‘ชวน’ แจงให้สั่งฟ้องตัวเองปม ‘ทักษิณ’ ฟ้องหมิ่นกรณีเหตุการณ์กรือเซะ-ตากใบ เหตุคดีกำลังจะหมดอายุความ หวั่นทำองค์กร ‘อัยการ-ตำรวจ’ เสื่อมเสีย ตอกย้ำความรุนแรงเกิดจากการบริหารผิดพลาด สูญเสียลากยาวจนปัจจุบัน

26 ตุลาคม 2565 ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวถึงกรณีมอบหมายให้นายราเมศ รัตนะเชวง เลขานุการประธานรัฐสภา เป็นทนายความติดตามคดีที่ถูกนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ฟ้องร้องฐานหมิ่นประมาท กรณีบรรยายเมื่อปี 2555 พาดพิงเกี่ยวกับความรุนแรงในเหตุการณ์กรือเซะ-ตากใบ ว่า คดีดังกล่าวจะหมดอายุความในวันที่ 28 ต.ค.นี้ แต่คดียังอยู่ที่สถานีตำรวจ ยังไม่มีหมายเรียกมาถึงตน ดังนั้นถ้าตนต้องรอหมาย คดีอาจจะขาดอายุความได้ และจะส่งผลให้ตำรวจและอัยการเสียหาย

นายชวน ระบุว่า ส่วนตัวถือหลักว่าทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเท่าเทียมกัน จึงได้ขอให้นายราเมศ ประสานตำรวจและอัยการ และขอให้อัยการดำเนินการฟ้องร้องตนเองเพื่อไม่ให้อายุความขาด และเมื่อตนถูกกล่าวหาก็มีหน้าที่สู้คดีไปตามกระบวนการ ทำให้ขณะนี้อัยการมีการสั่งฟ้องเป็นที่เรียบร้อย และได้มีการพิมพ์ลายนิ้วมือในฐานะผู้ถูกกล่าวหาแล้ว ส่วนกรณีหมายเรียกรับทราบข้อกล่าวหาที่ยังไปไม่ถึงตนนั้น เพิ่งได้รับรายงานเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา ว่าหมายดังกล่าวเพิ่งไปถึงจังหวัดตรังแล้ว

“สิ่งสำคัญที่สุดในระบอบประชาธิปไตย ทุกคนต้องเคารพกฎหมาย และทุกคนต้องรับผิดชอบ ผมเป็นคนพูดอะไรพูดตรง ไม่พูดอะไรที่ไม่จริง และเมื่อพูดแล้วก็ต้องรับผิดชอบกับคำพูด เมื่อมีคดีเกิดขึ้นก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย” นายชวน กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่ายังยืนยันที่เกิดขึ้นกรณีกรือเซะ-ตากใบ เป็นความผิดพลาดของรัฐบาลในขณะนั้นจริงอยู่หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า เรื่องที่ฟ้องร้องเป็นเรื่องจากสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นนโยบายการแก้ไขปัญหาในสมัยที่มีการใช้คำพูดเรียกว่า “โจรกระจอก” ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนยืนยันหลายครั้ง ว่าเป็นความผิดพลาดที่นำไปสู่ความสูญเสียครั้งสำคัญจนมาถึงทุกวันนี้ แต่ทั้งหมดเมื่อเป็นคดีความแล้ว ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของคดี

-005