โปรดเกล้าฯ‘ครม.แพทองธาร1/2’
‘อิงค์’ควบรมว.วธ.
‘บิ๊กอ้วน’ขยับเป็น‘มท.1’
หลาน‘สุริยะ’คุมแรงงาน
‘สุชาติ’ไม่น้อยใจอยู่ที่เดิม
‘สรวงศ์’เชื่อมั่นทำงานฉลุย
มีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ หรือ “ครม.แพทองธาร 1/2” นายกฯ ควบ รมว.วัฒนธรรม “ภูมิธรรม” ขยับนั่ง มท.1 เว้นว่างเก้าอี้รัฐมนตรีกลาโหม หลาน“สุริยะ” คุมแรงงาน ปลัดจตุพร คุมพาณิชย์ “ชัยชนะ เดชเดโช”สมปราถนา นั่งรมช.สาธารณสุข
เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระบรมราชโองการ ประกาศให้รัฐมนตรีพ้นจากความเป็นรัฐมนตรีและแต่งตั้งรัฐมนตรี โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนำ ครม.ชุดใหม่เข้าเฝ้า และถวายสัตย์ปฏิญาณในวันที่ 3ก.ค.นี้ สำหรับ ครม.แพทองธาร 1/2 หรือ ครม.อิ๊งค์ 1/2 มีรายชื่อดังนี้
1.ให้รัฐมนตรีพ้นจากความเป็นรัฐมนตรี ดังต่อไปนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี นายอิทธิ ศิริลัทธยากร พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี นายพิชัย นริพทะพันธุ์ พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี นายเดชอิศม์ ขาวทอง พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี
ภูมิธรรมนั่งรมว.มหาดไทย
2.ให้แต่งตั้งรัฐมนตรี ดังต่อไปนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุชาติ ตันเจริญ เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม นายอรรถกร ศิริลัทธยากร เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายเดชอิศม์ ขาวทอง เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
“อิ๊งค์”ควบวัฒนธรรม
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม อีกตำแหน่ง นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายอนุชา สะสมทรัพย์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายชัยชนะ เดชเดโช เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 30 มิถุนายน พุทธศักราช 2568 เป็นปีที่ 10 ในรัชกาลปัจจุบัน ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
ถวายสัตย์ 3 กรกฎาคม
นางณัฐฎ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการประกาศโปรดเกล้าฯคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เรียบร้อยแล้ว และประกาศในราชกิจจานุเบกษาเรียบร้อยแล้ว ส่วนขั้นตอนหลังจากนี้ จะมีการนำ ครม.ชุดใหม่เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ วันที่ 3 กรกฎาคมนี้ เมื่อถามว่า หากศาลมีคำวินิจฉัยรับคำร้องของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) พิจารณาคดี ของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีคลิปเสียง จะเป็นอย่างไร เลขาฯครม.กล่าวว่า ต้องรอดูก่อนว่าศาลจะวินิจฉัยอย่างไร ขออนุญาตยังไม่ออกความเห็น
นายกฯเตรียมงาน
.ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.วัฒนธรรม กล่าวภายหลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรี ว่า ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรีใหม่ เมื่อถามว่า ขั้นตอนหลังจากนี้เป็นอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ขอให้รอดู ผู้สื่อข่าวถามว่า ตื่นเต้นหรือไม่ นายกฯ ยิ้มให้สื่อ ไม่ตอบ ก่อนที่ผู้สื่อข่าวจะถามอีกว่า ใส่ชุดสีเขียววันนี้ดูสีสันสดใส น.ส.แพทองธาร ตอบสั้นๆ ว่า “ค่ะ” เมื่อถามว่า ได้มีการวางแผนงานในส่วนของกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ไว้อย่างไรบ้าง นายกฯ กล่าวว่า ได้มีการเตรียมแผนไว้บ้างแล้ว
เมื่อถามว่า การเว้นว่างตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อรอ พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด หรือไม่ นายกฯ ยิ้ม แต่ไม่ตอบคำถามดังกล่าว
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันนี้มี ครม.ลาประชุม 3 คน คือ 1.นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง 2.นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ และ 3.นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
กลาโหมเชื่อ‘บิ๊กเล็ก’เอาอยู่
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เมื่อมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้พ้นจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ทำให้วันนี้ตนไม่สามารถเข้าร่วมการ
ประชุมครม.ได้ ต้องเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทยก่อน จึงจะสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ส่วนตำแหน่งรมว.กลาโหม ที่ยังไม่มีการเสนอรายชื่อแต่งตั้ง ทางพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ต้องรักษาการแทนไปก่อน และเชื่อมั่นว่าสามารถทำหน้าที่ได้อยู่แล้ว เพราะพล.อ.ณัฐพล เป็นผู้รอบรู้ และเป็นนักประสานงานที่ดีเคยเป็นทั้งรองผู้บัญชาการทหารบก และเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ที่ผ่านมาก็ทำหน้าที่ประสานงานมาตั้งแต่ต้น เชื่อว่าจะสามารถสั่งงานต่าง ๆ ต่อได้ ส่วนสาเหตุที่ยังไม่แต่งตั้งรมว.กลาโหม ไม่ทราบว่านายกฯคิดอะไร ขณะนี้มีสถานการณ์เฉพาะหน้าต่างๆ ได้มอบหมายให้พล.อ.ณัฐพลได้ทำงานต่อ เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาอะไร
ไม่มีอะไรน่ากังวล
ผู้สื่อข่าวถามถึง กระแสข่าวว่า ที่เว้นว่างไว้เพื่อรอ อดีตผบ.ทสส.ได้เข้ามาทำหน้าที่ รมว.กลาโหม หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องสอบถามจากนายกฯ ทั้งนี้ ไม่ว่าใครจะอยู่หรือใครจะพ้นจากตำแหน่ง ถือว่าอยู่บนพื้นฐานที่ประเทศไทยต้องเดินหน้าต่อ ไม่สามารถหยุดได้แม้แต่วันเดียว ฉะนั้นต้องรีบทำงาน ส่วนรัฐมนตรีใหม่ที่เข้ามาทำหน้าที่ ต้องพร้อมทำงานทันที ดังนั้นสัญญาณที่ชัดเจน คือ มีความตั้งใจและพร้อมทำงาน ซึ่งทุกคนพร้อมเดินหน้าทำงาน และเชื่อมั่นว่านายกฯ จะสามารถนำพาในการแก้ไขปัญหาต่างๆได้ ทุกอย่างวางไว้ทั้งหมดแล้ว การฟ้องร้องหากมีกระบวนการฟ้องร้องหรือเรื่องคดีความ ก็ว่าไปตามกฏหมาย จะไม่ส่งผลในการทำงานต้องหยุดนิ่ง
เมื่อถามว่า คนที่จะทำหน้าที่รองนายกรัฐมนตรี ในกรณีที่นายกฯไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ จะเป็นใคร นายภูมิธรรม กล่าวว่า ลำดับถัดไปในขณะนี้ คือ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ที่เป็นลำดับที่มีการกำหนดเอาไว้อยู่ ไม่มีอะไรน่ากังวล
“พงศ์กวิน”มีผลงาน
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย หลานชาย ได้รับการโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นรมว.แรงงาน ว่า การพิจารณารัฐมนตรีในส่วนของพรรคเพื่อไทยเป็นอำนาจของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งนายพงศ์กวินก็เป็นรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และทำงานใกล้ชิดกับผู้บริหารพรรค ซึ่งนายกฯก็คงจะเห็นว่ามีผลงานเรื่องการสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียถึงประชาชน รวมถึงการทำหน้าที่ดูแลสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.) อยู่ตลอดเวลา เมื่อโปรดเกล้าฯแล้ว รัฐมนตรีทุกคนต้องทุ่มเททำงานเพื่อแก้ปัญหาในกระทรวงตัวเอง เพราะขณะนี้มีปัญหาที่รุมเร้าเข้ามา จึงต้องเร่งสร้างผลงานจะนิ่งดูดายไม่ได้ ซึ่งนายพงศ์กวินต้องทำตามแนวทางนี้เช่นกัน โดยเฉพาะการแก้ปัญหาสิทธิคุ้มครองแรงงานให้ได้สวัสดิการที่ดี เพื่อจะได้มีขวัญกำลังใจในการทำงาน ซึ่งตนก็จะให้คำปรึกษานายพงศ์กวินในฐานะที่เป็นหลาน
เชื่อ”ประภัตร”ไม่ทิ้งชพท.
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งนายอนุชา สะสมทรัพย์ สส.นครปฐม รองหัวหน้าพรรค ชทพ. ได้รับการแต่งตั้งเป็น รมช.สาธารณสุข การให้โควตารัฐมนตรีแก่บ้านใหญ่นครปฐม จะทำให้มีปัญหากับนายประภัตร โพธสุธน สส.สุพรรณบุรี ในฐานะเลขาธิการพรรค ชทพ.หรือไม่ ว่า เป็นการพิจารณาของทางพรรค และเห็นความเหมาะสมตรงกันเลยมีการเสนอชื่อนายอนุชาไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะส่งผลอะไรหรือไม่ เพราะบ้านใหญ่สุพรรณบุรีไม่ได้ นายวราวุธ กล่าวว่า นายประภัตรเป็นผู้ใหญ่ในพรรค และการทำงานให้พรรคที่ผ่านมา ทำอะไรก็มีการพูดคุยกันตลอด และหารือกันหลายๆ ฝ่าย และเห็นตรงกันว่า ให้นายอนุชา เมื่อถามว่า จะไม่มีการน้อยใจ และลาออกจากพรรคใช่หรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า คงไม่มี มีการเคลียร์กันแล้ว หลังจากนี้จะมีการยกทีมไปให้กำลังใจนายประภัตร เพราะเป็นหนึ่งในเสาหลักที่ทำงานตั้งแต่พรรคชาติไทยจนมาเป็นพรรค ชทพ. เป็นผู้ใหญ่ที่คอยเป็นหางเสือกับพวกเราตั้งแต่สมัย นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย ฉะนั้น วันนี้การตั้ง ครม.ขึ้นมา ตามมารยาทก็ไปให้กำลังใจ แต่เชื่อว่า นายประภัตร ยังทำงานอย่างเต็มที่ และอยู่กับพรรค ชทพ. “อย่างไรอาประภัตรก็อยู่สุพรรณฯ” เมื่อถามว่า การให้โควตากับกลุ่มนครปฐม เป็นการซื้อใจให้ยังอยู่กับพรรคในการเลือกตั้งข้างหน้าหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ตนคิดว่า เป็นความเหมาะสมที่หลายฝ่ายเห็นตรงกัน เป็นการทำงานร่วมกัน ซึ่งอยู่กันมาหลายปีแล้ว และเห็นการทำงานของนายอนุชาด้วยความตั้งใจ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี