‘สุทิน’ เหน็บโครงการ ‘โรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐากราก’ น่าเสียดาย ดูเหมือนจะดี แต่แฝงวัตถุประสงค์ร้าย จี้ ‘บิ๊กตู่’ แก้เงื่อนไขเพิ่มสัดส่วนถือหุ้นให้ชุมชน ซัดปากปราศรัยน้ำใจเชือดคอ ปมน้ำท่วมเป็นเหตุ ขณะที่นายกฯเคืองหนัก ถูกผู้แทนฯหัวเราะใส่ ไม่เล่นด้วย ถามกลับ ‘หัวเราะทำไม’

15 ก.พ.2566 เมื่อเวลา 18.05 น. ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) ลุกขึ้นอภิปรายญัตติอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ว่า ตนขอชื่นชมพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่มีโครงการดีๆอย่างโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐากราก แต่ไปๆมาๆ กลายเป็นว่าล้มเหลว ขึ้นต้นเป็นบ้องไม้ไผ่ เหลามาเหลาไปกลายเป็นบ้องกัญชา ดูเหมือนเจตนาดีแต่แฝงไปด้วยวัตถุประสงค์ร้าย เหมือนสำนวนไทยว่า ปากปราศรัยน้ำใจเชือดคอ โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก ต่ำกว่า 10 เมกะวัตต์ ที่มีนำร่อง 150 เมกะวัตต์ เพื่อให้ชุมชุนเป็นเจ้าของและมีประโยชน์โดยตรง ซึ่งตนผิดหวังระยะ 8 ปีที่ผ่านมาที่ยังไม่ประสบผลสำเร็จ เพราะยังติดเงื่อนไขที่ไม่จริงใจ เนื่องจากกำหนดให้โรงไฟฟ้าชุมชนมีนายทุนถือหุ้น 90 เปอร์เซ็นต์ ชุมชนถือหุ้น 10 เปอร์เซ็นต์ และกำหนดว่าหากมีการเซ็นสัญญาขายไฟต้องมีเงินประกันสัญญา 500 ล้านบาท ถามว่าวิสาหกิจชุมชนที่ไหนมีเงินมากขนาดนี้

นายสุทิน กล่าวว่า สาเหตุที่ยังไม่มีการตั้งโรงงานสักแห่ง สืบเนื่องจากเอกชนประมูลกันวุ่นวาย จนมีการร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า มีการฮั้วประมูล ถ้าต้องการเป็นของชุมชนจริงๆ ทำไมกำหนดเงื่อนไขจากเดิม 10 เปอร์เซ็นต์ เป็น 50-80 เปอร์เซ็นต์ ทำไมเนื้อข้างเขียงทำไมให้ชุมชนไม่ได้ หากตนเป็นรัฐบาลจะควักมือเรียกชุมชนที่มีศึกษาโครงการนี้แล้วเข้ามาหาเลย เพื่อจะแก้ปัญหาให้ชุมชน อย่าให้นายทุนอย่ามาแข่งขันกับชาวบ้าน ไปให้นายทุนแข่งขันในโครงการขนาดกลางขนาดใหญ่เถอะ

“ที่ทำวันนี้ออกเงื่อนไขให้ทันเกิดยาก 8 ปีไม่เกิด กำลังจะยกเป็นเงื่อนไขข้ออ้างว่า โรงงานขนาดเล็กล้มเหลวทำไม่ได้ ให้นายทุนใหญ่ทำเถอะ สุดท้ายก็จะกลับมาเป็นบิดาแห่งความเหลื่อมล้ำ เข้าร่องความกดอากาศต่ำ เสียดายจริงๆ ของดีกลายเป็นของเสีย ของที่ผมชื่นชมกลายเป็นผิดหวัง เพราะคิดดีแต่เจตนาไม่บริสุทธิ์ ปากปราศรัยน้ำใจเชือดคอ ตอนนี้ฉลาดมาคิดเรื่องนี้ ดูไปดูมาเหมือนฉลาดแกมโกง แต่ดูไปดูมาโง่ยังไม่พออมสเปโตด้วย” นายสุทิน กล่าว

จากนั้น นางบุญญาพร นาตะธนภัท ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ลุกขึ้นประท้วงว่า ฟังหลายครั้งใส่ร้ายป้ายสีผิดข้อบังคับข้อ 69 กับนายกฯมาโดยตลอด ตนนั่งอยู่ตรงนี้ฟังท่านอภิปรายหลายครั้งหลายหนว่า ปากปราศรัยแต่น้ำใจเชือดคอ จริงๆ แล้วท่านนายกฯไม่เป็นเช่นนั้น และขอให้ถอนคำพูดว่านายกฯโง่ด้วย

ต่อมาพล.อ.ประยุทธ์  ลุกขึ้นชี้แจงว่า ที่ฟังมาเป็นข้อเสนอแนะในสิ่งที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่แล้ว ในเรื่องของโรงไฟฟ้า กรุณาไปดูรายละเอียดอีกครั้งว่ากติกาว่าอย่างไร ทำไมตนถึงไม่สนับสนุนให้ ทำไมให้รายใหญ่เขาได้ มันมีสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ 90 กับ 10 ซึ่ง 10 ของประชาชนสามารถเพิ่มได้ถึง 40 เอกชนลดลงเหลือ 60 ได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับความพร้อมด้วย และพื้นที่ที่ตั้งโรงไฟฟ้าก็ตั้งประมาณ 700 วัตต์ ที่จะให้ดำเนินการ ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาอยู่ ยืนยันว่าสิ่งที่สมาชิกพูดตนทำหมดแล้วแต่ท่านไม่เห็นเอง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า เรื่องการปฏิรูปตำรวจ ที่ว่ายังมีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องพัวพันอบายมุข รับส่วย ยาเสพติด พนันออนไลน์ การใช้ระบบเส้นสาย รัฐบาลก็ให้ควาามสำคัญกับการปฏิรูปตำรวจอยู่แล้วตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพ โดยมีการปรัปปรุงกฎหมาย ระเบียบเกี่ยวกับการบริหารบุคคลต่างๆ ซึ่งสภาก็ได้ร่วมกันพิจารณาจนสามารถออกพระระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ตำรวจแห่งชาติ 2565 ซึ่งประกาศราชกิจจานุเบกษาไปแล้ว และที่พูดมาทั้งหมดว่ายังมีคดีโน้นคดีนี้ส่วนเรื่องน้ำท่วม น้ำแล้ง ท่านก็ทราบดีอยู่แล้วว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาหลายสอบปี ก็แก้ปัญหาเรื่องน้ำ ขาดน้ำ น้ำแล้งมาโดยตลอด ท่านไปย้อนดู 8 ปีที่ผ่านมาทำอะไรไว้บ้าง ท่านบอกน้ำยังท่วมอยู่ มันก็ต้องท่วม เพราะฝนมันตก ถ้าฝนไม่ตกก็ไม่ท่วม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อพล.อ.ประยุทธ์พูดถึงตรงนี้ ทำให้มีเสียงหัวเราะดังลั่นห้องประชุม จนพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า “หัวเราะอะไร หัวเราะอะไร ท่านรู้หรือไม่ปริมาณน้ำ สมัยก่อนท่านทำน้ำท่วมเท่าไหร่ แล้วผมลดปริมาณน้ำท่วมลงได้เท่าไหร่ ปี 54 เป็นอย่างไร ปี 57, 58 และปีที่แล้วมันท่วมมากเพราะอะไร เพราะฝนตกเกิน 50 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง รู้เรื่องบ้างไหมรายละเอียดน่ะ ถ้าติว่าน้ำท่วมเพราะรัฐบาลไม่แก้ปัญหา ผมว่าไม่เป็นธรรม ในปี 55-65 หมู่บ้านที่เป็นพื้นที่ภัยแล้งลดลงอย่างต่อเนื่อง 66 ก็ลด.-001