วันจันทร์ ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
คุยเข้มๆกับ‘เสรีพิศุทธ์’ เปิดหมดเปลือกแผนสู้ศึกเลือกตั้ง

คุยเข้มๆกับ‘เสรีพิศุทธ์’ เปิดหมดเปลือกแผนสู้ศึกเลือกตั้ง

วันอาทิตย์ ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2565, 08.30 น.
Tag : บทสัมภาษณ์พิเศษ เสรีพิศุทธ์ เสรีรวมไทย สกู๊ปการเมืองแนวหน้า สู้ศึกเลือกตั้ง
  •  

คุยเข้มเข้ม! กับ ‘พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์’ แม่ทัพ ‘เสรีรวมไทย’ ลุยสานต่อสารพัดนโยบาย ‘สู้ศึกเลือกตั้ง’ มองบทเรียน ‘โศกนาฏกรรมหนองบัวลำภู’ ถึงเวลางัด ‘ไม้แข็ง’ ออกมาใช้! ลั่น ‘ยุคทักษิณ’ ที่ว่าปราบยาเสพติดเก่งๆ แต่ถ้าเป็นผม ‘ดีกว่าแน่นอน’

นับว่า “เข้าโค้งสุดท้าย” แล้ว หากไม่มีอะไร “ผิดพลาด” หรือเกิด “อุบัติเหตุ” ทางการเมือง  “การเลือกตั้ง” ครั้งถัดไปจะเกิดขึ้นในปี 2566 ส่วนจะเร็วหรือช้าในปี 66 ขึ้นอยู่กับปัจจัย ทั้ง  “เสถียรภาพ” ของ “รัฐบาลปัจจุบัน” ทั้ง ตัวบท “กฎหมายลูก” 2 ฉบับว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และว่าด้วยพรรคการเมือง เพื่อให้สอดรับ ที่กำลังอยู่ในการพิจารณาในรายละเอียดของ “ศาลรัฐธรรมนูญ”


ช่วงนี้ถนนทุกสายของบรรดา “พรรคการเมือง” จึงมุ่งตรงไปหา “ประชาชน” ต่างปั้นสารพัดนโยบาย แลกทำคะแนนซื้อใจ “ชาวบ้าน” ด้วยหวังเมื่อถึง “วัน ว.เวลา น.” เขาจะเข้าคูหาไปกา “คนที่ใช่” ประกอบกับเริ่มจัดทัพ วางตัวขุนพลเพื่อลงสู้ศึกฟาดฟันช่วงชิงคะแนนในการเลือกตั้ง ปลายทางคือจับขั้วกันตั้งเป็น “รัฐบาล” เถลิงอำนาจ เข้าสู่การบริหารบ้านเมือง ส่วนจะฟากไหน ซีกไหน จะบัตรใบเดียว หรือสองใบ คงต้องติดตามอีกซักระยะ

เจาะลงมาที่อีกหนึ่งพรรคการเมืองที่ดูน่าสนใจในองคาพยพ “พรรคร่วมฝ่ายค้าน” ปัจจุบัน อย่าง “พรรคเสรีรวมไทย” ก็เริ่มขยับมุ่งตรงเข้าสู่ “โหมดการเลือกตั้ง” ภายใต้การนำของ “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส” ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย อดีต “ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ” จะเดินไปในทิศทางใดต่อจากนี้

“ทีมข่าวแนวหน้า” ได้ลงไปสัมภาษณ์พิเศษ “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์” ในบรรยากาศเป็นกันเอง จั่วหัวเริ่มกันที่ “การเตรียมความพร้อมของพรรค และนโยบายหลักๆเพื่อรับศึกเลือกตั้งที่จะมาถึงในอนาคตอันใกล้นี้” หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เปิดฉากเล่าว่า เวลาเป็นสิ่งสำคัญ เราได้มอบหมาย ส.ส.ของพรรคในปัจจุบัน และวางตัวคนที่คิดว่าจะเลือกให้เป็นผู้สมัครส.ส.ของพรรค ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนมาโดยตลอดตั้งแต่ช่วงโควิด ไม่ให้ขาด

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เล่าต่อว่า ตนทำงานมาตลอดชีวิตตั้งแต่เกษียณจากตำแหน่ง ผบ.ตร.ในปี 2551 จากนั้นลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่อาจเฉพาะใน กทม. แต่พอมาเป็น ส.ส.เราได้ลงพื้นที่ทั่วประเทศช่วยลูกพรรคหาเสียง ก็ได้พบความจริงที่พี่น้องประชาชนเดือดร้อน จึงจัดลำดับความสำคัญมากน้อยกว่ากัน

“หลายคนเข้าใจว่าเรื่องเศรษฐกิจปากท้องประชาชนเป็นเรื่องสำคัญมากที่สุด แต่จากที่ผมลงพื้นที่ไป สิ่งที่ประชาชนต้องการ และเดือดร้อนมากที่สุดคือ เรื่องที่ดินอยู่อาศัย ที่ดินทำกิน ในประเทศไทยคนจะมีปัญญาซื้อที่ดินเป็นของตัวเองมีไม่มาก ระดับชาวบ้านก็มีแค่พอใช้จ่ายไปวันๆ จึงไปอยู่ในที่ ส.ป.ก.บ้าง ไปบุกรุกที่นายทุนบ้าง ไปอยู่ที่ป่าเสื่อมโทรมบ้าง ขอน้ำ ไฟ อินเตอร์เน็ตก็ไม่ได้ เขาจึงร้องเรียนมาให้ผมช่วยตลอดเวลา”

หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวต่อว่า เราจึงกำหนดเป็นนโยบาย “ที่อยู่อาศัยที่ดินทำกิน” ให้ประชาชน ตามหลัก “1ในปัจจัย4” คือ ยา อาหาร เครื่องนุ่งห่ม และที่อยู่อาศัย ประการต่อมาคือ “นโยบายเรียนฟรีจนจบปริญญาตรี” ตามรัฐธรรมนูญปี 2569 ระบุว่า รัฐจะต้องให้เรียนฟรี 12 ปี ตั้งแต่ประถม-มัธยม แต่การจะพัฒนาประเทศ ต้องเตรียมประชาชนให้พร้อม คือ “มีการศึกษา อยู่ดีกินดี มีความสุข” ทุกอย่างก็จะไปได้

“อย่างดีเขาก็จบแค่ ม.6 เพราะรัฐให้เรียนฟรีแค่นั้น เรียนสูงกว่านั้นไม่ได้ ดังนั้นรัฐต้องส่งเสริมให้เรียนฟรีจนถึงระดับปริญญาตรี อาจจะใช้งบประมาณมากขึ้น แต่ปัจจุบันเราใช้งบฯถูกกันหรือไม่ ถ้าเราไม่ใช้งบฯ ไปซื้ออาวุธ หรือไปทุจริต มันก็มีเงิน”

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เล่าต่อเนื่องถึงนโยบายหลักของพรรคว่า ต่อมาคือนโยบาย “ยกหนี้กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.)” ล่าสุดแม้สภาฯผ่านให้ที่การหยุดพักชำระหนี้ แล้วไม่คิดดอกเบี้ย แต่ยืนยันว่านโยบายเราคือยกหนี้ให้ทั้งหมด พอคนเรียนไม่มีเงิน ต้องกู้ยืม พอจบมาหวังจะทำงานเพื่อใช้หนี้ให้ รัฐก็ไม่มีปัญญาให้งานทำ รายได้ก็ไม่มีแถมถูกฟ้องอีก ตกลงเราตั้ง กยศ.มาสร้างความเดือดร้อนหรือไม่

“มันถึงเวลาที่เราจะยกเลิกหนี้ กยศ.ให้ บางคนก็บอกว่าไม่สมควร เพราะจะทำให้คนเกิดความคิดว่าเป็นหนี้แล้วไม่ชำระหนี้ มันไม่ถูก ส่วนคนที่ใช้หมดไปก็หมดไป อย่าไปอิจฉาคนที่ถูกยกเลิกหนี้ อีกอย่างจะได้นำเงินไปดูแลตัวเอง ดูแลครอบครัว เงินมันหมุนเวียนในประเทศ ไม่ใช่เอาเงินออกนอกประเทศ เท่าที่ผมตรวจการยกหนี้ กยศ. จะต้องใช้งบประมาณรัฐ 6-7 แสนล้านบาท ถือว่าไม่มากในงบประมาณรัฐ”

หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวต่อว่า เป็นการช่วยประชาชนที่เดือดร้อนให้ลืมตาอ้าปากได้ ไม่ใช่เพิ่งจะเริ่มสตาร์ทชีวิตตอนอายุ 20 กว่า แต่ต้องเป็นหนี้ ติดปัญหา ถูกฟ้องอะไรต่างๆ ถ้าปลอดเรื่องเหล่านี้ชีวิตก็เดินไปข้างหน้าได้ ถ้าเรามีกำลังพอ มี ส.ส.มากกว่านี้พอที่จะทำกฎหมายเหล่านี้ได้ก็จะพยายามดำเนินการให้

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ร่ายให้ฟังถึงนโยบายต่อมาคือนโยบาย “รักษาพยาบาลฟรี” ทั้งหมด ด้วยบัตรประชาชนคนไทยใบเดียว จากนโยบาย “30บาทรักษาทุกโรค” ในสมัย “รัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร” รักษาต่างที่ไม่ได้ และ 30 บาทมันนิดเดียว ทำไมเราไม่ให้ฟรีไปเลย อย่างไรก็ตาม นโยบายเหล่านี้อาจใช้งบฯมากขึ้นก็จริง แต่ไม่เกินกำลังงบฯ

อีกนโยบายที่สำคัญคือบำนาญประชาชน และผู้พิการ 3,000 พันบาทต่อเดือน ขณะนี้ทุกพรรคลอกของผมไปหมด ไปดูได้เลย ผมทำมาตั้งนานแล้ว แต่เราก็ถือว่าดี คือช่วยกัน ไม่ควรหวงห้าม และเราไม่ได้จดลิขสิทธิ์ และได้กำหนดเกณฑ์ที่จะได้รับบำนาญประชาชนตั้งแต่อายุ 65 ปีขึ้นไป รวมถึงเราต้องการแก้ไขให้ข้าราชการเกษียณที่อายุ 65 ปีด้วย เพราะเกษียณที่ 60 ปี ยังเป็นวัยที่กำลังทำงาน จะทำให้เสียดายบุคลากรที่มีความรู้ มีประสบการณ์

“มากันที่นโยบายเลิกเกณฑ์ทหาร เด็กเล็กเงินทองไม่มี หรือเป็นดารากำลังทำรายได้จำนวนมาก แต่ปรากฏว่าต้องไปเกณฑ์ทหาร หมดอนาคตเลย จึงคิดว่าต้องยกเลิกไม้ต้องเกณฑ์ ให้ใช้เป็นระบบสมัครใจ เหมือนเป็นทหารจ้างให้ทำงานไป ให้หลักสูตร ให้อาชีพเขา นอกจากฝึกป้องกันตัว ฝึกวิธีการรบ นอกจากนี้เมื่อได้เป็นทหารเกณฑ์ รัฐจะต้องเป็นภาระจ่ายค่าอุปกรณ์เครื่องแต่งกายทหาร แล้วยังกินเงินทอน โกงกันอีก เมื่อโกงกันมากก็ต้องเลิกเกณฑ์”

ประเด็นสำคัญที่จะพลาดไม่ได้เลยในการคุยครั้งนี้กับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ คือการสะท้อนบทเรียนสำคัญของประเทศไทยผ่านเหตุการณ์ “โศกนาฏกรรมกราดยิงพราก 37 ชีวิตผู้บริสุทธ์” ที่จังหวัดหนองบัวลำภู จนสังคมไทยอยู่บนความเศร้าโศก และตกตะลึงไปชั่วขณะใหญ่ “แม่ทัพใหญ่พรรคเสรีรวมไทย” เริ่มเกริ่นถึงบ่อเกิดของปัญหาดังกล่าวว่า

ฟังๆดูจากนโยบายของคนอื่นยังแคบๆอยู่ ไม่เป็นรูปธรรม เพราะปืนมีจำนวนมาก ทั้งปืนที่ได้รับอนุญาต และปืนเถื่อน เต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด ส่วนหนึ่งมาจากการปล่อยให้มีการขายใบอนุญาตร้านค้าอาวุธปืนสะสมมาเป็น 10 ปี แล้วเมื่อตกไปอยู่กับคนที่ขาดความยั้งคิด ก็เกิดปัญหา

“ดังนั้นนโยบายของพรรคเรา ที่ถือเป็นนโยบายใหม่คือ ยึดอาวุธปืนคืนหมด ที่อยู่ในมือเจ้าหน้าที่ ประชาชน อย่างเจ้าหน้าที่ให้พกอาวุธปืนได้เฉพาะที่จำเป็นต้องใช้ หรือมีหน้าที่ปราบปรามโดยเฉพาะ เช่น ทหาร เจ้าหน้าที่อุทยาน กรมป่าไม้ กรรมสรรพสามิต ศุลกากร เป็นต้น แต่ให้มีเฉพาะช่วงปฏิบัติงาน พอหลังเลิกงานต้องคืนหลวง ไม่นำไปติดตัว เผื่อไปเผ่นผ่าน พอเมาแล้วก็ไปยิงเขา ยกเว้นตำรวจที่อาจเผชิญเหตุซึ่งหน้าได้ตลอด จึงจำเป็นต้องพกติดตัวไว้ตลอดเวลา”

ขณะที่ปืนเถื่อนก็เต็มบ้านเมืองไปหมด ถึงนำไปทำร้ายประชาชนได้ วิธีแก้ไขปัญหาคือออกกฎหมายเก็บอาวุธปืนทั้งหมด ไม่ให้ประชาชนถือเลย ส่วนที่ประชาชนซื้อมาแล้วแบบถูกกฎหมายก็จ่ายเงินคืนไปตามจำนวนที่ซื้อมา ด้านปืนเถื่อนต้องมอบคืนทันที ไม่มีการซื้อคืน” 

จากนั้นเมื่อกรรมวิธีเหล่านี้เสร็จสิ้น หรือออกฎหมายต้องให้เสร็จภายใน 6 เดือน หลังจากนั้นถ้าใครถูกจับ หรือนำปืนไปประทุษร้ายต่อร่างกายก็ “จำคุกตลอดชีวิต” และใครนำปืนไปฆ่าคนต้อง “ประหารชีวิต” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวพร้อมกับนำแผ่นโบชัวร์ซึ่งเป็นนโยบายของพรรคในช่วงหาเสียงเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ขึ้นมาโชว์ เพื่อสื่อว่านโยบายต่างๆ ที่แจกแจงมา เป็นนโยบายที่ใช้ตั้งแต่การเลือกตั้งในปี 62 และจะสานต่อให้เป็นรูปธรรมในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ผนวกกับนโยบายใหม่ที่จะเกิดขึ้นอีก

เมื่อถามถึงแนวทางการป้องกันเหตุความรุนแรงในสังคม หากได้โอกาสเป็นรัฐบาล จะแก้ไขอย่างไร หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ตอบว่า ถ้าเก็บอาวุธปืนหมดแล้วจะมีได้อย่างไร แต่ความรุนแรงคำจำกัดความของแต่ละคนมองไม่เหมือนกัน แต่สำหรับตนคิดว่าถ้าไม่ใช้อาวุธ มีด ไม้ ปืน แค่เอาไหล่ชนกัน หรือจะชกกัน ถือว่าไม่รุนแรง

ถามต่อเนื่องถึงแนวทางการแก้ไขปัญหายาเสพติด กับนโยบาย “ทำสงครามกับยาเสพติด” ของรัฐบาลในปัจจุบัน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ในฐานะอดีต ผบ.ตร. กล่าวว่า ทหารอาจไม่ได้เป็นหน่วยหลักเหมือนตำรวจในการดำเนินการเรื่องนี้ แต่ตามแนวชายแดนที่ทหารดูแลอยู่ ยาเสพติดยังเข้ามาอยู่หรือไม่ แต่ถ้าเราเป็นรัฐบาลก็ต้องดูแลเพิ่มไปมากกว่านี้

“นายกฯที่ปราบยาเสพติดได้ดีที่สุดทุกคนก็บอกว่านายทักษิณ ชินวัตร ผมก็เลยถามไปว่านายทักษิณกับผมก็รับราชการตำรวจพร้อมกัน แล้วไปเรียนต่างประเทศ เรียนจบมาก็ปรับเป็น พ.ต.ท. แล้วก็ลาออกไปทำธุรกิจ เขายังสามารถปราบได้ดีกว่านี้เลย แล้วผมเนี่ยเป็นมือปราบมาตลอดชีวิต เชื่อหรือไม่ว่าผมทำได้ดีกว่านายทักษิณ ผมดีกว่าแน่นอน ดังนั้น ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้ เพียงแต่ว่าจะปราบอย่างไร มันต้องขอกันหน่อย แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้”

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ตอบข้อซักถามเกี่ยวกับประเด็นยาเสพติดที่ยังระบาดลามเข้าไปมากในสถานศึกษา หรือสถานที่ต่างๆ โดยสะท้อนมุมมองว่า ต้นเหตุคือการที่เราไม่ได้พัฒนาคนให้เป็นคนดีด้วยการศึกษา ยกตัวอย่างเช่น ตำรวจชั้นประทวนรับวุฒิ ม.6 ในขณะที่ประชาชนจบมหาวิทยาลัยทั้งนั้น ความรู้ต่ำกว่าเขาแล้วจะไปดูแลประชาชนได้อย่างไร ส่วนจะต้องมีการแก้กฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษมันหนักขึ้นหรือไม่นั้น ต้องดูตามสถานการณ์ว่าปราบปรามได้มากน้อยแค่ไหน

“ถ้าปราบได้มากบางทีก็ไม่จำเป็นต้องแก้โทษแก้กฎหมายเท่าไหร่ เพราะยาเสพติดมันรวมทั้งคนคนเสพ คนขาย คนซื้อ ถ้าอยู่ดีๆ ไปกำหนดมาตรการหนักซะเลย มันก็ไม่ใช่ แต่ถ้าเราพัฒนาคนด้วยการศึกษา ส่งเสริมให้เรียนจบปริญญาตรี มีงานทำ เรื่องเหล่านี้ก็จะลดน้อยลง การจับกุมเป็นเรื่องปลายเหตุ

สิ่งที่จะแก้ปัญหาต่างๆได้ยาวนาน และสมบูรณ์ที่สุด โดยเฉพาะเรื่องปากท้องคือการให้ความรู้ประชาชน พัฒนาคน ถ้าไปปิดกั้นไม่ให้เขามีความรู้ ปล่อยให้เขาโง่ แล้วจะทำอะไรก็ได้มันไม่ถูก ต้องให้เขารู้เท่าเรา เราจะข่มเหงเขาไม่ได้ เขารู้เท่าเรา เขาก็หากินได้เหมือนเรา แล้วมันจะยากจนได้อย่างไร”

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ทิ้งท้ายด้วยว่า “จะเป็น ส.ส. ท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ก็เลือกมาเอาเงิน นั่นคือประชาชนยังไม่พร้อม แต่ถ้าคนมีฐานะมีความรู้ เขาจะเข้ามาซื้อเสียงหรือไม่ เขาก็เข้าไปในชุมชนที่ยากจน ฉะนั้นถ้าคนมีการศึกษาเพิ่มมากขึ้น ทุกอย่างก็หมดไปเอง การศึกษาเป็นหลัก”

คงต้องติดตามกันต่อไปในการเลือกตั้งครั้งที่กำลังจะมาถึงในอนาคตอันใกล้นี้ หนึ่งในพรรคร่วมฝ่ายค้าน ณ ปัจจุบัน อย่าง “พรรคเสรีรวมไทย” จะมีพละกำลังมากพอที่จะปักธงคว้า ส.ส.ในพื้นที่ใดได้หรือไม่ รวมไปจนถึงจะจับขั้วกันกับฝักฝ่ายใด เพื่อที่จะผลัดจากซีกค้าน ฝ่ายตรวจสอบ มาเป็น “ฝ่ายรัฐบาล” ซีกบริหารราชการแผ่นดิน และถูกตรวจสอบ ในไม่ช้าก็คงจะรู้กัน

ทีมข่าวแนวหน้า สัมภาษณ์พิเศษ

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘เสรีพิศุทธ์-จตุพร’ตามบี้ป่วยทิพย์ชั้น14 จี้จับ ‘แม้ว’กลับคุก ‘เสรีพิศุทธ์-จตุพร’ตามบี้ป่วยทิพย์ชั้น14 จี้จับ ‘แม้ว’กลับคุก
  • ‘ทำตัวดีๆเผื่อได้เป็นรองนายกฯ’  ‘ทักษิณ’เย้ย‘หนูรี’  หลังถูก‘เสรีพิศุทธ์’หยัน  ขู่ระวังจะติดคุกคดีชั้น14 ‘ทำตัวดีๆเผื่อได้เป็นรองนายกฯ’ ‘ทักษิณ’เย้ย‘หนูรี’ หลังถูก‘เสรีพิศุทธ์’หยัน ขู่ระวังจะติดคุกคดีชั้น14
  • ยังไม่คิดเอาใครเข้า/เขี่ยใครออก ‘แม้ว’โวรบ.เสียงเยอะ ถ้าปรับครม.ก็ต้องปรับทีเดียว ยังไม่คิดเอาใครเข้า/เขี่ยใครออก ‘แม้ว’โวรบ.เสียงเยอะ ถ้าปรับครม.ก็ต้องปรับทีเดียว
  • \'เสรีพิศุทธ์\'ลั่นจะเอา\'ทักษิณ\'เข้าคุกให้ได้ เตือนรีบหนีตั้งแต่วันนี้ เชื่อ 30 เม.ย.ไม่รอดแน่ 'เสรีพิศุทธ์'ลั่นจะเอา'ทักษิณ'เข้าคุกให้ได้ เตือนรีบหนีตั้งแต่วันนี้ เชื่อ 30 เม.ย.ไม่รอดแน่
  • ‘เสรีพิศุทธ์’ ซัด ‘ปชน.’ ส่อฮั้ว ‘เพื่อไทย’ ปมยื่นถอดถอน ครม. เหน็บ‘ทักษิณ’เที่ยว‘ส.ท.ร.’ไปทั่ว ‘เสรีพิศุทธ์’ ซัด ‘ปชน.’ ส่อฮั้ว ‘เพื่อไทย’ ปมยื่นถอดถอน ครม. เหน็บ‘ทักษิณ’เที่ยว‘ส.ท.ร.’ไปทั่ว
  • \'เสรีพิศุทธ์\'จี้ ปปช.กลับไปชั้น 14 รพ.ตำรวจอีกรอบ ชี้ยังไม่ได้ตรวจห้อง\'ทักษิณ\'นอนป่วย 'เสรีพิศุทธ์'จี้ ปปช.กลับไปชั้น 14 รพ.ตำรวจอีกรอบ ชี้ยังไม่ได้ตรวจห้อง'ทักษิณ'นอนป่วย
  •  

Breaking News

ฝนถล่มตอนใต้จีน เสียชีวิต 5 ราย ประกาศเตือนภัยระดับเหลือง

‘สว.นันทนา’เผยล่าชื่อ20สว.ยื่นศาลรธน.ขอหยุดทำหน้าที่เฉพาะเห็นชอบองค์กรอิสระ เสร็จในสัปดาห์นี้

'ธิดา'เตือน'ทักษิณ'อย่ากลัวคุก! แนะเข้าเรือนจำ จะส่งผลดีต่อ 'อิ๊งค์-เพื่อไทย-ประเทศชาติ'

‘หมวดอ้วน’ ตำรวจหล่มสัก 'โชว์ลูกคอ' บนถนนคนเดิน-สร้างรอยยิ้มให้ชาวบ้าน

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved