‘6 พรรคเล็ก’รวมตัว‘ไม้ซีก งัดไม้ซุง’ ตั้ง‘กลุ่มอัมโน’สู้หาร100 อ้าแขนรับ‘คนอกหัก’

‘6 พรรคเล็ก’รวมตัว‘ไม้ซีก งัดไม้ซุง’ ตั้ง‘กลุ่มอัมโน’สู้หาร100 อ้าแขนรับ‘คนอกหัก’

วันพุธ ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2565, 10.14 น.

‘6 พรรคเล็ก’รวมตัว‘ไม้ซีก งัดไม้ซุง’ ตั้ง‘กลุ่มอัมโน’สู้หาร100 อ้าแขนรับ‘คนอกหัก’

14 ธันวาคม 2565 ที่รัฐสภา พรรคการเมืองขนาดเล็กจำนวนมาก นำโดย นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ พร้อมตัวตัวแทน 5 พรรคการเมือง ได้แก่ พรรคกรีน , พรรคไทยรวมไทย , พรรคไทยชนะ , พรรคไทยรุ่งโรจน์ และพรรคชาติรุ่งเรือง แถลงถึงการรวมตัวในนาม “กลุ่มอัมโน ไม้ซีก งัดไม้ซุง” เพื่อร่วมมือขับเคลื่อนสู้ศึกเลือกตั้ง โดยประกาศตัวเป็นขั้วการเมืองทางเลือกให้กับประชาชน


ทั้งนี้ รวมถึงเพื่อเตรียมความพร้อมในการสู้ศึกเลือกตั้ง หลังจากมีความชัดเจนแล้วว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไปในปี 2566 การที่จะหาจำนวนคะแนนต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ 1 คน จะใช้สูตรนำคะแนนทั้งหมดไปหารกับจำนวน ส.ส. ของระบบบัญชีรายชื่อ คือ 100 คน ถือเป็นอุปสรรคอย่างมากต่อพรรคการเมืองขนาดเล็กในการหาคะแนน ส.ส.บัญชีรายชื่อ

นพ.ระวี กล่าวว่า การแบ่งฝ่ายแบ่งสีทางการเมืองทำให้ประชาชนเดือดร้อนจำนวนมาก และเศรษฐกิจเสียหายสังเกตได้จากการลงทะเบียนคนจนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว การเมืองไทยยังคงสับสนวุ่นวาย เพื่อประโยชน์สุขของคนไทยทั่วประเทศ พรรคการเมืองที่มีแนวคิดสอดคล้องกันหลายพรรคจึงยึดถือหลักการมีจุดยืนส่งเสริมคนดีให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง จึงขอเรียกร้องให้คนไทย มีความรักสามัคคีต่อกันภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เราจะเป็นกลุ่มกลางทางการเมือง

 

ทั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อให้เกิดความสมานฉันท์ มุ่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และอยากเรียกร้องประชาชนทั่วประเทศที่มีความเป็นกลาง ออกมาออกมาแสดงจุดยืนและขอให้โอกาสเลือกพรรคการเมืองที่เป็นกลาง เราจะมุ่งมั่นตั้งใจแน่วแน่เพื่อให้เกิดกลุ่มการเมืองที่เป็นกลาง และมุ่งไปสู่ยุคฟ้าสีทองผ่องอำไพ เราไม่ได้คิดที่จะมารวมเพื่อรอดตายจากรัฐธรรมนูญใหม่ แต่มารวมกันเพื่อความรอดของประชาชน ซึ่งประชาชนจะได้นโยบายที่จับต้องได้

“ตอนนี้พรรคเล็กในสภาที่ประกาศจะสู้ด้วยตัวเองมี 3 พรรค คือ พรรคครูไทยเพื่อประชาชน พรรคประชาธิปไตยใหม่ และพรรคเพื่อชาติไทย ส่วนพรรคพลังธรรมใหม่จะขอร่วมกลุ่มกับพรรคที่อยู่นอกสภา ซึ่งเป็นการจับมือที่ถูกต้องตามกฎหมาย ขณะนี้ยังคงเปิดรับพรรคที่จะมารวมกลุ่มกัน” นพ.ระวี กล่าว

นพ.ระวี กล่าวว่า สำหรับการเจรจากับพรรคการเมืองต่างๆ  20 พรรค ทราบว่าพรรคการเมืองในสภาที่เดินหน้าสู้เลือกตั้งเอง ได้แก่ พรรคประชาธิปไตยใหม่ , พรรคครูไทยเพื่อประชาชน และพรรคเพื่อชาติไทย ส่วนพรรคพลังธรรมใหม่ หากมีการยุบสภาจะดำเนินการผนึกกำลังได้ตามกฎหมาย สำหรับแนวทางการดำเนินงานของกลุ่มจะไม่ยุ่งกับความขัดแย้ง เช่น เอาทักษิณ ไม่เอาทักษิณ ขั้วเหลือง ขั้วแดง แต่จะมุ่งเป็นกลาง ทำงานเพื่อประชาชน และมีความซื่อสัตย์ โดยการรวมตัวดังกล่าว ตนได้แจ้งให้ผู้ใหญ่ในรัฐบาลทราบมาเป็นระยะๆ

“ขอให้โอกาสเลือกพรรคการเมืองที่เป็นกลาง เราจะมุ่งมั่นตั้งใจแน่วแน่เพื่อให้เกิดกลุ่มการเมืองที่เป็นกลาง และมุ่งไปสู่ยุคฟ้าสีทองผ่องอำไพ เราไม่ได้คิดที่จะมารวมเพื่อรอดตายจากรัฐธรรมนูญใหม่ แต่มารวมกันเพื่อความรอดของประชาชน ซึ่งประชาชนจะได้นโยบายที่จับต้องได้” นพ.ระวี กล่าว

ขณะที่นายพงศ์ศักดิ์ พัวพรพงษ์ จากพรรคไทยรวมไทย กล่าวว่า การหารือของ 6 พรรค เป็นการทำงานร่วมกัน แต่ไม่ใช่การควบรวม แต่หากวันข้างหน้าอาจรวมกันด้วยวิธีที่ถูกต้องตามกฎหมาย 

ทั้งนี้ ในการแถลงข่าวดังกล่าวทาง “กลุ่มอัมโน ไม้ซีกงัดไม้ซุง” ยังออกแถลงการณ์ถึงการรวมตัวเพื่อเป็นกลุ่มการเมืองที่มีความเป็นกลาง ไม่ขัดแย้ง และมุ่งสู่การทำงานเพื่อประชาชนด้วยจิตอาสา มุ่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ การรวมตัวไม่ใช่ควบรวม แต่คือเป็นพรรคการเมืองทางเลือก มีนโยบายทางเลือกให้ประชาชน ซึ่งไม่ใช่การหนีตายต่อกติกาทางการเมือง การเลือกตั้งที่เปลี่ยนไป พร้อมกับเชิญชวนผู้ที่ประสงค์​จะลงเลือกตั้งในพรรคการเมืองใหญ่ แต่ไม่ถูกเลือก หรือเป็นคนอกหัก พักบ้านนี้ ขอให้มาร่วมงานกับกลุ่มอัมโน เพื่อให้บ้านเมืองก้าวข้ามความขัดแย้ง

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top