที่ ผ่านหนังสือ ซึ่งเป็นการทำตามหน้าที่ รมว.มหาดไทย ส่วนจำเลย ที่ 3 ฟังไม่ได้ว่าเป็นผู้ที่ได้รับผลประโยชน์ แม้ว่าบริษัท สไตเออร์ เดมเลอร์ พุค สเปเชียล ฟาห์รซอยก์ จำกัด จะเป็นบริษัทของญาติ ก็ตาม เนื่องจาก จำเลยที่ 4 และจำเลยที่ 5 ได้มีการลงนามทำสัญญาซื้อขายกันไปก่อนแล้ว โดยมิได้สนใจว่ามีการทำสัญญาต่างตอบแทน ดังนั้น การที่จำเลยที่ 3 เห็นชอบและผลักดันการทำสัญญาต่างตอบแทน เรื่องการส่งออกแปรรูปไก่ต้มสุก ไปต่างประเทศนั้น จึงมิใช่สาระสำคัญของเรื่องนี้
สำหรับ จำเลยที่ 2 และ จำเลยที่ 4 องค์คณะผู้พิพากษาเสียงส่วนมาก ลงมติว่าทั้ง 2 คน มีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ มาตรา 83 ขณะที่ จำเลยที่ 4 มีความผิดเพิ่มเติม ตาม พ.ร.บ.ฮั้วฯ ม.12 ซึ่งการกระทำของจำเลยที่ 2 และ 4 ถือว่า เป็นการกระทำความผิดกรรมเดียว แต่เป็นการทำความผิด ต่อ พ.ร.บ.หลายบท จึงมีคำพิพากษาจำคุก จำเลยที่ 2 เป็นเวลา 12 ปี และจำเลยที่ 4 เป็นเวลา 10 ปี โดยไม่รอลงอาญา ส่วนข้อหาอื่นให้ยก รวมทั้ง ยกฟ้อง จำเลย ที่ 1, 3, 6
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท สไตเออร์ เดมเลอร์ พุค สเปเชียล ฟาห์รซอยก์ จำกัด หรือ STEYR-DAIMLER-PUCH Spezial fahrzeug AG&CO KG จำเลยที่ 5 ศาลสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราว ไปก่อนหน้านี้
รายงานข่าวระบุว่า ศาลได้ออกหมายจับจำเลยที่ 2 เพื่อมาบังคับคุมขัง ตามคำพิพากษา จำคุก 12 ปี
ขณะที่ จำเลยที่ 4 ศาลได้ออกหมายจับเพื่อให้มาฟังคำพิพากษาคำตัดสินจำคุก 10 ปี ในวันที่ 16 ต.ค.นี้ เวลา 09.30 น.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี