วันที่ 16 ธันวาคม 2565 เว็บไซต์ราชกิจจาฯ เผยแพร่ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ถอดยศทหาร และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ถอดยศ นายทหารสัญญาบัตร จำนวน 2 ราย ออกจากยศทหาร ตามมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติ ยศทหาร พุทธศักราช 2479 และที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติยศทหาร (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2501
ประกอบระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยผู้ซึ่งไม่สมควรจะดำรงอยู่ในยศทหารและบรรดาศักดิ์ พ.ศ. 2507 ข้อ 2 และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เรียกคืน เครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่นายทหารสัญญาบัตรทั้ง 2 ราย ได้รับพระราชทานทุกชั้นตราตามข้อ 6 และข้อ 7 (4) ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ พ.ศ. 2548 ดังนี้
1. ร้อยเอก กฤศ คงอ่อนสาร หรือศราวุธ อ่อนสาร สังกัดกองทัพบก ออกจากยศทหาร ตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม 2562 เนื่องจากกระทำผิดฐานต้องหาในคดีอาญาแล้วหลบหนีไป และ เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นเบญจมาภรณ์มงกุฎไทย และเหรียญจักรมาลา
2. เรือเอก เกียรติกร มั่งคั่ง สังกัดกองทัพเรือ ออกจากยศทหาร ตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน 2565 เนื่องจากกระทำผิดวินัยทหารฐานประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง และเรียกคืน เครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นจัตุรถาภรณ์ช้างเผือก จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย และเหรียญจักรมาลา
ทั้งนี้ นายทหารสัญญาบัตรทั้ง 2 รายดังกล่าว เป็นผู้ถูกถอนชื่อออกจากรายชื่อผู้ได้รับพระราชทาน เครื่องราชอิสริยาภรณ์ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องแล้ว
อีกฉบับ เว็บไซต์ราชกิจจาฯ เผยแพร่ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ถอดยศตารวจและเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์
มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ถอดยศข้าราชการตำรวจ ออกจากยศตำรวจ จำนวน 11 ราย ตามมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติ
ตารวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 ประกอบระเบียบสานักงานตารวจแห่งชาติ ว่าด้วยการถอดยศตารวจพ.ศ. 2547 ข้อ 1 (2) และ (4) และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทาน
พระบรมราชานุญาตให้เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ได้รับพระราชทานทุกชั้นตรา ตามข้อ 6และข้อ 7 (2) และ (4) ของระเบียบสานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ พ.ศ. 2548 ดังนี้
1. พลตำรวจตรี รณพงษ์ ทรายแก้ว ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2560 ซึ่งเป็นวันที่ต้องคาพิพากษาของศาลถึงที่สุดให้ลงโทษจาคุก เนื่องจากกระทาความผิดอาญา ฐานความผิดต่อตำแหน่ง
หน้าที่ราชการ ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม ความผิดต่อร่างกาย ความผิดต่อเสรีภาพและเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นมหาวชิรมงกุฎ ประถมาภรณ์ช้างเผือก ประถมาภรณ์มงกุฎไทยทวีติยาภรณ์ช้างเผือก ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย ตริตาภรณ์ช้างเผือก ตริตาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์ช้างเผือกเบญจมาภรณ์ช้างเผือก เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย และเหรียญจักรมาลา
2. พันตำรวจเอก พันธุ์ศิริ ศรีเพ็ญ ตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม 2558 ซึ่งเป็นวันที่ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ เนื่องจากกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานกระทำการอันได้ชื่อว่าประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงและถูกดาเนินคดีอาญาในข้อหาชิงทรัพย์ ปลอมเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการปลอมและเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย ตริตาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์ช้างเผือกเบญจมาภรณ์ช้างเผือก และเบญจมาภรณ์มงกุฎไทย
3. พันตำรวจเอก อนุชน ชามาตย์ ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2560 ซึ่งเป็นวันที่ต้องคาพิพากษาของศาลถึงที่สุดให้ลงโทษจาคุก เนื่องจากกระทำความผิดอาญา ฐานความผิดต่อตำแหน่ง
หน้าที่ราชการ ความผิดต่อตาแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม ความผิดต่อร่างกาย ความผิดต่อเสรีภาพและเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นประถมาภรณ์มงกุฎไทย ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทยตริตาภรณ์ช้างเผือก ตริตาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย และเบญจมาภรณ์มงกุฎไทย
4. พันตำรวจโท สมจิต แก้วพรม ตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม 2556 ซึ่งเป็นวันที่ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ เนื่องจากกระทาผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงและถูกดาเนินคดีอาญาฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นตริตาภรณ์ มงกุฎไทยจัตุรถาภรณ์ช้างเผือก จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย เหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้น 2 ประเภทที่ 2 เหรียญราชการชายแดน และเหรียญจักรมาลา
5. พันตำรวจโท ปัณณรุจน์ เรืองเกษมสัณห์ ตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม 2558 ซึ่งเป็นวันที่ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ เนื่องจากกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง กรณีต้องหาคดีอาญาฐานความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ความผิดต่อเจ้าพนักงานในการยุติธรรม ความผิดต่อร่างกายความผิดต่อเสรีภาพ ลักทรัพย์ และกรรโชก และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นตริตาภรณ์ช้างเผือกตริตาภรณ์มงกุฎไทย และจัตุรถาภรณ์ช้างเผือก
6. พันตำรวจโท ศักดินันท์ มูลมณี ตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2561 ซึ่งเป็นวันที่ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ เนื่องจากกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินกว่า 15 วัน โดยไม่มีเหตุอันสมควร และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นตริตาภรณ์ช้างเผือกตริตาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก และเบญจมาภรณ์ช้างเผือก
7. ร้อยตำรวจเอก ติณณภพ บุญช้าง ตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม 2559 ซึ่งเป็นวันที่ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ เนื่องจากกระทาผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินกว่า 15 วัน โดยไม่มีเหตุอันสมควร และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นจัตุรถาภรณ์ช้างเผือก จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย และเบญจมาภรณ์มงกุฎไทย
8. ร้อยตำรวจเอก ฉัตรชัย สอนสุด ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2561 ซึ่งเป็นวันที่ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ เนื่องจากกระทาผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินกว่า 15 วัน โดยไม่มีเหตุอันสมควร และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นจัตุรถาภรณ์ช้างเผือก จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย และเหรียญทองช้างเผือก
9. ร้อยตำรวจเอก อดิศักดิ์ ขันละ ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2561 ซึ่งเป็นวันที่ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ เนื่องจากกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นจัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย และเบญจมาภรณ์มงกุฎไทย
10. ร้อยตำรวจโท ณรงกฤต สุนทรสุข ตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม 2558 ซึ่งเป็นวันที่ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ เนื่องจากกระทาผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินกว่า 15 วัน โดยไม่มีเหตุอันสมควร และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นเหรียญทองช้างเผือก้หนา 93
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี