‘แรมโบ้’สุดทนตอแยรายวัน
สับ‘ธนาธร-พิธา’
ดื้อไม่รับคำวินิจฉัยศาลรธน.
ตอกอย่ามาอ้างปชช.สิ้นหวัง
‘ธนกร’เตือนซ้ำหยุดก้าวล่วง
มั่นใจ‘บิ๊กตู่’พลิกโฉมประเทศ
“แรมโบ้” ออกโรงอัด “พิธา-ธนาธร” เป็นถึงหัวหน้าพรรค แต่ไม่ยอมรับคำวินิจฉัยศาลรธน. อย่ามาอ้างประชาชนสิ้นหวัง คับแค้นใจ ชี้เพียงแค่ส่วนน้อยเท่านั้น เหน็บเหมาะเป็นหน.กองโจร มากกว่า หน.พรรค “ธนกร” วอนสารพัดม็อบเคารพคำวินิจฉัย หยุดชุมนุมก้าวล่วงคำตัดสินของศาล “พุทธะอิสระ” ยินดี “นายกฯตู่” คัมแบ็ค แนะให้นิ่ง เร่งประชาสัมพันธ์ ผลงาน
เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2565 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ออกมาวิจารณ์และออกแถลงการณ์ต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ กรณี 8 ปี ว่าเป็นอีกครั้งที่ทำให้ประชาชนไทยรู้สึกสิ้นหวัง สร้างความคับแค้นใจให้กับประชาชน และมีราคาอันแสนแพงที่สังคมไทยต้องจ่ายจากการที่พลเอกประยุทธ์ได้ไปต่อ
โดยนายเสกสกลกล่าวว่าการออกแถลงการณ์เช่นนี้เท่ากับว่า นายพิธากับพรรคก้าวไกลและนายธนาธรไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งที่เป็นพรรคที่ร่วมกับพรรคฝ่ายค้านยื่นให้ประธานสภาฯเพื่อขอให้ศาลวินิจฉัยเรื่องนี้เอง ทั้งนี้ หากไม่เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของไทยก็ไม่ควรไปร่วมเพื่อให้มีการวินิจฉัยตั้งแต่แรก การที่นายพิธาและนายธนาธรบอกว่าเป็นอีกครั้งที่ทำให้ประชาชนไทยรู้สึกสิ้นหวังสร้างความคับแค้นใจ ถือว่าเป็นการเอาประชาชนส่วนใหญ่มาอ้าง ทั้งที่มีเพียงประชาชนส่วนน้อยที่เป็นพวกกลุ่มเห็นต่าง และเป็นพวกกลุ่มเคลื่อนไหวที่พรรคก้าวไกลอยู่เบื้องหลังอยู่เท่านั้นที่ไม่เห็นด้วย ดังนั้น ขออย่าเหมาเอาประชาชนทั้งประเทศมาเป็นพวกของตัวเอง
เหน็บเหมาะเป็นหน.กองโจร
“นายพิธาและนายธนาธร ก็เป็นถึงหัวหน้าพรรค เป็นอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองที่มี ส.ส.อยู่มาก แต่เหตุใดไม่ทำตัวให้เหมาะสมกับการเป็นหัวหน้าพรรคเอาประชาชนมาอ้างให้เกิดการเข้าใจผิด ทั้งที่พวกของตนเองที่ไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม ไม่ยอมรับกติกาบ้านเมืองอะไรเลย เป็นนักการเมืองประสาอะไรไม่เห็นใจประชาชนเลยแม้แต่น้อย เอาแต่ประโยชน์ตัวเอง ซึ่งหากจะมีนิสัยแบบนี้ขอแนะนำให้เลิกเป็น ส.ส.หรือไม่ก็ยุบพรรคก้าวไกลไปเลยจะดีกว่า เพราะดูแล้วตอนนี้นายพิธาไม่น่าจะเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองได้ แต่น่าจะเป็นหัวหน้ากองโจรมากกว่า”นายเสกสกลย้ำ
‘ธนกร’ชี้หยุดก้าวล่วงคำตัดสินศาล
นายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังไม่สิ้นสุดลงว่าขอขอบคุณศาลรัฐธรรมนูญที่วินิจฉัยชี้ชัดให้หลายคนหายสงสัย โดยจากนี้นายกฯจะใช้เวลาที่เหลืออยู่ในการเร่งติดตามนโยบายต่างๆของรัฐบาลที่ได้ริเริ่มเอาไว้เพื่อให้เห็นผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด เพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชนและประเทศชาติ โดยไม่สนว่าใครจะจ้องเล่นเกมการเมือง เพื่อดิสเครดิตรายวัน แต่จะมอบหมายให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนแทน เพื่อไม่ให้ประชาชนต้องสับสนกับการบิดเบือนข้อมูลของคนบางกลุ่มอย่างในหลายๆครั้งที่ผ่านมา
โดยหวังว่ากลุ่มการเมืองต่างๆจะเคารพคำตัดสินของศาลเหมือนที่ท่านนายกฯน้อมรับคำวินิจฉัยเช่นกันไม่ใช่ออกมาก่อม็อบบนถนนสร้างความเสียหายให้กับประเทศอีกครั้ง เพราะหากเป็นเช่นนั้นตนเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ของประเทศคงไม่ยอมแน่นอน
เชื่อนายกฯจะพลิกโฉมประเทศได้
“ที่ผ่านมานายกฯผลักดันนโยบายต่างๆของรัฐบาลให้เห็นเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน โปร่งใสและสุจริตอย่างที่ไม่เคยเห็นในรัฐบาลไหน ทั้งหมดก็เพื่อหวังที่จะให้ประเทศเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน ไม่ใช่สร้างความมั่นคั่งให้ตัวเองเหมือนในอดีตที่เราเคยเห็นกัน โดยเฉพาะในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจโลกในขณะนี้ ผมเชื่อว่าจากนี้ไปนายกฯจะสามารถพลิกโฉมประเทศให้พัฒนาไปข้างหน้าได้ ไม่แพ้ชาติใดในโลกอย่างแน่นอน”นายธนกร กล่าว
ชัยวุฒิชูบิ๊กตู่มีหัวใจทำเพื่อแผ่นดิน
ด้าน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจเเละสังคม โพสผ่านเฟซบุ๊ก หลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยตัดสิน วาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหมระบุว่า”สำหรับผม ตลอดระยะเวลาการทำงานกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผมเชื่อว่า ท่านนายกฯมีหัวใจ ที่ยิ่งใหญ่ ท่านอาจจะพูดไม่หวาน เป็นคนตรงไปตรงมา เเต่สิ่งหนึ่งที่ผมสัมผัสได้ คือ ความจริงใจ และ ความตั้งใจ นั่นคือ พลังศรัทธาที่ยิ่งใหญ่ในการทำเพื่อแผ่นดิน”
‘พุทธะอิสระ’ยินดี‘นายกฯตู่’คัมแบ็ค
นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ พุทธะอิสระผู้ก่อตั้งวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุเนื้อหาว่า ขอแสดงความยินดีต่อท่านนายกฯ ที่ได้ทำหน้าที่ต่อ ยินดีกับท่านนายกตู่ด้วยที่ท่านได้กลับมาทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ ๒๙ ของประเทศไทย หวังว่าการได้กลับมาทำหน้าที่หัวหน้าผู้บริหารบ้านเมืองในครั้งนี้ สิ่งใดที่ท่านคิดจะทำให้บ้านเมือง และยังคั่งค้างไม่เรียบร้อย ก็ขอให้เร่งรัดทำให้สัมฤทธิ์ผล ให้เกิดคุณประโยชน์แก่ชาติบ้านเมือง จนผู้คนในประเทศสามารถสัมผัสจับต้องได้ชัดเจน
และสิ่งสำคัญคือ เรื่องที่ทำมาแล้วและเรื่องที่ท่านกำลังทำ และคิดจะทำ ไม่ว่าจะอยู่ในกรม กอง กระทรวงใด ท่านควรตั้งทีมงานประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ผลงานนั้นๆ ให้ประชาชนรับรู้กันในทุกช่องสื่อ และประชาสัมพันธ์บ่อยๆ ประชาชนทั้งประเทศเขาจักได้รับรู้ว่า ท่านและรัฐบาลทำอะไรมาบ้าง และกำลังทำอะไรอยู่ รวมทั้งจะทำอะไรต่อไป สิ่งเหล่านี้ มันเป็นความจำเป็นสำหรับการต่อสู้ทางการเมือง อีกทั้งจักได้เป็นข้อมูลที่ผู้ไม่เข้าใจ ผู้ที่เห็นต่าง เขาจักได้รับรู้เหมือนๆ กับบรรดากองเชียร์ท่าน
อีกเรื่องหนึ่ง คือ การบังคับใช้กฎหมายสำหรับฝ่ายตรงข้าม และผู้เห็นต่างซึ่งตอนนี้พวกเขามีแผนการที่จะยอมเจ็บ เพื่อให้ท่านจบฉะนั้น พุทธะอิสระจึงอยากขอร้องว่าเรื่องใดที่ฝ่ายตรงข้ามกระทำ หากมันไม่ละเมิดกฎหมายร้ายแรงมากเกินไปนัก เจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมาย เฉยได้ก็เฉย ปล่อยได้ก็ปล่อย หากการกระทำของเขามันไม่สร้างความเดือดร้อนวุ่นวายแก่บ้านเมืองจนเกินไป เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้เห็นต่างนำไปขยายผลบนเวทีเลือกตั้ง
‘ก้าวไกล’ชี้โจทย์ใหญ่’บิ๊กตู่’อยู่แค่2ปี
ขณะที่ นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.)กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้เริ่มนับในปี 2560จึงสามารถเป็นนายกฯได้อีกประมาณ2ปีนั้นว่า การวินิจฉัยในวันที่ 30 ก.ย. เป็นอีกครั้งที่ทำให้เห็นว่ารัฐธรรมนูญ2560มีปัญหาเรื่องการตีความ ทั้งการตีความตามเจตนารมย์ การตีความตามตัวอักษร หรือการตีความจากผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญ ดังนั้น โจทย์ใหญ่ในทางการเมืองที่เราต้องคิดมากกว่าผลทางการเมืองแค่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง คือการต้องมาทบทวนกันว่า เมื่อรัฐธรรมนูญมีปัญหาค่อนข้างมาก จะนำไปสู่กระบวนการทำให้เกิดรัฐธรรมนูญที่ชัดเจน และกระบวนการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ได้อย่างไร
โวไม่มีฝ่ายไหนได้เปรียบเสียเปรียบ
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่าในประเด็นการเสนอพล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกฯอีกครั้งหรือไม่ พรรคก้าวไกลไม่ก้าวล่วงไปตอบได้แต่ว่าจะเป็นคำถามของทุกพรรคการเมือง ที่อาจจะเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกฯต้องคิดทบทวน ถึงข้อจำกัดเรื่องการดำรงตำแหน่งที่ไม่สามารถอยู่จนครบวาระ4ปีได้ แน่นอนย่อมทำให้ประชาชนคลางแคลงว่าพรรคนั้น จะเข้าไปบริหารแผ่นดินได้อย่างไร จึงไม่ใช่โจทย์ของเรา เพราะฝ่ายประชาธิปไตย มีความชัดเจนว่าปัญหาของรัฐธรรมนูญคือโจทย์ใหญ่ที่ส่งผลทางการเมือง การบริหารราชการแผ่นดิน เศรษฐกิจปากท้องประชาชน และสิทธิเสรีภาพ หากมีการเลือกตั้งครั้งหน้า ฝ่ายค้านได้เสนอให้ทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งหมด น่าจะเป็นคำตอบระยะยาวที่ดีที่สุดมากกว่า
“การวินิจฉัยให้เริ่มนับการดำรงตำแหน่งนายกฯเป็นปี 2560เป็นโจทย์เดิมที่เราคิดว่าจะออกมาเป็นแบบนี้ฉะนั้นจึงไม่ได้เป็นข้อได้เปรียบ หรือเสียเปรียบของพรรคการเมืองใด แต่อยู่ที่ว่ารอบหน้าแต่ละพรรคจะเสนอใคร เป็นแคนดิเดตนายกฯ และมีนโยบายอย่างไร”นายณัฐวุฒิ กล่าว
พปชร.ต้องคิดหนัก-แคนดิเคตนายกฯ
เมื่อถามว่า ในการเลือกตั้งครั้งหน้า แคนดิเดตนายกฯ จะเป็นส่วนสำคัญหนึ่งในการชนะเลือกตั้งใช่หรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า แน่นอน เพราะหากแคนดิเดตนายกฯ มีปัญหาเรื่องคุณสมบัติและวาระการดำรงตำแหน่ง ประชาชนต้องดูว่ากล้าที่เลือก หรือเลือกไป แล้วจะมีผลอะไรอีกหรือไม่
เมื่อถามว่าหากคุณสมบัติของพล.อ.ประยุทธ์ มีปัญหาเรื่องวาระการดำรงตำแหน่ง จะส่งผลให้พรรคพลังประชารัฐเสนอชื่อพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร.แทนหรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ตนตอบแทนพรรค พปชร.ไม่ได้ แต่ว่าตอนนี้พรรค พปชร.ต้องคิดหนักว่า ใครที่เหมาะสมเป็นแคนดิเดตนายกฯ ให้พรรคมากที่สุด เพื่อให้พรรคมีโอกาสทางการเมืองและได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง ทั้งนี้ ไม่มีโจทย์ แค่เรื่องวาระการดำรงตำแหน่ง แต่ต้องดูด้วยว่าบุคคลนั้น จะยังได้รับการยอมรับจากประชาชนอีกหรือไม่
‘บิ๊กตู่’ลั่นเดินหน้าพลิกโฉมประเทศ
ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า‘พี่น้องประชาชนชาวไทยที่รักครับ ผมขอแสดงความเคารพอย่างสูง ต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และผมขอขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกคน สำหรับกำลังใจและความปรารถนาดี ที่มอบให้ผมมาโดยตลอด ตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ถือเป็นโอกาสให้ผมได้พิจารณาและตระหนักมากขึ้นว่า
“ผมจะต้องใช้เวลาอันมีค่าที่มีอยู่อย่างจำกัดของรัฐบาล ในการติดตามและผลักดันโครงการสำคัญต่างๆ มากมาย ที่ผมได้ริเริ่มเอาไว้ ให้เดินหน้าและเสร็จสมบูรณ์ สร้างความเจริญก้าวหน้าให้กับบ้านเมืองและสร้างอนาคตให้กับลูกหลานของเรา โดยผมจะใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวด และใช้ศักยภาพของผมอย่างเต็มที่ มุ่งมั่นในภารกิจการพลิกโฉมประเทศ ตามกลยุทธ์3แกนที่ผมเคยกล่าวไว้ ให้สำเร็จเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด”
ชูกลยุทธ์3แกนสร้างอนาคตชาติ
สำหรับเรื่องการเมืองและประเด็นต่างๆรายวันนั้น ผมจะมอบให้เป็นหน้าที่ของท่านอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้ชี้แจงทำความเข้าใจต่อไป เรื่องสำคัญที่สุดเรื่องหนึ่ง ตามกลยุทธ์ 3แกน ก็คือ การขับเคลื่อนเพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญๆ ของประเทศให้เสร็จสมบูรณ์-ทั้งถนน ทางรถไฟ สนามบิน ท่าเรือ ตลอดจนโครงการอื่นๆ ที่เป็นพื้นฐานสำคัญ ในการสร้างอนาคตของประเทศ อีกทั้งโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล ที่จะช่วยสร้างโอกาสให้กับประชาชนทั่วประเทศในด้านต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำมาค้าขาย การเรียนรู้และอื่นๆ ด้วยการเข้าถึงระบบออนไลน์ได้อย่างทั่วถึง โครงการต่างๆ เหล่านั้น เป็นโครงการที่ไม่เคยมีรัฐบาลไหนริเริ่มและดำเนินการได้ ในสเกลที่ใหญ่และบูรณาการขนาดนี้ โดยผมได้เริ่มต้นโครงการต่างๆ ด้วยความรอบคอบ เพื่อให้โครงการสามารถเดินหน้าต่อไป จนบรรลุผลสำเร็จและเปิดให้บริการพี่น้องประชาชนโดยเร็วที่สุด ดังนั้นแม้ว่าบางโครงการจะไปเสร็จสมบูรณ์ในช่วงเวลาของรัฐบาลอื่น ก็จะต้องสามารถเดินหน้าไปได้ด้วยความเรียบร้อย ไม่ติดขัด หรือมีอุปสรรคอันใด เพราะโครงการต่างๆ เหล่านั้น มีความสำคัญอย่างที่สุด เป็นเครื่องรับประกันที่จะทำให้เรามั่นใจได้ว่า ประเทศไทยจะเดินหน้าไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองและเปิดโอกาสให้คนนับล้านๆ คน สามารถสร้างความรุ่งเรืองให้กับตัวเองได้
ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทำปท.รุ่งเรือง
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงเวลาที่สถานการณ์ทางเศรษฐกิจเต็มไปด้วยความท้าทาย โครงการต่างๆ เหล่านั้น ยิ่งมีความสำคัญมากเป็นทวีคูณ ที่จะช่วยให้ทุกคนสามารถพลิกฟื้นการทำมาหากินและสร้างความมั่งคั่งให้กับตัวเองได้ ในวิถีทางที่ยั่งยืนต่อไปในอนาคต ด้วยการเปิดตลาดใหม่ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ สำหรับการค้าขายผลผลิตทางการเกษตรด้วยราคาที่สูงขึ้น การเปิดช่องทางการเข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ สำหรับสินค้าและบริการอื่นๆ การช่วยให้เข้าถึงแหล่งวัตถุดิบต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น ด้วยต้นทุนที่ถูกลง ตลอดจนช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องการเดินทางให้กับนักท่องเที่ยว อีกทั้งยังช่วยกระจายนักท่องเที่ยวไปยังพื้นที่ใหม่ๆได้อีกด้วย
ทั้งนี้ ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาและในหลายๆ ประเทศ การลงทุนก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่สมบูรณ์นั้น เป็นจุดพลิกผันสำคัญในการสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับประเทศนั้นๆและในทิศทางเดียวกัน เมื่อโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่เรากำลังทำอยู่นี้ เสร็จสมบูรณ์ ก็จะสามารถพลิกโฉมประเทศไทย และนำพาประเทศของเรา ให้ก้าวไปสู่ยุคทองแห่งความเจริญรุ่งเรืองของคนไทยทุกคน ในวันข้างหน้าสืบเนื่องไป วันนี้...เราเดินหน้ามาไกลและถูกทิศทางแล้วครับ เราต้องช่วยกันทำให้เสร็จครับ’
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี