"ปธ.ชวน"แถลงข่าวคณะทูต เตรียมพร้อมไทยเป็นเจ้าภาพ ประชุม APPF ครั้งที่ 30 เดือน ต.ค.นี้ ชูบทบาทการฟื้นตัวสถานการณ์โควิด-19 กับการพัฒนาที่ยั่งยืน
เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2565 ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เป็นประธานในการแถลงข่าวแก่คณะทูตานุทูตในโอกาสการเป็นเจ้าภาพการประชุมประจำปีรัฐสภาภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก ครั้งที่ 30 โดยมี ศ.พิเศษ พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เอกอัครราชทูตจาก 7 ประเทศ ได้แก่ สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เม็กซิโก สาธารณรัฐโคลอมเบีย สาธารณรัฐชิลี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสาธารณรัฐเปรู พร้อมด้วย คณะทูตานุทูต ประเทศผู้สังเกตการณ์ องค์การระหว่างประเทศ รวมทั้งสิ้น 20 ประเทศสมาชิก 1 ประเทศผู้สังเกตการณ์ และ 1 องค์การระหว่างประเทศ ตลอดจน นายเกียรติ สิทธีอมร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการด้านการเมืองและความมั่นคงในการประชุมประจำปีรัฐสภาภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก (APPF) ครั้งที่ 30
นางพิกุลแก้ว ไกรฤกษ์ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการด้านพิธีการ การอำนวยความสะดวก และงานเลี้ยง นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการด้านการประชาสัมพันธ์และสารสนเทศการประชุม นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะรองประธานคณะอนุกรรมการด้านสมาชิกรัฐสภาสตรี คณะทำงานทางการเมืองของประธานสภาผู้แทนราษฎร เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เลขาธิการวุฒิสภา และผู้บริหารสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ร่วมพิธีเปิด
ประธานรัฐสภา กล่าวว่า ขณะนี้มีประเทศสมาชิก และผู้สังเกตการณ์ตอบรับเข้าร่วมการประชุมแล้วกว่า 20 ประเทศ จาก ทั้งหมด 28 ประเทศ ที่มีสำนักงานในประเทศไทย โดยจะเป็นครั้งแรกของรัฐสภา ที่จะใช้อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ เป็นสถานที่จัดการประชุม และรองรับคณะทูตานุทูตจากต่างประเทศ และจะเป็นครั้งสุดท้ายของสภาผู้แทนราษฎรในชุดนี้ ซึ่งในการประชุมดังกล่าว ประเทศไทยจะหยิบยกบทบาทของฝ่ายนิติบัญญัติ ในการเดินหน้าหลังผ่านพ้นสถานการณ์โควิด รวมถึงการเผชิญหน้ากับปัญหาอื่นๆ ที่แม้การระบาดโควิด-19 จะผ่านพ้นไปแล้ว แต่ก็ยังถือเป็นโรคติดต่อ และการรับมือกับโรคติดต่ออื่นๆ ที่จะมีโอกาสเกิดขึ้นในอนาคตด้วย
ซึ่งการประชุมครั้งนี้ มีวาระการประชุมครอบคลุมประเด็นหลากหลายต่างๆ จึงเป็นโอกาสอันดีของไทยที่จะผลักดันวาระที่มีความสำคัญและเพิ่มพูนผลประโยชน์แก่ประเทศ ประชาชน ภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสสำคัญของรัฐสภาไทยที่จะแสดงบทบาทการเป็นศูนย์กลางความร่วมมือในเวทีรัฐสภาระหว่างประเทศ และช่วยฟื้นความเชื่อมั่นของประเทศจากวิกฤต การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งไม่เพียงส่งผลในด้านสาธารณสุข แต่ยังกระทบต่อเศรษฐกิจและการพัฒนา รวมทั้งวิถีชีวิตของประชาชนในทุกระดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อการดำเนินการของประเทศต่างๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) โดยผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ความก้าวหน้าในการดำเนินการในหลายประเทศประสบปัญหา และอาจส่งผลให้ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายภายในระยะเวลาที่กำหนดได้ รัฐสภาไทย ได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว และเห็นว่าการประชุม APPF ครั้งที่ 30 ควรนำประเด็นการพัฒนาที่ยั่งยืน มาหารือในกลุ่มประเทศสมาชิกของภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลความเห็น และประสบการณ์ของสมาชิกรัฐสภาจากประเทศต่างๆ ในภูมิภาค จากการหารือร่วมกันเพื่อนำเสนอแนวทางในบริบทของฝ่ายนิติบัญญัติ โดยคาดหวังว่าแนวทางการดำเนินการด้านนิติบัญญัติจะมีส่วน ช่วยสนับสนุนการดำเนินการของประเทศสมาชิกให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนได้ทันภายในปี 2573
หัวข้อสำหรับการประชุมทั้ง 4 ด้านของการประชุมประจำปี APPF ครั้งที่ 30 ได้แก่
- ด้านสตรี หัวข้อ “การเสริมสร้างศักยภาพของสตรีเพื่อรับมือกับวิกฤตการณ์ในอนาคต การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของสตรีในการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019”
- ด้านการเมืองและความมั่นคง หัวข้อ “บทบาทการทูตเชิงรัฐสภาในการส่งเสริมความมั่นคง ในภูมิภาค / การส่งเสริมความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ในภูมิภาค /รัฐสภาและการฟื้นฟูอย่างยั่งยืนภายหลังการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 เพื่อส่งเสริมประชาธิปไตย สันติภาพ และความมั่นคง”
- ด้านเศรษฐกิจและการค้า หัวข้อ “การส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพและเศรษฐกิจสีเขียวเพื่อการพัฒนาที่ครอบคลุม / การเพิ่มความเชื่อมโยงและการพัฒนาด้านเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก”
- ด้านความร่วมมือระดับภูมิภาคภายในเอเชีย-แปซิฟิก หัวข้อ “บทบาทของรัฐสภาในการส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนเพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็น กลางทางคาร์บอนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ /การพัฒนาและการขยายการเข้าถึงสาธารณสุขมูลฐานอย่างเท่าเทียม/การส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับภูมิภาคและการสนับสนุนความเข้าใจในความหลากหลายทางวัฒนธรรม”
ทั้งนี้ การประชุมประจำปีรัฐสภาภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก (APPF) ประกอบด้วย 4 อนุภูมิภาค ได้แก่
1. เอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ (5 ประเทศ) ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี มองโกเลีย และรัสเซีย
2. เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (9ประเทศ) ได้แก่ กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย เวียดนาม และบรูไนดารุสซาลาม
3. โอเชียเนีย/หมู่เกาะต่างๆ ในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนกลาง ตะวันตก และตอนใต้ (6ประเทศ) ได้แก่ ออสเตรเลีย ฟิจิ ไมโครนีเซีย นิวซีแลนด์ ปาปัวนิวกินี และหมู่เกาะมาร์แชลล์
4. อเมริกา (8 ประเทศ) ได้แก่ แคนาดา ชิลี โคลัมเบีย เม็กซิโก เปรู สหรัฐอเมริกา เอกวาดอร์ และคอสตาริกา
การจัดการประชุมประจำปีรัฐสภาภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก (Asia-Pacific Parliamentary Forum : APPF) ครั้งที่ 30 ของรัฐสภาไทยในปีนี้ เป็นการประชุมที่เน้นรูปแบบการจัดประชุมสีเขียว (Green Conference) ซึ่งคำนึงถึงการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยให้ความสำคัญในขั้นตอนต่างๆ ของการจัดประชุมตั้งแต่การจัดเตรียมสถานที่ และอุปกรณ์ เช่น กระเป๋าเอกสารสำหรับแจกให้แก่ผู้เข้าร่วมประชุม ตัดเย็บจากผ้าดิบเพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์ได้จริง และมีความทนทาน ปากกาทำจากการนำเอาวัสดุที่ใช้แล้วมาแปรใช้ใหม่ (Recycle) ในที่นี้คือกระดาษและฟางข้าวสาลี ที่ใช้แล้วนำกลับมาใช้ใหม่ เพื่อลดการใช้พลาสติก การใช้กระดาษเท่าที่จำเป็น เป็นต้น รวมถึงการจัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่มยังคำนึงถึงแนวคิดขยะเหลือศูนย์ (Zero Waste) เพื่อลดปริมาณขยะ
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี