"บิ๊กป้อม"อ้าแขนรับ "2 กุมาร" ด้าน"บิ๊กน้อย"กลับบ้านเก่า ช่วยเศรษฐกิจ-การเมือง ยันทิ้งพรรคหนก่อนไม่ได้ขัดแย้ง "อุตตม"บอกไม่ติดใจเรื่องเก่า ระบุไร้เงื่อนไขจัดลำดับปาร์ตี้ลิสต์ รับปรึกษา"สมคิด"แล้วก่อนคัมแบ็ก แย้มเดี๋ยวมี สอท.ทยอยสมทบอีก "สนธิรัตน์"ย้ำกลับมาร่วมงานกันได้อย่างสบายใจ "ประวิตร"เขินโดนแซวปรับลุคกระชากวัย โวเรตติ้งดี ชาวบ้านขอเซลฟี่เพียบ ถ้าชอบให้เลือก พปชร. "สันติ"ย้ำเป้า ส.ส.ไม่ต่ำ 150 ที่นั่ง
เมื่อเวลา 14.38 น.วันที่ 30 มกราคม 2566 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้เดินทางเข้ามายังที่ทำการพรรค พปชร. ถ.รัชดาภิเษก พร้อมขึ้นห้องทำงานชั้น 21 ต่อมาเวลาไล่เลี่ยกัน พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา หัวหน้าพรรครวมแผ่นดิน ได้เดินทางเข้ามายังพรรคเช่นเดียวกัน รวมถึง นายอุตตม สาวนายน และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ที่เดินทางถึง พปชร.ในเวลาห่างกันไม่นานนัก
โดยทันทีที่มาถึง นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค และนายสกลธี ภัททิยกุล หัวหน้าทีม กทม.ได้ให้การต้อนรับ พร้อมขึ้นไปยังห้องทำงาน พล.อ.ประวิตร ทันที เพื่อยื่นใบสมัคร โดย พล.อ.ประวิตร ลงนามใบสมัครด้วยตัวเอง โดยนายอุตตม และนายสนธิรัตน์ ได้เปลี่ยนสวมเสื้อพรรค พปชร.ก่อนที่ทั้งหมดจะลงมาแถลงข่าวร่วมกัน
ต่อมาเวลา 15.10 น. พล.อ.ประวิตร พร้อม นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และเลขาธิการพรรค นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค ร่วมกันแถลงเปิดตัว พล.อ.วิชญ์ นายอุตตม และนายสนธิรัตน์
โดย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นที่น่าดีใจที่เราได้ต้อนรับทั้ง 3 คน คนแรก พล.อ.วิชญ์ คนที่สอง คือ นายอุตตม และคนที่สามคือ นายสนธิรัตน์ ถือเป็นเกียรติกับ พปชร.เป็นอย่างยิ่ง ตนพูดไม่เก่ง แต่ฟังเก่ง แล้วฟังรู้เรื่องด้วย อยากจะฝากบอกกับทุกคนว่าพรรคของเราเป็นพรรคที่เรารวมกัน ก้าวข้ามความขัดแย้งทั้งหมด ฉะนั้น ทั้งสามคนจะมาช่วย พปชร.ในการดำเนินการกิจกรรมการเมืองและเศรษฐกิจ เพื่อที่จะให้พรรคมีความเข้มแข็ง เราต้องขอบคุณทุกคนที่มาให้กำลังใจกันทั้งสามคน เราได้สองหัวหน้าพรรค กับหนึ่งเลขาธิการพรรคนับว่าเป็นเกียรติกับ พปชร.เป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้ นายอุตตมจะมาช่วยดูแลเรื่องเศรษฐกิจ นายสนธิรัตน์จะช่วยดูเศรษฐกิจและการเมืองด้วย ส่วน พล.อ.วิชญ์ ช่วยทั้งพรรค
ผู้สื่อข่าวถามว่า การกลับมาของทั้งสามคน จะทำให้ได้เป็นนายกฯ คนที่ 30 หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ต้องประชาชนเลือก คุณถามอย่างนี้ผิดนะ จะให้ตนเป็นนายกฯ คนที่ 30 ได้อย่างไร ประชาชนต้องเป็นคนเลือก ถ้าไม่ได้เลือกจะเป็นได้อย่างไร
เมื่อถามว่า ตอนนี้แคนดิเดตนายกฯ ในพรรคมีแค่คนเดียว ไม่มีคนอื่นแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ถ้าตอบว่าตนไม่รู้ จะหาว่าตนไม่รู้อีก เมื่อถามย้ำว่า แล้วที่ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ระบุจะเข้ามาและเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค พล.อ.ประวิตร ย้อนถามว่า ใครบอก ถ้านายมิ่งขวัญบอกเองก็ต้องไปถามนายมิ่งขวัญ แต่ยืนยันว่านายมิ่งขวัญยังอยู่กับพรรค และช่วยด้านเศรษฐกิจ เพราะในพรรคมีงานให้ทำเยอะแยะ ไม่ต้องห่วง เมื่อถามอีกว่า แล้วจะให้ใครเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นทั้งหมดเลยครับ ไม่เป็นไร หัวหน้ามีได้หลายคน
เมื่อถามว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย จะตามมาร่วมงานหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ต้องถามนายสมคิด จะถามตนได้อย่างไร เพราะไม่ได้คุยกันเลย เมื่อถามว่า จะป้องกันปัญหาเรื่องความขัดแย้งอย่างไร เพราะก่อนหน้านี้ที่นายอุตตม และนายสนธิรัตน์ออกไปจากพรรค เพราะมีเรื่องความขัดแย้ง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มีความขัดแย้ง ออกไปก็ไม่ได้ขัดแย้ง
ด้าน นายอุตตม กล่าวเปิดใจถึงสาเหตุที่กลับมา พปชร.ว่า เรื่องสำคัญสุดคือ การสร้างปรองดอง ต้องขอบคุณหัวหน้าพรรคที่ได้เชิญชวนพวกตนมาทำงานร่วมกันในเวลาที่ประเทศชาติต้องการเดินหน้า พล.อ.ประวิตร แสดงอุดมการณ์มุ่งมั่นชัดเจนที่จะรวบรวมผู้คนจากหลายๆ ฝ่ายมาทำงานด้วยกัน อีกเหตุผลหนึ่งคือ พวกตนเคยเป็นสมาชิกในบ้าน สมาชิกเก่าในบ้านหลังนี้ มีส่วนร่วมริเริ่มสร้าง พปชร.มา มีส่วนในการคิดและผลักดันนโยบายส่วนหนึ่งขึ้น เช่น บัตรประชารัฐ ที่พวกเราช่วยกันทำมา หัวหน้าพรรค พปชร.ประกาศชัดเจนแล้วว่าจะนำพรรคขับเคลื่อนนโยบายสำคัญเหล่านี้ เรายินดีที่จะทำงานร่วมกับทุกคนที่มีอุดมการณ์ร่วมกัน ก้าวข้ามขัดแย้งได้แล้ว
เมื่อถามว่า ที่ตัดสินใจมา พปชร.เพราะดีลล่มกับพรรคไทยสร้างไทยใช่หรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า ในเรื่องการเจรจาการเมือง อย่างที่ทราบกันว่ามันไม่ได้ลงตัว ในส่วนรายละเอียดขอสงวนไว้ แต่ไม่มีอะไรที่นำไปสู่ความขัดแย้ง เราพิจารณาทำในสิ่งที่ดีที่สุด เมื่อถามว่า ไม่ติดใจอะไรใน พปชร.แล้วใช่หรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า หัวหน้าพรรคพูดแล้ว วันนี้เป็นเรื่องของการก้าวข้ามความขัดแย้ง มาช่วยกันสร้างความปรดอง ไม่ได้มีอะไรติดใจ ตอนเดินออกไปก็ไม่มีอะไรขัดแย้ง เรื่องความเห็นต่าง เข้าใจไม่ตรงกัน เป็นเรื่องธรรมดา เกิดขึ้นได้ในทางการเมือง แต่วันนี้ถ้าเราตั้งใจว่าจะมาทำงานด้วยกัน ก้าวข้ามความขัดแย้ง ก็ไม่ได้ติดใจอะไรกัน หลายๆ คนก็ไม่ได้ติดใจ ทั้งนี้ เดี๋ยวจะมีคนจากพรรคสร้างอนาคตไทยคนทยอยตามกันเข้ามาอีก
เมื่อถามว่า ความสัมพันธ์ระหว่างนายสมคิด , นายอุตตม และ พปชร.คืออะไร นายอุตตม กล่าวว่า อย่างแรกเราร่วมกันก่อตั้งพรรค วันนี้การที่ก้าวเข้ามา พปชร.พวกตนได้ปรึกษากับนายสมคิด ท่านก็ยินดี ท่านบอกว่าตราบใดที่เป็นการมาช่วยกันแล้วทำให้ประเทศชาติเดินไปได้ ปรองดอง ลดความขัดแย้ง ท่านยินดี ความสัมพันธ์ยังเหมือนเดิม พวกเราออกมาทำการเมืองก็ปรึกษากันมาตลอด
เมื่อถามย้ำว่า นายสมคิดจะช่วยอยู่เบื้องหลังหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า ตอบแทนนายสมคิดไม่ได้ว่าท่านจะทำการงานต่อหรือไม่ อย่างไร ตอบแทนไม่ได้ เมื่อถามว่า นายอุตตมและนายสนธิรัตน์จะอยู่ในผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่เท่าไหร่ นายอุตตม กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องนี้ ตนและ พล.อ.ประวิตร ไม่ได้พูดเรื่องนี้
เมื่อถามว่า จะสามารถทำงานร่วมกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย ที่มีข่าวจะกลับเข้ามาได้หรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า ร.อ.ธรรมนัส ยังไม่ได้มาหรือเปล่า ทำให้ พล.อ.ประวิตร กล่าวแทรกทันทีว่า เขายังไม่ได้มา ผู้สื่อข่าวจึงถาม พล.อ.ประวิตร ว่า ร.อ.ธรรมนัส จะเข้ามาเมื่อไหร่ แต่ พล.อ.ประวิตร ระบุว่า ไม่รู้ ต้องไปถาม ร.อ.ธรรมนัส มาถามอะไรตน ไปถามถึงคนอื่นไม่ได้ ตอบแทนเขาไม่ได้ ต้องถามเรื่องเกี่ยวกับตน จะมาถามเรื่อง ร.อ.ธรรมนัส กับนายอุตตม ก็ไม่ได้ เพราะเขายังไม่เคยเจอกัน จะมาถามอะไร เขาเสียหาย และไม่สมมุติ ถ้าเรื่องสมมุติก็ถามไม่ได้ จะสมมุติได้อย่างไร
ขณะที่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ความรู้สึกวันนี้คือได้กลับบ้าน รู้จักคุ้นเคยตั้งแต่ก่อตั้งพรรค ไม่ได้รู้สึกแปลกอะไร มีความคุ้นเคยกันอยู่แล้ว ยินดีอย่างยิ่งที่กลับมาร่วมกันทำงานกับหัวหน้าพรรค ผู้บริหารพรรค สมาชิกพรรค การกลับมาของนายอุตตมกับตนคือ หนึ่งในสัญลักษณ์ที่ประเทศเราต้องการ การเมืองอ่อนแอเพราะเราแตกเป็นส่วนกันมาก ทำให้ความเข้มแข็งทางสถาบันการเมืองอ่อนแอลง สิ่งสำคัญที่สุดสถานบันการเมืองต้องเข้มแข็ง พรรคการเมืองต้องเข้มแข็ง ถ้านักการเมืองอ่อนแอจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาประเทศไม่ได้ วันนี้ประเทศหลังจากวิกฤติโควิด-19 พลังงาน มันส่งสัญญาณว่าเราต้องการพลังในการเปลี่ยนแปลงประเทศ ท่านหัวหน้าพรรคมีนโยบายที่สอดรับกับเราคือ การระดมผู้คนเข้ามาแก้ปัญหา เราเองตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย เรามีอุดมการณ์คือ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และจุดยืนคือ ตั้งพรรคก้าวข้ามความขัดแย้ง ไม่ไปทางใดทางหนึ่ง เรามีเจตนารมณ์และอุดมการณ์เดียวกัน ถ้าเราไม่แตกแยกกัน ดีทั้งสิ้น เรากลับมาด้วยความเต็มใจ ตั้งใจ ที่ผ่านมาเราเจรจาพรรคการเมืองต่างๆ ก็ด้วยอุมดการณ์เหล่านี้ เพื่อให้สถาบันการเมืองเข้มแข็ง เราโชคดีที่ได้คุยกับหัวหน้าพรรค การพูดคุยกัน ร่วมกันได้อย่างสบายใจ ไปด้วยกันได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในตอนท้ายผู้สื่อข่าวได้สอบถาม พล.อ.ประวิตร ถึงกระแสตอบรับในการลงพื้นที่ดีหรือไม่ พล.อ.โดยประวิตร ยิ้มและกล่าวว่า ไม่ทราบ ไปที่ไหนก็มีคนต้อนรับทั้งนั้นเลย มีคนมาขอถ่ายรูปทั้งนั้น เมื่อถามว่า มีคนชื่นชมว่ามีการปรับลุคการแต่งกายให้ดูวัยรุ่น กระชับกระเฉงขึ้น พล.อ.ประวิตร ตอบว่า ตนก็ใส่แบบนี้ ใส่มานานแล้ว ไม่ใช่กลยุทธ์อะไร ตนใส่แบบนี้อยู่แล้ว ผู้สื่อข่าวจึงกล่าวหยอกกับ พล.อ.ประวิตร ว่าดูเท่ พล.อ.ประวิตร จึงถามกลับว่า เท่มากมั้ย พร้อมกับยิ้มอย่างอารมณ์ดี แล้วบอกว่า "ถ้าเท่ต้องเลือก พปชร.ใช่มั้ยล่ะ"
ด้าน นายสันติ กล่าวถึงเป้าหมายในการเลือกตั้งครั้งหน้า หลังได้ พล.อ.วิชญ์ นายอุตตม และนายสนธิรัตน์ กลับเข้ามา จะได้ที่นั่ง ส.ส.เท่าไหร่ ว่า ของเก่า 116 ที่นั่ง แต่ตั้งเป้า จะได้ไม่ต่ำกว่า 150 ที่นั่ง วันนี้ พปชร.มีผู้อาวุโส ผู้ที่มีความตั้งใจจะมาพัฒนาบ้านเมืองให้ประชาชนอยู่ดี มีงานทำ หลายคนกำลังจะเข้ามาร่วมกับเรา ร่วมใจกันพัฒนาประเทศ.-006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี