‘เพื่อไทย’ปทุมธานีแตก คนรังสิตโวยโยก‘สจ.หนึ่ง’ไปเขตอื่น ลั่นไม่เลือกคนอื่น

‘เพื่อไทย’ปทุมธานีแตก คนรังสิตโวยโยก‘สจ.หนึ่ง’ไปเขตอื่น ลั่นไม่เลือกคนอื่น

วันอังคาร ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2566, 15.17 น.

‘เพื่อไทย’ปทุมธานีแตก คนรังสิตโวยโยก‘สจ.หนึ่ง’ไปเขตอื่น ลั่นไม่เลือกคนอื่น

24 มกราคม 2566 ที่บริเวณริมเขื่อนสะพานแดง ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ชาวรังสิตกว่า 300 คน ถือป้าย พร้อมมอบดอกไม้ให้กำลังใจ น.ส.ณัฐธิดา เกียรติพัฒนาชัย หรือสจ.หนึ่ง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ซึ่งจะลงในนามพรรคเพื่อไทย โดยตลอดเวลากว่า 5 ปี ได้ทำงานในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่องพบปะประชนมาโดยตลอด รวมทั้งเก็บรวบรวมข้อมูลถึงความต้องการของประชนเสนอต่อพรรค แต่ผู้บริหารพรรคเพื่อไทย ประธานภาค และประธานเขตจังหวัดส่งผู้สมัคร ได้มีมติให้ น.ส.ณัฐธิดา เกียรติพัฒนาชัย ย้ายไปลงสมัครในเขตพื้นที่หนองเสือ ซึ่งไม่ใช่พื้นที่หาเสียง และบ้านเกิด จนชาวรังสิตได้รับทราบข่าวสารต่างนัดรวมตัวเพื่อแสดงจุดยืนมาให้กำลังใจอย่างล้นหลาม


ก่อนหน้านั้นพรรคเพื่อไทยได้วางตัวผู้ลงสมัคร ส.ส.ปทุมธานี ครบทั้ง 7 คน ซึ่งมี น.ส.ณัฐธิดา รวมอยู่ด้วย แต่เมื่อถึงเวลาจ่ายงบประมาณในการทำป้ายหาเสียง ทางพรรคเพื่อไทยจ่ายงบประมาณในการทำป้ายให้กับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ปทุมธานี เพียง 5 คนเท่านั้น ส่วนอีก 2 คนรวมถึง น.ส.ณัฐธิดา ไม่ได้รับงบประมาณดังกล่าว จึงเป็นเหตุผลที่ชาวรังสิตออกมาเคลื่อนไหว เพราะไม่พอใจกับผู้บริหารพรรคเพื่อไทย รวมทั้งประธานภาค และประธานเขตจังหวัดส่งผู้สมัคร

นายศรรัก มาลัยทอง ดีเจเสื้อแดงปทุมธานี และโฆษกกลุ่มวิทยุประชาชนเพื่อประชาชน (กวป.) กล่าวว่า น.ส.ณัฐธิดา ทำหน้าที่รับใช้ประชาชนมานานกว่า 5 ปี และมาเป็น สจ. ลงพื้นที่มานาน 2 ปี หลังจากที่รับตำแหน่ง ประชาชนได้สนับสนุนให้เป็น สจ. จนได้รับเกียรติให้ไปเป็นรองประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีอันดับ 1 ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งของชาวรังสิต ฉะนั้นครั้งนี้เราต้องการให้ สจ.หนึ่ง เข้าไปเป็น ส.ส. แต่เมื่อเข้าไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย เราต้องการให้พรรคเพื่อไทยได้ ส.ส. แต่หากประธานเขตจังหวัด ประธานภาค หรือผู้จัดได้เปลี่ยนตัว สจ.หนึ่ง ไปลงเขตอื่น ซึ่ง สจ.หนึ่ง ไม่ได้หาเสียงไว้ สจ.หนึ่ง ลงพื้นที่รังสิตมาไม่น้อยกว่า 5 ปี อยู่ๆจะให้ไปลงที่อื่น ประชาชนจึงไม่ยอม ประธานภาค ประธานเขตฯไม่เอา สจ.หนึ่ง แต่ประชาชนต้องการให้ลงเขตรังสิต

“สจ.หนึ่ง โดนรังแกไม่ได้รับความเป็นธรรมให้ไปลงพื้นที่อื่น เป็นเช่นนี้ไม่เป็นไร เมื่อประธานภาค ประธานเขตพรรคเพื่อไทยไม่ให้ลงพื้นที่รังสิต แต่พี่น้องสนับสนุนลงพื้นที่รังสิต ไม่ว่าจะลงพรรคไหน ไม่สนใจ ขอให้ สจ.หนึ่งลงพื้นที่รังสิต” นายศรรัก กล่าว

ด้าน น.ส.ณัฐธิดา กล่าวว่า ขอบคุณและรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ได้รับกำลังใจจากประชาชนทุกคน ขอขอบคุณทุกกำลังใจ หากมีโอกาส ก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ยังยึดมั่นที่จะลงในพื้นที่นี้ เพื่อจะพัฒนาในพื้นที่นครรังสิตให้ดีอย่างยั่งยืนตลอดไป

ส่วนนายสมศักดิ์ เกียรติพัฒนาชัย บิดาของ สจ.หนึ่ง กล่าวว่า เนื่องจากประธานภาคและประธานเขตพรรคเพื่อไทย ไม่ส่งลูกสาวของตนลงพื้นที่นครรังสิต ทั้งๆที่ครอบครัวเกิดที่รังสิต ต้นตระกูลเป็นคนรังสิต แต่กลับให้ไปลงพื้นที่เขตหนองเสือ ซึ่งที่ผ่านมาลูกสาวของตนทำงานหาเสียงในพื้นที่นครรังสิตตลอดมาจนได้เป็น สจ. ในพื้นที่ และดำรงตำแหน่งรองประธานสภา อบจ.ปทุมธานี ซึ่งเขาได้เดินลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนมานานกว่า 5 ปี แต่ทางพรรคเพื่อไทยจะนำอดีต ส.ส.หลายสมัยมาลงพื้นที่แทน แล้วเอาลูกสาวตนไปลงเขตอื่น จนชาวบ้านทราบข่าวจึงออกมาแสดงจุดยืนว่าเขาไม่ยอม จะให้ตนทำอย่างไร

“โดยทาง ส.ส.หลายสมัยก็เป็นคนจัดการนำคนอื่นมาลง ทั้งๆที่ไม่ได้เป็นคนในพื้นที่ แบบนี้ถือว่าเป็นการดูถูกชาวบ้าน เมื่อชาวบ้านเขาสนับสนุน สจ.ณัฐธิดา อยู่ ต่างบอกว่าต้องลงพื้นที่นี้ อย่าไปย้ายเขต ซึ่งผมและลูกสาวเป็นชาวรังสิต ลูกสาวผมเกิดที่รังสิต ประธานภาคและประธานเขตฯ มีความยุติธรรมหรือเปล่า ถ้าพวกคุณแน่จริงให้ประธานภาคและประธานเขตฯมาลงพื้นที่เขตรังสิต แล้วจะได้เจอกัน เมื่อมาดูถูกชาวบ้าน คุณจะมาเลือกคนโน้นคนนี้มาลง ถือว่าอยู่พรรคเพื่อไทย แล้วจะเอาใครมาลงก็ต้องได้ หากคุณคิดอย่างนี้ตัวคุณก็มาลงเองในเขตรังสิต แล้วชาวบ้านจะสั่งสอนคุณกล้าหรือเปล่า” นายสมศักดิ์ กล่าว

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top