เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2565 นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา ในฐานะอดีตเลขานุการคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง( ฉบับที่..) พ.ศ..... และร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่..) พ.ศ..... กล่าวถึงกรณีที่ขณะนี้ครบกำหนดที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ให้ทางรัฐสภา และคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ในฐานะผู้เกี่ยวข้องส่งข้อมูลที่จำเป็น เพื่อประกอบการวินิจฉัยความชอบของกฎหมายดังกล่าวทั้งสองฉบับแล้วว่า ตนไม่มีความกังวลใจใดๆ เพราะเชื่อว่าจะผ่านการวินิจฉัยจากศาลฯ ไปด้วยดีทั้ง2ฉบับ โดยฉบับแรก คือร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งฯ นั้น เป็นร่างของคณะรัฐมนตรี(ครม.)โดยแท้ โดยยกต้นร่างมาจากกกต. ผู้มีหน้าที่และอำนาจในการปฏิบัติ ผ่านครม. โดยการตรวจสอบทบทวนจากคณะกรรมการกฤษฎีกาอีกชั้นหนึ่งแล้วก่อนเสนอต่อสภาฯ จึงเชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาใดในส่วนของเนื้อหา ส่วนกรณีการถูกร้องเกี่ยวกับการพิจารณาของสภาฯที่ดำเนินการไม่เสร็จ 180 วันตามข้อบังคับการประชุมจน ต้องถือว่าสภาเห็นชอบตามร่างหลักแรกนั้น ก็เป็นสิทธิ์ของส.ส.ที่สามารถดำเนินการได้ ไม่ผิดข้อบังคับ และไม่มีปัญหาในเชิงความชอบธรรมแต่อย่างใด
นายนิกร กล่าวต่อว่า ขณะที่ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง อาจมีความซับซ้อนในเชิงผู้มีส่วนชี้แจงเล็กน้อยตรงร่างหลักที่ยึดเอาร่างของพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ใช่ร่างของครม. แต่ก็ทราบว่าทางรัฐสภาได้มีการส่งรายละเอียดเกี่ยวกับเจตนารมณ์ และวิธีการดำเนินการประชุมของกรรมาธิการจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง คือประธานคณะกรรมการ และสำนักประชุมของสภาฯ เรียบร้อยแล้วเช่นกัน ซึ่งตนไม่ได้มีความกังวลต่อข้อโต้แย้งจากสมาชิกรัฐสภา 77 ท่านที่เข้าชื่อกันร้องไปเนื่องจากข้อโต้แย้งแรกๆที่สำคัญคือการลดคุณสมบัติการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองที่มีการปรับปรุงแก้ไขให้ต่ำกว่าการเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีหรือสมัครส.ส.เพียงเล็กน้อยนั้นก็เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างกว้างขวางขึ้นตามเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญที่มีอยู่นั่นเอง คณะกรรมาธิการเสียงส่วนใหญ่จึงมีมติเห็นชอบกับการปรับปรุงแก้ไขดังกล่าว
นายนิกร กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีการทำไพรมารี หรือการเลือกตั้งขั้นต้น เป็นการแก้ไขปัญหาความไม่เป็นจริงตามเจตนารมณ์ที่คาดหวัง ทั้งยังมีความยุ่งยากสิ้นเปลืองไม่สามารถปฏิบัติจริง จนทำให้คสช.ต้องออกคำสั่งที่ 13/2561 ซึ่งอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับเดียวกันนี้ มาระงับยับยั้งคลี่คลายการใช้ตัวแทนจังหวัดแต่ละเขตเป็นใช้เพียงแห่งเดียวและเลือกตั้งเบื้องต้นสำหรับการสรรหาผู้สมัครทั้งสองแบบไว้ในการเลือกตั้งทั่วไปของสภาชุดที่25นี้ในปี2562ที่ผ่านมา ซึ่งการปรับปรุงแก้ไขในร่างพ.ร.ป.พรรคการเมืองฉบับใหม่นี้ก็เขียนล้อตามคำสั่งคสช.ที่13/2561ที่ว่านั้น นอกจากนั้นในการพิจารณาของคณะกรรมาธิการก็ได้การเพิ่มการดำเนินการให้สมาชิกพรรคต้องให้ความเห็นชอบกับทั้งรายชื่อผู้สมัครแบบเขตกับชื่อกับชื่อผู้สมัคร ทั้งแบบบัญชีรายชื่อตามวิธีการที่กกต.กำหนดเพิ่มจากคำสั่งคสช.ที่13 ตามความเห็นของกรรมาธิการฝ่ายวุฒิสมาชิกขึ้นไปอีก ดังนั้นจึงถือว่าไม่น่าจะมีปัญหาใดขัดหรือแย้งกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญอย่างแน่นอน เพราะถ้าวิธีการแบบในร่างพรป.ว่าด้วยการเลือกตั้งฉบับใหม่นี้ขัดหรือแย้ง การเลือกตั้งปี 2562 ที่ผ่านมาตามคำสั่งคสช.ก็ต้องถือว่าขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญนี้เช่นกันอันจะทำให้ผลการเลือกตั้ง 2562 เป็นโมฆะทั้งหมดซึ่งจะเป็นเช่นนั้นไปไม่ได้เลย
“ขอเรียกร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญเร่งรัดในการพิจารณาวินิจฉัยกฎหมาย 2 ฉบับดังกล่าวโดยเร่งด่วน เพราะขณะนี้การเลือกตั้งทั่วไปใกล้เวลาเข้ามามากเกือบถึงที่สุดแล้ว ขณะนี่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งกกต.ที่รับผิดชอบจัดการการเลือกตั้ง ทั้งพรรคการเมือง และผู้สมัครเองก็ไม่สามารถจะดำเนินการใดๆไปได้ตามที่ควรเป็น ด้วยว่ากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่สำคัญทั้ง2ฉบับยังค้างคาอยู่ จึงขอวิงวอนร้องขอไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้กรุณาดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจอย่างเร่งด่วนให้เสร็จการตามความจำเป็นนี้ต่อไป” นายนิกร กล่าว
- 004
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี