ทนายสิทธิฯอัพเดทอาการ'ตะวัน-แบม' ยอมจิบน้ำและทา KY Jelly หลัง 5 อาจารย์หมอขอร้อง เผยรายงานของแพทย์ ไม่กลัวตาย แต่การเลือกวิธีการอดอาหารและน้ำเป็นแนวคิดที่ทำให้การเปลี่ยนแปลงมีผลชัดเจนและรวดเร็ว เผยเป้าหมายสูงสุดไม่ใช่การตาย และเห็นว่าการมีชีวิตต่อเพื่อการต่อสู้กับสิ่งที่เป็นเป้าหมายหลักสำคัญยังเป็นประเด็นที่สำคัญที่อยู่ระหว่างการพิจารณา
30 ม.ค.66 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้เผยแพร่เอกสารคำชี้แจงอาการของ"#ตะวันแบม"น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ (ตะวัน) และ น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ (แบม)ว่า ทนายความได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เพื่อเข้าเยี่ยมตะวันและแบม จากการสอบถามพูดคุยพยว่า ในวันนี้มีเพื่อนและครอบครัวมาเยี่ยม รวมถึงได้มีคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนมาเยี่ยมด้วยเป็นจำนวน 3 คน นอกจากนั้นแล้วในวันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม 2566 เวลา 15.15 -17.00 น. ยังมีคณะอาจารย์แพทย์มาเข้าพบกับทั้งสอง โดยเป็นอาจารย์แพทย์ทั้งสิ้นจำนวน 5 คน
จากการสรุปรายงานของแพทย์ระบุว่านางสาวทานตะวันตื่นรู้ตัวดี อ่อนเพลีย ปากแห้ง หลับเป็นพักๆเนื่องจากมีอาการร้อนในตัว แสบร้อนกลางอก เจ็บแปลบที่หน้าอกข้างซ้ายเวลาตะแคงตัว สามารถโต้ตอบได้ และอารมณ์อยู่ในเกณฑ์ปกติหมาะสมกับเรื่องที่พูดคุย นางสาวอรวรรณ ตื่นรู้ตัวดี อ่อนเพลีย ปากแห้ง ปวดกรามทั้งสองข้าง นอนหลับเป็นพักๆเนื่องจากไม่สุขสบายและกัดฟัน สามารถโต้ตอบได้และอารมณ์อยู่ในเกณฑ์ปกติเหมาะสมกับเรื่องที่พูดคุย โดยทั้งคู่มีค่าคีโตน (Ketone) สูงขึ้นกว่าเดิมมาก กล่าวคือ ตะวันมีค่าคีโตนอยู่ที่ 4.98 จากเดิม 2.40 และแบม มีค่าคีโตนอยู่ที่ 5.31 จากเดิม 2.16 ( ผลตรวจจากวันที่ 25 มกราคม2566) ซึ่งเป็นผลจากการที่ร่างกายเผาผลาญกล้ามเนื้อไปเป็นจำนวนมาก
ตะวันและแบม ได้เล่าให้ฟังอีกว่า จากการพบเจออาจารย์หมอทั้งห้าท่าน ได้มีแพทย์ขอร้องให้จิบน้ำเพื่อบรรเทาอาการ สุดท้ายทั้งคู่จึงยอมจิบน้ำ และยอมทา KY Jelly ไป โดยในรายงานของทีมแพทย์ผู้ดูแลใต้หัวข้อ "MSE" ของตะวันและแบมระบุว่า "มีความตั้งใจในการอดอาหารเพื่อเรียกร้องตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่ไม่ได้ปรารถนาจะจบชีวิตตนเอง ซึ่งรับทราบว่าการอดอาหารมีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิต ไม่ได้แสดงความกลัวต่อความเสี่ยงนั้น"
รายงานของแพทย์ ยังระบุภายใต้หัวข้อ"การสื่อสารของนางสาวทานตะวันและนางสาวอรวรรณต่อสังคม"ว่า
-ไม่กลัวตาย หากการตายนี้จะนำมาซึ่งความยุติธรรมและอิสรภาพของผู้ที่ออกมาเรียกร้องและถูกดำเนินคดีเพียงเพราะต้องการการเปลี่ยนแปลง ที่จะนำไปสู่ความเหลื่อมล้ำที่ลดลง การมีชีวิตและประเทศชาติที่ดีขึ้นก็ยินดีเสียชีวิต
-การเลือกวิธีการอดอาหารและน้ำเป็นแนวคิดที่ทำให้การเปลี่ยนแปลงมีผลชัดเจนและรวดเร็ว
-อย่างไรก็ตามเป้าหมายสูงสุดไม่ใช่การตาย และเห็นว่าการมีชีวิตต่อเพื่อการต่อสู้กับสิ่งที่เป็นเป้าหมายหลักสำคัญยังเป็นประเด็นที่สำคัญที่อยู่ระหว่างการพิจารณา
-เยาวชนเป็นผู้ที่ดูแลประเทศชาตินี้ต่อไป ชาติควรดูแลให้เยาวชนเติบโตต่อไปอย่างแข็งแรงเพื่อให้ดูแลประเทศ แทนการกระทำอะไรบางอย่างให้เยาวชนเกิดอุปสรรคต่อการเติบโตพัฒนา ทนายความขอขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง ไปยังคณะแพทย์หรือ "อาจารย์หมอ" ทั้งห้าท่าน ผู้ได้เข้าตรวจอาการของตะวันและแบม ในวันที่ 29 มกราคม 2565
ด้วยความนับถือเป็นอย่างสูง
30 มกราคม 2566
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี