นำทัพรวมไทยสร้างชาติยึดชุมพร
‘บิ๊กตู่’บารมีล้น
ปราศรัยใหญ่กองเชียร์กระหึ่มสู้ๆ
ปูเสื่อรอต้อนรับตั้งแต่ไก่โห่
พปชร.จัดระดมทุนใหญ่30ม.ค.
พร้อมเปิดตัว‘อุตตม-สนธิรัตน์’
จับมือเดินหน้าเลือกตั้งเต็มสูบ
ปชป.รุกอีสานโชว์99ผู้สมัครสส.
“บิ๊กตู่” เหมาลำเครื่องบินนำรวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เยือนชุมพรประเดิมปราศรัยเวทีแรก กองเชียร์กระหึ่มนายกฯสู้ๆ ปูเสื่อต้อนรับมืดฟ้ามัวดินตั้งแต่ไก่โห่ ด้าน “บิ๊กป้อม”เปิดตัว “อุตตม-สนธิรัตน์” หวนคืนรังพปชร. 30 มกราคม พร้อมระดมทุนก้อนใหญ่ ขณะที่ “จุรินทร์” นำทัพปชป.เปิดตัว 99 ว่าที่ผู้สมัคร สส.อีสาน ชู “สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ” ประกาศพาคนอีสานร่ำรวยด้วยอีสาน เชื่อมโลก
เมื่อวันที่ 28 ม.ค. นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ให้สัมภาษณ์ กรณีที่มีข่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรค จะเปิดพรรคนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค ในวันที่28 ม.ค.เวลา 15.00 น.ที่พรรคพปชร. หลังจากตกลงกลับมาร่วมงานกับพรรคพปชร.
นายวิรัช กล่าวว่า ล่าสุดได้ข้อสรุปชัดเจนว่าพรรคพปชร.จะเปิดตัวนายอุตตม และนายสนธิรัตน์ ในวันที่30 ม.ค.เวลา15.00 น.ที่พรรคพปชร ก่อนงานระดมทุนของพรรค ที่จะจัดขึ้นในเย็นวันเดียวกัน เวลา 17.00 น. ที่ ร.ร.เซ็นทราราแกรนด์ บางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิล์ด ส่วนที่มีข่าวว่าจะเปิดตัวในวันนี้ อาจมีความคลาดเคลื่อนในการสื่อสารเท่านั้น
เพื่อไทยเปิดปราศรัยหนองคาย
เมื่อเวลา 08.40 น. ที่อ.เมือง จ.หนองคาย บริเวณหน้าวัดสาวสุวรรณวนาราม นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยแกนนำพรรคเพื่อไทย อาทิ นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมด้วย ส.ส.หนองคาย นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ นายเอกธนัช อินทร์รอด น.ส.ชนก จันทาทอง และ ส.ส.ของพรรค อาทิ น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ส.ส.นนทบุรี และ น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล อดีต ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ร่วมแวะทักทายแม่ค้าข้างริมทาง ที่กำลังค้าขาย ข้าวจี่ ไก่ทอด หมูปิ้ง ทั้งนี้มีแม่ค้าหมูปิ้งได้พูดกับ ส.ส. และสื่อมวลชนว่าลูกน้องหักเหลี่ยมโหดลูกพี่
โดยน.ส.แพทองธาร พร้อมคณะได้ร่วมทานข้าวจี่ริมทางพร้อมทั้งป้อนข้าวจี่ให้กับนายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามีของน.ส.แพทองธาร ด้วย โดยคณะของพรรคเพื่อไทย ได้ถามถึงการค้าขายของแม่ค้า และร่วมถ่ายภาพอย่างเป็นกันเองกับประชาชน
ต่อมาเวลา 09.30 น. คณะของพรรคเพื่อไทยได้เดินทางไปที่เวทีปราศรัยใหญ่ เทศบาล อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ท่ามกลางประชาชนหลักหมื่นคนรอรับฟังการปราศรัย ทันทีที่มาถึง น.ส.แพทองธาร พร้อมนายกฤษฎา นายเอกธนัช น.ส.ชนก ได้เดินทักทายประชาชนที่มารอรับฟังการปราศรัยของพรรคเพื่อไทย และมีประชาชนเข้ารุมล้อมขอจับมือ น.ส.แพทองธาร พร้อมท้้งพูดว่าขอให้พรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์
“อุ้งอิ้ง”เมิน”จตุพร”เขย่า”ทักษิณ”
โดย น.ส.แพทองธาร ให้สัมภาษณ์ว่า ได้ทานข้าวจี่อร่อยมาก และชอบเพราะหอมมาก เหมือนโมจิปนกับข้าวหลาม อีกทั้งร้านที่ทาน ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ชอบข้าวจี่เพราะเป็นของโปรดของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จึงทำให้ตนเองแวะมา
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีมีแม่ค้าถามเรื่องลูกน้องหักเหลี่ยมโหด น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตอนแรกไม่นึกเลย เพราะตนมาดูข้าวจี่เฉยๆ
ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า เราอย่าไปขยายความเพราะเป็นเพียงสถานการณ์หนึ่งในทางการเมือง มันจะยุติคลี่คลาย และ น.ส.แพทองธาร ก็นำพรรคเพื่อไทยพบปะประชาชน ไม่ได้มีการตอบโต้กับนายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตประธาน นปช. ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะเดินหน้าแบบนี้จนถึงวันเลือกตั้ง
เดินหน้าแก้ปัญหาปากท้อง
ต่อมา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ให้สัมภาษณ์อีกรอบโดย ตอบคำถามผู้สื่อข่าว กรณีพรรคสร้างอนาคตไทย จะมาควบรวมกับพรรคพลังประชารัฐจะทำให้พรรคพลังประชารัฐเข้มแข็งขึ้นหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่าตรงนั้นคือเกมการเมือง พรรคเพื่อไทยจะเอานโยบายไปแลกกับความไว้ใจของประชาชนเพราะเราต้้งใจจริงๆ เราโดนยุบพรรคและตั้งมาใหม่ก็ยังตั้งใจแก้ปัญหาปากท้องให้กับประชาชน มันคือนโยบายและจุดประสงค์ และต้องการทำพรรคเพื่อไทยให้แข็งแรง และทำเพื่อประเทศชาติและพี่น้องประชาชน
ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ระบุว่าการควบรวมกับพรรคพลังประชารัฐ น่าจะเป็นภาระของ พรรครวมไทยสร้างชาติมากกว่าไม่ใช่ของพรรคเพื่อไทย เพราะว่าเห็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐตัวเดินช้า แต่ลีลาเดินเร็ว และเดินเร็วกว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีหลายก้าวด้วย การดึงคนกันเองเข้าพรรคแม้ไม่ใช่คนหน้าใหม่ ที่เคยรวมตัวในพรรคพลังประชารัฐมาก่อนนั้น ภาพสะท้อนให้เห็นว่า พล.อ. ประวิตร มีบารมีและได้รับการยอมรับในฝ่ายตัวเองมากกว่า พล.อ.ประยุทธ์ อย่างเห็นได้ชัด และ พล.อ.ประวิตร ก็สามารถจบดีลกับสี่กุมารได้ ในขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ มีแต่เสกสกล อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน ที่ปรึกษาของนายกฯ เป็นกำลังหลักคนเดียวเท่านั้น
“สองคนสองพรรคเขาเดินเป็นเรื่องของเขา แต่สำหรับพรรคเพื่อไทยเราเดินหน้าเข้าหาประชาชน เปิดนโยบายชุดใหญ่ของพรรคเพื่อไทย” นายณัฐวุฒิ กล่าว
ปชป.เปิดตัว99ผู้สมัครอีสาน
ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล จ.นครราชสีมา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายไชยยศ จิรเมธากร รองหัวหน้าพรรคฯดูแลพื้นที่ภาคอีสาน นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคฯ ร่วมงาน “รวมพลัง ประชาธิปัตย์” เพื่อเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยบรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักมีผู้มีบรรดาว่าที่ผู้สมัครส.ส.ภาคอีสานให้การต้อนรับ
จากนั้นนายจุรินทร์ ให้สัมภาษณ์ก่อนการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.ภาคอีสาน ถึงการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในพื้นที่ภาคอีสานว่า ในวันนี้ (28 ม.ค.) จะมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 99 เขตการเลือกตั้ง จากทั้งหมด 132 เขตก่อน เนื่องจาก ยังต้องรอความชัดเจนการแบ่งเขตการเลือกตั้งจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งจำนวนดังกล่าวยังไม่รวมบัญชีรายชื่อ ที่จะมีการประกาศต่อไปในอนาคต และจะมีผู้สมัครจากภาคอีสานเข้าเป็นบัญชีรายชื่อของพรรคด้วยฯ แต่ยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์ จะส่งผู้สมัครครบทั้ง 400 เขตการเลือกตั้ง และ 100 บัญชีรายชื่อ แน่นอน
ชูนโยบายอีสานเชื่อมโลก
นายจุรินทร์ กล่าวย้ำถึงนโยบายอีสานเชื่อมโลกว่า เป็นวิสัยทัศน์ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่จะขับเคลื่อนอีสานไปสู่ความร่ำรวยในอนาคต ที่จะต้องไม่เฉพาะเชื่อมเฉพาะในประเทศไทย แต่ต้องเชื่อมโลกผ่านทั้งการคมนาคม การค้า และการท่องเที่ยว รวมถึงศิลปวัฒนธรรมอัตลักษณ์ความเป็นอีสาน เพื่อสร้างเงิน และสร้างอนาคตให้ชาวอีสาน โดยหลังจากนี้ ยังจะมีการทัวร์ลงพื้นที่ในภาคอีสาน เพื่อเปิดนโยบายภาคอีสาน พร้อมกับว่าที่ผู้สมัครในภาคอีสานที่เหลือต่อไป
เมื่อถามถึงการตั้งเป้าหมายจำนวน ส.ส.ในพื้ที่ภาคอีสานนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งเป้าไว้หลายที่นั่งไม่เฉพาะจังหวัดนครราชสีมาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงจังหวัดอื่น ๆ ในภาคอีสานด้วย เพราะชาวอีสาน ก็มีส่วนสำคัญในการเป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ และในปี 2489 ก็มีประชาชนชาวอีสานเป็น ส.ส.ด้วยหลายคน ซึ่งแม้ในบางช่วงพรรคฯ จะได้มี ส.ส.มากบ้าง-น้อยบ้าง แต่ชาวอีสาน ก็ไม่เคยทอดทิ้งพรรคประชาธิปัตย์ และประชาธิปัตย์ ก็พร้อมรับใช้ชาวอีสานต่อไป พร้อมมั่นใจว่า ในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ พรรคประชาธิปัตย์ จะได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากชาวอีสานแน่นอน
ไม่หวั่นเพื่อไทยแลนด์สไลด์
เมื่อถามว่าหวั่นไหวถึงพลังแลนด์สไลด์เพื่อไทยภูมิใจไทย และชาติพัฒนากล้า หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ทุกพรรคก็ลงมาแข่งขันอยู่แล้ว ประชาธิตย์ก็เดินหน้าของเราไป แต่พรรคประชาธิปัตย์ จะต้องสู้กับตัวเอง และเชื่อในความเชื่อมั่น ความศรัทธาที่ประชาชนภาคอีสาน และทั่วประเทศ มีต่อพรรคประชาธิปัตย์ ที่ดีขึ้นเป็นลำดับ และมีผลงานที่จับต้องได้ ทั้งการประกันรายได้ และนโยบายอื่น ๆ ที่พรรคสามารถทำได้ไว และจำได้จริง
เมื่อถามถึงความมั่นใจในสนามการเลือกตั้งภาคใต้ หลังวันนี้ (28 ม.ค.) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ เตรียมเปิดปราศรัยใหญ่ครั้งแรกที่จังหวัดชุมพร นายจุรินทร์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ ยังคงมีความมั่นใจ เพราะตลอดระยะที่ผ่านมา พรรคได้ลงพื้นที่ ขายอุดมการณ์ความเป็นประชาธิปัตย์ ขายผลงาน ขายความตั้งใจจริง และขายความเป็นสถาบันทางการเมือง ที่ไม่ใช่พรรคการเมืองเฉพาะกิจ เพราะพรรคประชาธิปัตย์ รับใช้ประชาชนมาอย่างยาวนาน ไม่ใช่พรรคการเมือง ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อเลือกตั้ง 2-3 ปี และเปลี่ยนพรรคการเมืองใหม่ โดยพรรคฯ จะส่งผู้สมัครครบทั้ง 58 เขตการเลือกตั้ง โดยจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 11-12 กุมภาพันธ์นี้ แต่ในวันพรุ่งนี้ (29 ม.ค.) จะมีการเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ภูเก็ตของพรรคก่อน และมั่นใจว่า ภาพรวมในพื้นที่ภาคใต้ พรรคมีความมั่นใจ เพราะเสียงตอบรับที่ดีขึ้น เพราะวันนี้ และเมื่อวาน ก็มีความแตกต่างเกิดขึ้นแล้ว และผลการเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดสงขลา และชุมพร พรรคฯ ก็ได้รับกระแสตอบที่รับดี จึงมั่นใจว่า การเลือกตั้งรั้งหน้า พรรคฯ อาจจะได้รับ ส.ส.มากกว่า 22 ที่นั่งเพิ่มขึ้นเป็น 1 เท่าตัว เพราะการเลือกตั้งปีที่กำลังจะเกิดขึ้น มีความเปลี่ยนแปลงมากขึ้น แต่พรรคประชาธิปัตย์ ก็ยังคงถือเป็นพรรคการเมืองหลังของประชาชนชาวปักษ์ใต้
“จุรินทร์”ลั่นพร้อมเป็นนายกฯ
ส่วนความพร้อมในการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์นั้น นายจุรินทร์ ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ทุกคน จะต้องพร้อมสำหรับการเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะในการเป็นหัวหน้าพรรคสมาชิกจะต้องพิจารณาจากความพร้อมทั้งศักยภาพ และความพร้อมเป็นการเป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนการจัดตั้งรัฐบาลนั้น จะต้องรอดูผลการเลือกตั้งที่ประชาชน จะเป็นผู้ลงคะแนนให้พรรคการเมืองก่อน ซึ่งเป็นวิถีประชาธิปไตยแบบรัฐสภา ที่พรรคยึดมั่นมาโดยตลอด
อย่างไรก็ตาม หอประชุมมหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุลวันนี้คึกคักเป็นอย่างมากได้มีประชาชนประมาณ 6,000 คน เดินทางมาต้อนรับพร้อมมอบดอกไม้เพื่อให้กำลังใจหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
ชุมพรจัดเวทีรอ”ประยุทธ์”
เช้าวันเดียวกัน นายสุพล จุลใส หรือ ลูกช้าง อดีต ส.ส.จังหวัดชุมพรเขต 3 เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมการจัดงานปราศรัยใหญ่ ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่า ขณะนี้เวทีการปราศรัยใหญ่มีความพร้อม 100% ขณะที่พี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ที่มาในวันนี้ล้วนเป็นแฟนคลับ หรือ Fc ลุงตู่ ที่ศรัทธาในตัวลุงตู่อยู่แล้ว ทุกคนก็ตื่นเต้นกันมาก เมื่อทราบข่าวว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะมาเปิดเวทีพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นที่แรกของจังหวัดชุมพร ซึ่งถือเป็นเตรียมความพร้อมสู่ 14 จังหวัดภาคใต้
นายสุพล กล่าวว่า ในเรื่องของการจัดเวทีปราศรัยใหญ่และการจัดเตรียมพื้นที่ซึ่งจะต้องมีการปิดถนนบริเวณด้านหน้าเทศบาลเมืองชุมพรประมาณ 200 ถึง 300 เมตรนั้นได้มีการพูดคุยขอความอนุเคราะห์การจัดพื้นที่ จากประชาชนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งไม่ได้เป็นการสร้างความลำบากใจหรือความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน เพราะส่วนใหญ่หากมีการจัดงานสำคัญภายในจังหวัดก็จะต้องมีการปิดถนนแบบนี้เช่นเดียวกัน เพราะพื้นที่แคบจึงจำเป็นต้องปิดถนน ซึ่งบริเวณศาลหลักเมืองและเทศบาลเมืองชุมพรเป็นถนนวันเวย์ซึ่งก็สามารถ ใช้ทางเลี่ยงเมืองได้เช่นเดียวกัน
นายสุพล กล่าวว่า ดังนั้นการที่พล.อ.ประยุทธ์ มาเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ถือว่าเป็นการเปิดพื้นที่ภาคใต้เพื่อเดินเกมส์เต็มตัวของพรรครวมไทยสร้างชาติเข้ามาทำพื้นที่ในจังหวัดภาคใต้ด้วย เพราะในส่วนของจังหวัดชุมพร ได้ส่งผู้สมัคร ส.ส. ลงแข่งทั้ง 3 เขต และ มั่นใจว่าประชาชนชาวจังหวัดชุมพร จะให้ความอนุเคราะห์เข้ามาดูแลประชาชนทั้ง 3 เขต
นายสุพล กล่าวว่า ทั้งนี้การที่มีความมั่นใจขนาดนี้เพราะว่าที่ผู้สมัครส.ส. ทั้ง 3 เขตได้มีการลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนพร้อมทำการเมืองมาเป็นระยะเวลานานแล้วบางคนมีประสบการณ์ทั้งเป็นอดีตสมาชิกสภา (ส.ก.) ,อดีตรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ส่วนตนเองก็เป็นอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ของจังหวัดชุมพรเขต 3 ซึ่งเมื่อวานได้ลาออกจากพรรครวมพลังเป็นที่เรียบร้อย เตรียมเดินหน้าร่วมเกมการเมืองกับพรรครวมไทยสร้างชาติอย่างเต็มตัว
“อนุชา”เข้าค่ายรทสช.
นายอนุชา บูรพชัยศรี ลองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า
“เมื่อวานนี้ผมได้สมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่สองที่ผมเข้าสังกัด นับตั้งแต่ที่ได้ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์มาเกือบ 4 ปีที่แล้ว โดยมีอุดมการณ์ที่อยากนำความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ที่มี เพื่อการมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศชาติต่อไป
การตัดสินใจครั้งนี้ ยอมรับครับว่าเป็นการตัดสินใจเพื่อสนับสนุน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา จากที่ผมได้รับโอกาสมาทำงานใกล้ชิดท่านนายกฯ ตลอดเวลาเกือบ 3 ปีที่ผ่านมา ผมได้เห็นความตั้งใจจริง ความมุ่งมั่น การทำงานอย่างไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคใดๆ ที่แม้จะมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ท่านนายกฯ ก็ยังมุ่งมั่น ทำงานอย่างจริงจัง ยึดถือความถูกต้องเป็นที่ตั้ง มุ่งผลประโยชน์ของประชาชน และประเทศชาติก่อนเสมอมา เป็นบุคคลที่ผมเคารพนับถือ
พรรครวมไทยสร้างชาติเป็นพรรคใหม่ แต่ผมเห็นความตั้งใจจริงของท่านนายกฯ และผู้บริหารพรรคฯ ทุกท่าน ที่จะทำให้พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นพรรคการเมืองหลัก เป็นที่พึ่งและความหวังของประชาชน แนวคิดและอุดมคติของผู้บริหารพรรคฯ เป็นแนวคิดที่สอดคล้องกับอุดมการณ์ที่ผมยึดมั่นตลอดมา
พรรคฯ ยังมีงานอีกหลายอย่างที่ทุกคน ทั้งท่านนายกฯ ผู้บริหาร และสมาชิกทุกคน ต้องร่วมกันทำงาน อย่างหนัก เพื่อให้ประชาชน เข้าใจ ยอมรับ เชื่อมั่น และศรัทธาในพรรครวมไทยสร้างชาติ ขอให้ทุกท่านร่วมเป็นกำลังใจ สนับสนุน ติดตามนโยบาย และร่วมเป็นแรงขับเคลื่อนพรรคฯ เพื่อที่เราจะร่วมกันพัฒนาประเทศต่อไปด้วยกันครับ”
“บิ๊กตู่” นำทัพ รทสช.บินชุมพร
เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พร้อมคณะแกนนำพรรค รทสช. อาทิ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในฐานะสมาชิกพรรค นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะสมาชิกพรรค นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะสมาชิกพรรค และคณะ ออกเดินทางด้วยเครื่องบินเหมาลำ สายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบิน FD2536 ไปยังสนามบินชุมพร เพื่อร่วมกิจกรรมปราศรัยหาเสียงของพรรค รทสช. ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในการขึ้นเวทีปราศรัยของพล.อ.ประยุทธ์ ในนามสมาชิกพรรค
โดยพล.อ.ประยุทธ์ สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว ทับด้วยเสื้อสูทลำลองสีเทา กางเกงสแลค เมื่อมาถึงท่าอากาศยานดอนเมือง พล.อ.ประยุทธ์ ได้พูดคุยกับแกนนำพรรคในห้องรับรอง
บอกไม่ได้ตื่นเต้นอะไร
ก่อนออกเดินทาง พล.อ.ประยุทธ์ ตอบคำถามสื่อมวลชนว่าตื่นเต้นหรือไม่ ว่า ตื่นเต้นเรื่องอะไร ไม่รู้สึกตื่นเต้น เมื่อถามว่าขึ้นเวทีปราศรัยครั้งแรกมีข่าวว่าจะมีเซอร์ไพรส์ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เซอร์ไพรส์อะไร เมื่อถามว่ามีปราศรัยจากใจอะไรหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่รู้ ใจฉันก็เป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว ไม่ใช่รบกับใคร เมื่อถามว่าเตรียมไปพูดอะไรกับชาวชุมพรบ้าง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็พูดจากใจ เมื่อถามว่าได้เตรียมภาษาใต้มาเยอะหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็พอพูดได้บ้าง แต่อย่าไปฝืนให้มากเพราะเราไม่ใช่เจ้าของภาษา คนไทยด้วยกันพูดภาษาอะไรกันก็ได้
เมื่อถามว่าพล.อ.ประยุทธ์ตื่นเต้นหรือไม่เพราะคนที่เวทีปราศรัยเยอะมาก เตรียมเก้าอี้ไว้ 13,000 ที่นั่ง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ปกติตนพูดกับคน 70 ล้านคนอยู่แล้วทุกวัน เพียงแต่ไม่ได้มารวมกันเยอะๆที่เดียวกัน เหมือนกันแหละ เมื่อถามว่าเป็นการขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งแรก พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า จะใหญ่จะเล็กก็ไม่รู้ตนก็พูดจากใจของตน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช็คอินขึ้นเครื่องบินที่ท่าอากาศยานดอนเมือง พล.อ.ประยุทธ์ได้เดินผ่านช่องเคาท์เตอร์เช็คอินเข้ามาทันที โดยลืมหยิบบัตรประชาชนให้พนักงาน ทำให้นายพีระพันธุ์ ต้องเรียกให้มาเช็คอินก่อน พล.อ.ประยุทธ์จึงได้หยิบบัตรประชาชนที่เตรียมไว้ในกระเป๋าส่งให้พนักงานเช็คอิน ก่อนเดินเข้ามายังเครื่องบิน
โดยผู้สื่อข่าวแซวว่า นายกฯเคยขึ้นแต่เครื่องบินที่ไม่ใช่เครื่องบินพาณิชย์ ซึ่งนายกฯได้หันมาตอบผู้สื่อข่าวว่า เคยขึ้นเครื่องบินพาณิชย์แล้ว
ชาวบ้านต้อนรับกระหึ่มชุมพร
เมื่อเวลา 15.10 น.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาพร้อมคณะเดินทางถึงท่าอากาศยานจังหวัดชุมพร โดย นายสุพล จุลใส อดีตส.ส.ชุมพร พรรครวมพลัง นำนักการเมืองท้องถิ่นและว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ จังหวัดชุมพร และประชาชนในพื้นที่มาให้การต้อนรับ โดยประชาชนมอบดอกกุหลาบและพวงมาลัยดอกดาวเรืองให้ พล.อ.ประยุทธ์ และตะโกนให้กำลังใจนายกฯสู้ๆ พร้อมขอถ่ายรูป ก่อน พล.อ.ประยุทธ์เข้าห้องรับรอง เพื่อเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นเสื้อยึดสีน้ำเงิน และสวมแจ๊กเก็ทของพรรค รวมไทยสร้างชาติ จากนั้น ออกเดินทางด้วยรถยนต์โตโยต้าอัลพาร์ดสีขาว ทะเบียน ฆฉ 1314 กรุงเทพมหานคร ไปยังลานหน้าเทศบาลเมืองชุทพร เพื่อสักการะศาลหลักเมืองชุมพร และพระบรมรูป ร. 5 และปราศรัยที่ลานหน้าเทศบาลเมืองชุมพรในช่วง1ทุ่ม