ตกตะลึง! “ตู้ ห่าว” เหตุไฉนปล่อยกัดกร่อน “ประเทศไทย” ถึงเพียงนี้ ศึกเดิมพันวัดใจ “ฝ่ายตรวจสอบ” สาวขบวนการข้ามชาติ โยงทะลวง “นักการเมืองไทย” เอี่ยวพันวุ่น
“เป็นอึ้ง” กันเลยทีเดียว เมื่อได้รับรู้ว่าใน “ประเทศไทย” เรา มี “แก๊งมังกรแดง” ชุบตัวชโลมเกล็ดเปลี่ยนสีเป็น “แก๊งมังกรเทา” ฝังหนอกจำศีลเป็น “1ใน5เสือทุนจีนสีเทา” ในไทย มาเป็นระยะเวลาเหยียบ “10ปี”
“หาวเจ๋อ ตู้” หรือ “ตู้ห่าว” ชื่อนี้ที่กำลังเป็นที่น่าจับตามองในสังคม สรุปเหตุคร่าวๆ จากการขยายผลบุกจับกุม “สถานบันเทิงย่านยานนาวา” เมื่อช่วงปลายเดือนต.ค.ที่ผ่านมา
จนถูก “ออกหมายจับ” ในคดีพัวพัน “ยาเสพติด” แต่เจ้าตัวชิง “มอบตัว” ก่อนที่จะถูก “รวบจับ” จึงถูกจับฝากขังทันที ก็ว่ากันไปตาม “คดีอาญา”
แต่เมื่อสาวลึกลงไปในรายละเอียดจึงพบว่า “ตู้ห่าว” ไม่ได้แค่พัวพันยาเสพติด แต่เป็น “ตัวการใหญ่” ตามที่เกริ่นไปหัวเรื่องใน “แก๊งมังกรเทา”
นั่นก็คือ “ทุนจีนสีเทา” ที่เข้ามาประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย ทั้งบ่อนการพนัน สถานบันเทิง ฯลฯ
“สปอร์ตไลต์” จึงส่องไปที่ “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” ในยุคนี้ภายใต้การนำของ “พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์” ผบ.ตร. กับคดีแบบนี้ถือเป็น “งานช้าง”
โดยเฉพาะในแง่ของการขยายผลเพื่อทลาย “แก๊งตู้ห่าว” ตร.จึงตั้ง “2บิ๊กรองผบ.ตร.” คือ “บิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล - บิ๊กต่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล” เป็นหัวหน้าชุดสางปม
ที่ “อ้าปากค้าง” ไปมากกว่านั้น คือคำถามที่ว่า ทำไมถึงปล่อยให้ “ตู้ห่าว” ที่เป็น “สัญชาติจีน” เข้ามาแทบจะกินรวบ “ประเทศไทย” ได้ขนาดนั้น
ทว่า “ชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์” คือชื่อไทย ของ “ตู้ห่าว” หอบ “เสื่อผืนหมอนใบ” มาเริ่มสร้างเครือข่าย โดยเริ่มกระบวนการขอ “สัญชาติไทย” ต่อ “ตำรวจสันติบาล” ตั้งแต่ช่วงปี2554 นั่นปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นช่วงสมัยรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”
และได้สัญชาติไทยอย่างเป็นทางการในปี2556 สำหรับกระบวนการขอสัญชาติ เกี่ยวข้องกับ “กระทรวงมหาดไทย” โดยตรง และในช่วงนั้น “จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ” เป็น “มท.1”
เพิ่มความ “ตกตะลึง” เข้าไปอีก ในช่วง “เอาหูไปนาเอาตาไปไร่” ของฝ่ายตรวจสอบไทยตั้งแต่อดีตที่ผ่านมา
เพราะเมื่อ “2บิ๊กรองผบ.ตร.” สืบขยายผลลงไปๆ ก็พบว่า “ตู้ ห่าว” มีแหล่งซ่องสุม ทั้งบ้าน คอนโด รวม “50แห่ง” ทั้งกทม. ต่างจังหวัด
นอกจากนี้ยังมีรถหรูมากมาย ไปยันเครื่องบิน ซึ่งเป็นน่าฉงนว่า ทำไมปล่อยคน “ต่างด้าวต่างแดน” เข้ามาแพร่ขยายอิทธิพลเทาในแผ่นดินไทยได้ถึงเพียงนี้
อีกประเด็นสุดสำคัญอยู่ที่ “ความเชื่อมโยง” กับบรรดา “อดีตรัฐมนตรี-อดีตคนมีสี” ที่แน่ๆเลย คือตู้ห่าว มีศักดิ์เป็นหลานเขย “พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก” อดีตรมว.ยุติธรรมยุคยิ่งลักษณ์ อดีตผบ.ตร.
ที่ พล.ต.อ.ประชา มีหลานสาวเป็น “นายตำรวจหญิงยศพ.ต.อ.” สังกัดตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งเป็นภรรยา ตู้ ห่าว จึงเริ่มเห็นความเชื่อมโยง เกี่ยวกับกระบวนการขอสัญชาติไทย
เท่านั้นยังไม่พอ ตู้ ห่าว ยังกว้านซื้อหมู่บ้าน “แกรนด์ บางกอก บูเลอร์วาร์ด” ย่านสุขุมวิท อันเป็นโครงการของบริษัท “เอสซี แอสเสท” ที่เป็นเครือข่าย “ตระกูลชินวัตร” 50 จาก 66 หลังทั้งโครงการ
หลีกเลี่ยงไม่ได้ว่าเครือข่ายเชื่อมโยงซีกการเมือง ฝ่าย “พรรคเพื่อไทย” แทบจะเต้นผาง! อยู่ไม่เป็นสุข
เพราะ “หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย” อย่าง “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร” ลูกสาวเจ้าของพรรคตัวจริง อย่าง “โทนี่ ทักษิณ ชินวัตร” ก็ถือ “หุ้นใหญ่” อยู่ใน “เอสซี แอสเสท”
ไหนจะก่อนหน้านี้ ตู้ ห่าว เคยสวมบท “นายทุนจีน หน้าใหญ่” บริจาคให้ “พรรคพลังประชารัฐ” พรรคแกนนำฝ่ายรัฐบาล ถึง “3 ล้านบาท” เมื่อปี 2564
อย่างไรก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้ว่า ตัวการใหญ่ทุนจีนสีเทาคนนี้ เชื่อมโยง “นักการเมือง” อาจจะทั้งฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาล ลามไปถึง “คนมีสี ข้าราชการ นักธุรกิจ” ในวงการ
เป็นหน้าที่ “กรมปทุมวัน” กับ “2บิ๊กรองผบ.ตร.” ที่ว่าไว้ว่า ถ้าตรวจสอบใครเชื่อมโยง จะออกหมายจับทันที แม้จะไม่มีการเรียกมาสอบปากคำก็ตาม
สังคมกำลังตั้งความหวังไว้สูง เรื่องแบบนี้ถ้าสามารถ “ล้างขบวนการ” ได้แบบล้างบาง เสียงปรบมือคงดังกึกก้องทั่วไทยแน่นนอน
ขอเพียงอย่า “ลูปหน้าปะจมูก” อย่า “มวยล้มต้มคนดู” เพราะคดีนี้คือโหมด “อาชญากรรม-การเมือง” อย่างแท้จริง ตัวการทุนจีนสีเทา อาจจะขยายผลลามสางปม ที่มี นักการเมือง และฯลฯ ไปเอี่ยวพัวพันทั้งก๊กก๊วน
ภายในห้วงเดือนธ.ค.นี้คงไม่เกินรอ ที่จะไขปมให้กระจ่างคลี่คลาย และหวังว่าก่อนสิ้นปีนี้ “ยุทธการล้างบางทุนจีนเทา แอนด์ เดอะ แก๊ง” จะสามารถปิดเกม แล้วมอบเป็น “ของรับขวัญ” ให้ “คนไทย” ก่อนขึ้นปีใหม่2566
แต่ถ้า “เจอตอ” ปิดไม่ลง ก็คงต้องบอกว่า “พัง” อย่างแน่นอน ดูทรงแล้วคงจะต้องลุ้นหนักหน่อยแบบ 50:50 แต่ก็อาจพอจะมีความหวังได้ บรรดาผู้ชมที่อยู่ทางบ้าน คงทำได้เพียง “ปูเสื่อรอชม” ระทึกไปพร้อมๆกัน..!!!
และที่สำคัญไปยิ่งกว่านั้น ปฏิบัติการเด็ดหัว"ตู้ห่าว"ยังไม่จบอยู่เพียงเท่านี้ ยังมีอีกหลายประเด็นที่รอการถูกขุดขึ้นมาลากไส้กลุ่มคนไทยที่อยู่เบื้องหลังแก๊งมังกรจีน โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ได้ประโยชน์ หรือทำมาหากินกับทุนจีนสีเทากลุ่มนี้
และแน่นอนว่า หากมรสุม"ตู้ห่าว"ถูกลากยาวไปจนถึงการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ก็คงจะคาดเดากันได้ไม่ยากนักว่า ใคร? และพรรคไหน? น่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุด เพราะตอนนี้คดีแก๊งมังกรสีเทา ถูกลากโยงเข้ามาเป็นประเด็นการเมืองเรียบร้อยแล้ว
ทีมข่าวการเมือง รายงาน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี