เตรียมเปิดนโยบาย‘ตัวตนบิ๊กตู่’

รทสช.ฟิตจัด

ส่งผู้สมัครครบ400เขต/ปราศรัยทั่วปท.

‘แรมโบ้’นำบุกอีสานทะลวงพท.

ปชป.ทวงคืนเก้าอี้สส.กรุงเทพฯ

เปิดตัวผู้สมัคร‘3นักบิน’กระหึ่ม

‘สุดารัตน์’ชูเติมทุนแก้หนี้สิน

‘เสรีพิศุทธ์’ขอจูบปาก‘ลุงป้อม’

รวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จ่อเปิดนโยบาย “ตัวตนบิ๊กตู่”เร็วๆ นี้ ยันส่งผู้สมัครครบ 400 เขต ด้าน “จุรินทร์”เดินหน้าทวงคืนเก้าอี้ สส.กรุงเทพฯ ให้พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมเปิดตัว 3 ผู้สมัครนักบินกระหึ่ม “ไทยสร้างไทย”ชูแก้หนี้เติมทุน ด้วย “กองทุนสร้างไทย 3 แสนล้าน” ฟื้น“ธุรกิจ SMEs-หนี้ครัวเรือน” “เสรีพิศุทธ์” ลั่นพร้อมจูบปาก “บิ๊กป้อม” ตั้งรัฐบาล แต่ไม่ร่วม “ประยุทธ์” ขู่ยิงกบาลพวกทำปฏิวัติ

เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมสู่การเลือกตั้งของพรรค รทสช. หากมีการยุบสภาในเดือนมีนาคม ว่า ขณะนี้พรรคมีความพร้อมอย่างมาก เนื่องจากพรรคได้วางกลไกการบริหารไว้ค่อนข้างดี และยังมีคณะกรรมการกำหนดยุทธศาสตร์ของพรรค ซึ่งพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม เป็นประธาน ฉะนั้นการทำงานของพรรคเป็นไปอย่างราบรื่น และเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ในส่วนว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ก็มีความพร้อมเกือบหมด เพียงแต่อาจมีพื้นที่ทับซ้อนกันบ้างเล็กน้อย ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการในแต่ละภาคกําลังจัดการอยู่ จึงคิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร

นายธนกร กล่าวต่อว่า สำหรับนโยบายของพรรค รทสช. เร็วๆ นี้จะมีการออกนโยบายที่เกี่ยวข้องกับตัวตนของพล.อ.ประยุทธ์ ก่อน ส่วนนโยบายในด้านต่างๆ ทำไว้เรียบร้อยหมดแล้ว เหลือแค่รอเวลาที่เหมาะสมในการทยอยเปิดเผย

ผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่าจะส่งผู้สมัคร ส.ส.ครบ 400 เขตหรือไม่ นายธนกร ส่งครบทั้งประเทศแน่นอน เนื่องจากทางพรรคได้มีคณะกรรมการที่ดูแลในแต่ละภาค ซึ่งมีการประชุมติดตามความคืบหน้าในเรื่องผู้สมัครและนโยบายต่างๆ ทุกสัปดาห์ และได้วางแผนการปราศรัยใหญ่ในแต่ละพื้นที่ไว้คร่าวๆ แล้ว

‘แรมโบ้’นำทัพรทสช.ลุยสารคาม

วันเดียวกัน ที่บริเวณลานหน้าโรงเรียนบ้านขี ต.เขวาใหญ่ อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม นายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ “แรมโบ้” กรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์ฯพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมด้วย นายอานนท์ แสนน่าน อดีตผู้ริเริ่มก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง นางนิตยา นาโล หรือ “นักสู้ปอสี่” อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคอีสาน นายเสกสรร ชัยเจริญ หรือ”หนุ่มเสก” นายอวยชัย วะทา สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ และ นางสุภาพร ทองเจริญ สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ประจำจังหวัดมหาสารคาม ได้เดินทางมาปราศรัยพบปะประชาชน อดีตคนเสื้อแดง และ เสื้อเหลือง จำนวนมากในกิจกรรม”ตุ้มโฮมชาวอีสานเอาลุงตู่เป็นนายกอีกสมัย”

ประกาศตุ้มโฮมชู‘ลุงตู่อยู่ต่อ’

นายเสกสกล กล่าวว่า วันนี้ประชาชน อดีตคนเสื้อแดงและคนเสื้อเหลือง ได้ผนึกพลังร่วมรักสามัคคีให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ต้องการให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาหรือ “ลุงตู่” เป็นนายกต่อไป ตนอยากกราบหัวใจพี่น้องชาวมหาสารคาม ช่วยกันร่วมแรงร่วมใจออกมารวมพลัง ตุ้มโฮมคนอีสาน เป็นหนึ่งเดียว เหมือนข้าวเหนียวปั้นให้เหนียวแน่นเพื่อที่จะประกาศศักดิ์ศรีพลังอีสาน เพื่อสนับสนุนนายกรัฐมนตรี คนอีสานเลือดเนื้อคนอีสาน ที่ชื่อ”ลุงตู่”มาเป็นนายกฯรัฐมนตรีอีกสมัย ลูกอีสานต้องรักคนอีสานเลือดสีเดียวกันต้องไม่ทิ้งกัน ฝากชาวมหาสารคามเลือกผู้สมัคร ส.ส.และเลือก”พรรครวมไทยสร้างชาติ”ด้วย

ผลงานลุงตู่มากมายทำจริงไม่ทิ้งปชช.

นายเสกสกลปราศรัยว่ามีพรรคการเมืองบางพรรค ไม่มีนโยบายพรรคอะไรเลยที่จะโดนใจคนอีสาน ขึ้นเวทีปราศรัยที่ไหน ก็ด่าแต่ลุงตู่ของพวกเรา ใส่ร้ายป้ายสีไปเรื่อยเปื่อย คำก็เอาพ่อกลับบ้าน สองคำก็จะเอาพ่อกลับบ้าน ไล่แต่ลุงตู่ตลอดเวลา พูดจาปราศรัย ฟังก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง ไม่ค่อยเข้าใจ พวกเราชาวอีสานเห็นผลงานนายกฯลุงตู่มากมาย พูดจริงทำจริงไม่ทิ้งประชาชน ภาคอีสานพัฒนาขึ้นอย่างมากมาย ถนนทุกสายเดินทางสะดวกสบายในยุคสมัยของ”นายกฯลุงตู่”พรรคการเมืองไหน นักการเมืองคนไหนที่ดูถูกว่าคนอีสานคิดอะไรไม่เป็น คิดผิดแล้ว เพราะทุกคนรู้”ลุงตู่”ทุ่มเทขยันทำงานเพื่อประชาชน พวกเราชาวอีสานจะรวมพลังปั้นข้าวเหนียว จะรวมพลังตุ้มโฮมให้ชาวอีสานแข็งแกร่งเพื่อต่อต้านใครก็ตาม ที่จะคิดขึ้นมามีอำนาจเพื่อโกงกินบ้านเมือง

ปลุกชูเลือกนายกฯคนอีสานเท่านั้น

“นายกลุงตู่วันๆมีแต่สมอง และหัวใจคิดถึงแต่ประชาชน ไม่มีเวลาที่จะคิดหาเงินทอนเข้ากระเป๋าตัวเอง เหมือนผู้นำบางคนที่โดนคดีหนีออกนอกประเทศ ปล่อยให้ลูกน้อง รมต.ติดคุกไปหลายคน ทุกลมหายใจ ทุกเวลาทุกนาทีของนายกลุงตู่ คือ การแก้ไขปัญหาความยากจน เพื่อให้พี่น้องคนอิสานหมดหนี้หมดสินมีเงินในกระเป๋า เพื่อให้ทุกครอบครัวมีความสุขกลับคืนมา ไม่มีเวลาคิดจะเอาคนขี้โกงหนีคดี กลับมาโกงอีก คนอีสานไม่ชอบคนขี้โกง คนบ้านเฮาฮัก ผู้นำที่ใจซื่อมือสะอาดไม่มีประวัติด่างพร้อยในเรื่องโกงหรือทุจริตคอร์รัปชั่น ใครคิดจะขึ้นมาโกงกินบ้านเมือง ชาวอีสานจะไม่เลือกเด็ดขาด ขอให้ทุกคนเลือกพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะ เราต้องการนายกฯเป็นคนอีสานเท่านั้น ได้บ่พี่น้องครับ “

“จุรินทร์” ลุยสนามเลือกตั้งกทม.

วันเดียวกัน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เพร้อมด้วย คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ร่วมกับทีม กทม.ของพรรค ปชป.ทำพิธีเปิดศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง ที่อาคารสุขประพฤติ เขตบางซื่อ กรุงเทพฯซึ่งมีพี่น้องชาวเขตบางซื่อ มาร่วมแสดงความยินดีอย่างคับคั่ง

โดยนายจุรินทร์ได้กล่าวช่วงหนึ่งว่าไม่ว่าพรรคการเมือง แต่ละพรรคจะมีท่าที พฤติกรรมในการทำหน้าที่อย่างไรก็ตาม ผมมั่นใจว่าประเทศของเราจะต้องเดินหน้าต่อไปด้วยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามวิถีทางรัฐสภา 4 ปีที่ผ่านมาและอดีตอันยาวนาน เราพิสูจน์แล้วว่าประชาธิปัตย์ คือ ผู้นำในระบอบประชาธิปไตยรัฐสภาของประเทศไทยจึงได้มีนโยบายเพื่อแก้รัฐธรรมนูญให้ไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น

‘จุรินทร์’นำเปิด 3นักบินสู้ชิงส.ส.กทม.

“วันนี้ถือเป็นอีกกิจกรรมสำคัญที่เป็นความคืบหน้าของการเดินหน้ารับใช้พี่น้องชาวกรุงเทพฯของพรรคก็คือการเปิดศูนย์อำนวยการเลือกตั้งที่เขตบางซื่อพร้อมถือโอกาสเปิดตัว 3 นักบิน ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ในนามพรรค ประกอบด้วย 1. นายภูเบศร์ อภัยวงศ์ (กัปตันเบศร์) ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตบางซื่อ 2.นายวัทธิกร หรุ่นศิริ (กัปตันแพท) ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตสายไหม 3.นายพันธ์พิสุทธิ์ นุราช (กัปตันไมเคิล) ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตบึงกุ่ม โดย ทั้ง 3 คน ถือว่าเป็นผู้ที่มีศักยภาพในการเป็นตัวแทนพี่น้องชาว กทม. ที่เป็นคนรุ่นใหม่ หวังว่าจะได้รับเสียงตอบรับจากพี่น้องชาวกรุงเทพฯและให้โอกาสพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อให้เราได้มีโอกาส คัมแบ็ค มาทำหน้าที่รับใช้พี่น้องชาวกรุงเทพมหานคร เหมือนที่เราเคยมีโอกาสหลายครั้งในการเลือกตั้งที่ผ่านในอดีต” หัวหน้าพรรคปชป.ย้ำ

จ่อเปิดผู้สมัครครบ33เขตต้นมี.ค.

พร้อมเปิดเผยถึงกิจกรรมในกทม.จะประกอบด้วย 4 กิจกรรม ก่อนเดินหน้าเข้าสู่โหมดเลือกตั้งเต็มตัว คือ1.วันนี้ เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. 3นักบิน 2.เปิดศูนย์เลือกตั้งที่เขตบางนา พร้อมเปิดตัวผู้สมัคร นายสุทธิ ปัญญาสกุลวงศ์ 3.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ปชป.ที่เป็นสตรี ซึ่งประชาธิปัตย์ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่งเพราะการเมืองยุคใหม่ นอกจากต้องมีคนรุ่นใหม่เข้ามาเพิ่มเติมแล้ว ก็ต้องมีการเปิดโอกาสให้สตรีเข้ามามีบทบาททางการเมืองมากขึ้นด้วย และ4.เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. ปชป.ทั้ง33เขต ในช่วงต้นเดือนมีนาคม

ลั่นเข้าสู่โหมดเลือกตั้งเต็มตัว

สำหรับแนวโน้มทิศทางการเมืองต่อจากนี้ นายจุรินทร์กล่าวว่า ถัดจากนี้ ก็เข้าสู่โหมดเลือกตั้งเต็มตัวแล้วเพราะนายกรัฐมนตรีก็พูดแล้วว่าจะยุบสภา เพียงแต่ยังนึกอยู่ว่าจะยุบวันไหนอย่างไร ท่านก็บอกว่ามีในใจแล้วและพวกเราก็พอทราบว่าสุดท้าย ก็จะเดินหน้าเข้าสู่การยุบสภา ถ้ายุบสภาก็ต้องเลือกตั้งภายใน45– 60วัน นับไปนับมา ก็คงอยู่ในช่วงต้นเดือนพ.ค.ส่วนวันที่เท่าไหร่ก็น่าจะตรงกับวันอาทิตย์ เพราะเท่าที่เราเคยมีการเลือกตั้งมาก็จะเลือกตั้งวันอาทิตย์ แล้วก็มีการคาดการณ์กันว่า จะเป็นวันที่ 7พ.ค. แต่ กกต. จะเป็นผู้กำหนดวันเลือกตั้ง ดังนั้น ก็น่าจะไปตามนี้โดยประมาณ

อ้อนปชช.เลือกพรรคสถาบันหลัก

นายจุรินทร์ระบุว่า“จากนี้ไปการเมืองจะเข้มข้นขึ้นหมายถึงการแข่งขันกันระหว่างพรรคการเมืองก็จะเข้มข้นขึ้น ผมจะถือโอกาสนี้ฝากพี่น้องชาวกรุงเทพฯ และคนไทยทั้งประเทศ ให้พิจารณาเลือกพรรคการเมืองที่จะเป็นสถาบันหลักในทางการเมืองต่อไปได้ พาการเมืองเดินหน้าไปสู่ความยั่งยืนได้ในอนาคต ไม่ใช่แค่การเมืองเฉพาะกิจ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะเราเลือกอนาคตให้ประเทศ หรือ เลือกอนาคตที่ยั่งยืนให้ประเทศ ไม่ใช่การเมืองเลือกอนาคตเฉพาะกิจให้ประเทศ ผมยืนยันว่าเรื่องนี้มีความสำคัญ และเป็นหลักคิดสำคัญ”

มั่นใจทวงคืนเก้าอี้ผู้แทนฯเมืองกรุง

เมื่อถามว่าหากดูจากตัวผู้สมัคร ที่พรรคเตรียมไว้ คาดว่าครั้งนี้จะได้ที่นั่งในกทม.หรือไม่ นายจุรินทร์ ตอบว่า ตนมั่นใจ มั่นใจจากเสียงตอบรับในการเลือกผู้ว่า กทม.กับส.ก.ที่ผ่านมาและเสียงตอบรับจากการลงพื้นที่จริง ซึ่งทั้งตนและรองหัวหน้าพรรค รวมทั้งผู้สมัครทุกคน คนรุ่นใหม่พวกเราทุกคน ที่ลงพื้นที่ในกทม.มีความมั่นใจ พราะเราสัมผัสกับโลกของความเป็นจริงว่า เสียงตอบรับเป็นอย่างไร

“เทียบกับหลังเลือกตั้งคราวที่แล้วใหม่ๆตอนนั้นกับตอนนี้ต่างกันมาก ดีขึ้นเยอะ ผมต้องขอขอบคุณล่วงหน้า สำหรับพี่น้องชาวกรุงเทพมหานครด้วยที่ให้เสียงตอบรับที่ดีขึ้น ให้กำลังใจกับพวกเราและมุ่งมั่นตั้งใจว่าเที่ยวหน้าจะมาช่วยประชาธิปัตย์”นายจุรินทร์ย้ำ

ย้ำหลังลต.ใครรวมเสียงได้มากจัดตั้งรบ.

หัวหน้าพรรคปชป.ยังย้ำว่า ส่วนใครจะเป็นรัฐบาล เป็นฝ่ายค้านนั้น พี่น้องประชาชนจะเป็นผู้ให้คำตอบว่า เมื่อหลังเลือกตั้งแล้ว ใครรวมเสียงข้างมากได้ พรรคไหนรวม กับพรรคไหน พรรคนั้น ก็เป็นรัฐบาล เสียงข้างน้อย ก็ไปเป็นฝ่ายค้าน แต่หัวใจสำคัญ ก็คือต้องยึดเสียงในสภาผู้แทนราษฎรเป็นหลัก

ขอกกต.แบ่งเขตยุติธรรมโปร่งใส

ส่วนการแบ่งเขตเลือกตั้งกทม.ที่กกต.มีการเพิ่มเป็น8รูปแบบจะมีผลต่อพรรคปชป.หรือไม่นั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่พี่น้องชาวกรุงเทพ จะได้พิจารณาให้ความเห็นเพื่อให้ กกต.นำไปประกอบการตัดสินใจต่อไปรวมทั้ง นักการเมือง หรือ ผู้สนใจลงสมัครรับเลือกตั้งจากทุกพรรคแต่ขอให้ยุติธรรม และไม่ไปสร้างความได้เปรียบ เสียเปรียบ ให้พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง ถ้าเป็นอย่างนี้หากจะออกมาอย่างไรทุกพรรคก็รับได้ ชาวกรุงเทพและคนไทยก็รับได้

‘ทสท’ชูแก้หนี้เติมทุนด้วยกองทุน3แสนล.

ที่เขตดอนเมือง ตลาดฝั่งโขง กทม. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทยพร้อม นายการุณ โหสกุล แกนนำพรรคไทยสร้างไทย ลงพื้นที่ พบประชาชน ที่ตลาดฝั่งโขงพร้อมเปิดปราศรัยประกาศนโยบาย”แก้หนี้ เติมทุน”ด้วยนโยบาย“กองทุนสร้างไทย”300,000ล้านเพื่อช่วยประชาชนสามารถฟื้นธุรกิจตั้งต้นทำมาหากินกันได้ใหม่ โดยคุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่าธนาคารแห่งประเทศไทยระบุว่า หนี้ครัวเรือนไทยในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาพุ่งเกิน 30 เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นตัวเลขที่น่ากังวล เพราะเกินระดับเฝ้าระวังที่ร้อยละ 80 เปอร์เซนต์ ต่อจีดีพี มาอยู่ที่ ร้อยละ 86.8เปอร์เซนต์ ต่อจีดีพี ในไตรมาส 3 ของปี 2565 และหากไม่มีการวางแนวทางแก้ไขจะกระทบต่อระบบความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจในระยะยาวอย่างแน่นอน

“พรรคไทยสร้างไทย จึงมีมาตรการในการ”แก้หนี้” แบ่งเป็น 2 ส่วนดังนี้ 1. ธุรกิจที่เป็นหนี้เสียจากปัญหาโควิด ภายใต้รหัส21ประมาณ 2 แสนล้านบาทนั้น พรรคได้เสนอให้มีการจัดตั้ง ‘กองทุนสร้างไทย’ ขึ้นมาโดย จะพักหนี้3ปี พักดอกเบี้ย2 ปี โดยรัฐจะเป็นผู้ที่ออกให้ก่อน เพื่อเป็นเครื่องมือในการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs และผู้ประกอบการรายเล็กและรายย่อย ที่มีศักยภาพแต่ต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นตัวจากผลกระทบของการระบาดของโรคโควิด 2.แก้หนี้ เติมทุนให้ผู้ประกอบการรายเล็กรายย่อยด้วย “กองทุนสร้างไทย” 300,000 ล้าน สำหรับ ผู้ประกอบการรายเล็ก SMEs และ ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ Start up เงื่อนไขผ่อนปรนและดอกเบี้ยถูกเพื่อให้ธุรกิจฟื้นตัว ได้หลังโควิด ซึ่งประกอบด้วย 4 กองทุนย่อย ได้แก่ กองทุน SMEs กองทุน Startup กองทุนวิสาหกิจชุมชน และกองทุน Venture Capital”

ล้างหนี้นอกระบบด้วย”กองทุนเครดิตปชช.”

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่าส่วนมาตรการล้างหนี้นอกระบบ ให้ประชาชนด้วย”กองทุนเครดิตประชาชน”หรือ กองทุนคนตัวเล็กซึ่งจะเป็นการมอบเครดิตให้ประชาชนเพื่อล้างหนี้นอกระบบช่วยคนไทยหลุดพ้นจากอุปสรรคทางการเงิน ที่ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบ ด้วยเงื่อนไขผ่อนปรนในอัตราดอกเบี้ยต่ำไม่เกินร้อยละ 1ต่อเดือน ที่สำคัญ คือไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน สามารถเริ่มต้นกู้ได้ไม่เกิน5,000 บาท และถ้ารักษาเครดิตได้ดีจะสามารถกู้ได้ถึง 50,000 บาท โดยเงินจำนวนนี้ อาจกู้ยืมไปใช้ในยามวิกฤต ใช้เพืีอการตั้งตัวเอาไปเป็นทุนหมุนเวียนในการประกอบธุรกิจของตนได้ อย่างไรก็ตามประเทศไทยมีภาระหนี้สิน ทั้งของ ประเทศ ของภาคธุรกิจ SMEs และหนี้ครัวเรือนสูงเป็นประวัติการณ์ ประเทศจะเดินต่อได้จำเป็นต้องแก้ปัญหาหนี้ทั้งหมดนี้เสียก่อน และต้องเร่งสร้างรายได้ใหม่ให้คนไทย

‘เสรีรวมไทย’เล็งส่งสู้ครบทุกเขต

ที่โรงแรมริเวอร์ไซด์ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยกล่าวถึงความพร้อมการเลือกตั้งของพรรคเสรีรวมไทยว่าจะพยายามส่งผู้สมัครให้ครบทุกเขต รัฐธรรมนูญฉบับนี้ใช้ไม่ได้ มาจากเฒ่าสารพัดพิษเละเทะมาก ผู้สมัครบางคนตอบรับมาอยู่พรรคเสรีรวมไทยแล้วแต่เจอพรรคใหญ่แย่งไป ต้องหาใหม่ ผู้สมัครบางคน พรรคเพิ่งได้ตัวมาเมื่อคืนเอง หรือ ส.ส.บางคนจะย้ายไปพรรคอื่นก็ห้ามไม่ได้ อย่างเช่นส.ส.ลำปาง ตนไปช่วยหาเสียงเต็มที่เป็นเดือน ยังถูกทรยศหักหลัง ซื้อตัวไป แต่พรรคเราไม่มี ส.ส. ย้ายมาเพราะไม่มีเงินให้ ถึงมีก็ไม่ให้ อย่าไปเลือกพรรคเหล่านี้ ให้มาเลือกพรรคเสรีรวมไทย ส่วนการเตรียมตัวแทนพรรคประจำจังหวัด ให้ครบตามกฎหมายเลือกตั้ง คาดว่าสิ้นเดือน ก.พ.จะเตรียมได้ครบทั้งหมด

ส่วนพื้นที่เป้าหมายพรรคเสรีรวมไทยคือกทม.และต่างจังหวัดบางพื้นที่

แบะท่าพร้อมจูบปาก‘ลุงป้อม’ตั้งรบ.

เมื่อถามว่าหากหลังเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยจับมือกับพรรคพลังประชารัฐ ตั้งรัฐบาล พรรคเสรีรวมไทย พร้อมร่วมรัฐบาลด้วยหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ตอบว่า ตนต่อต้านการรัฐประหาร ซึ่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เกษียณมาหลายปี ไม่มีปัญญา ทำรัฐประหารแน่นอน ต้องให้คนคุมกำลัง มีอาวุธเท่านั้น คือพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ส่วน พล.อ.ประวิตรและพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย แค่มาช่วย จุดยืน ตนจะต่อต้านเฉพาะตัวหลักการทำรัฐประหาร แต่ พล.อ.ประวิตรไม่ใช่ตัวหลัก ถ้าจะร่วมกันทำงาน ก็ทำได้ แต่ไม่ร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ แน่นอน ถ้าเป็นพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคพลังประชารัฐ ก็ร่วมกันได้

เล็งจีบ‘ชูวิทย์’เข้าพรรคร่วมปราบโกง

เมื่อถามว่า พรรคเสรีรวมไทยเน้นการปราบทุจริต จะไปทาบทามนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ มาร่วมงานหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ตอบว่า ยังไม่มีการทาบทาม แต่ตอนที่นายชูวิทย์มีปัญหากับนายสันธนะ ประยูรรัตน์ ก็มาขอความช่วยเหลือจาก กมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ที่ตนเป็นประธาน กมธ.ขณะนี้ ยังไม่มีการทาบทาม แต่อาจไปคุยกับ นายชูวิทย์ว่าสนใจหรือไม่ เพราะนายชูวิทย์ไว้ใจตนและมีจุดยืนเรื่องปราบโกงเหมือนกัน

เมินสว.ประกาศตั้งป้อมหนุน‘บิ๊กตู่’

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ยังกล่าวถึงกรณี ส.ว.ประกาศจะโหวตสนับสนุนเฉพาะพล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร เป็นนายกรัฐมนตรีเท่านั้นว่า เป็นสิทธิของ ส.ว. แต่ 4 ปีที่ผ่านมา ส.ว.คงต้องคิดว่าทำไม พล.อ.ประยุทธ์เป็นเช่นนี้แก้ปัญหาอะไรไม่ได้ จึงมีส.ว.บางส่วนไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์โหวตนายกฯรอบนี้ไม่มีทางได้ครบ249เสียง เสียงคงแบ่งกันไปไม่รู้จะมีเสียงถึงครึ่งไหมที่ให้พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ

ที่โรงแรมริเวอร์ไซด์ เขตบางพลัด พรรคเสรีรวมไทย ได้ประชุมใหญ่สามัญประจำปีครั้งที่1/2566 มี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เป็นประธานเพื่อเลือกกรรมการบริหารที่ว่างลง ซึ่งมีมติเสนอชื่อพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกฯคนเดียวของพรรค และ เลือกนายวิรัตน์ วรศสิริน เป็นเลขาธิการพรรคเสรีรวมไทยคนใหม่ จากนั้นมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครของพรรคแบบเขตทุกภาคของประเทศ

ประกาศเปิด14 นโยบายสู้ศึกเลือกตั้ง

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ขอให้มั่นใจ นโยบาย พรรค เปิด 14 นโยบาย คือ 1.การจัดที่ดินอยู่อาศัยทำกินให้ประชาชน ปฏิรูปการใช้ที่ดินรัฐ 2.บัตรประชาชนใบเดียวรักษาฟรีทั่วไทย รวมบัตรการรักษาทุกใบ ในบัตรประชาชนใบเดียว สามารถรักษาได้ทุกพื้นที่ 3.เรียนฟรีจนจบปริญญาตรีและยกเลิกหนี้กยศ. สนับสนุนค่าใช้จ่ายการศึกษา จ่ายตรงให้มหาวิทยาลัย 25,000บาท ปีละ 2ภาคการศึกษา รวม 50,000ต่อคนต่อปี 4.บำนาญประชาชน 3,000บาท/เดือน 5.เบี้ยผู้พิการ 3,000บาทต่อเดือน 6.ยาเสพติดเป็นศูนย์ มีบทลงโทษรุนแรงทั้งผู้ขาย ผู้เสพ และผู้สนับสนุน รวมทั้งผู้รับประโยชน์

7.ปราบทุจริต พิชิตคนพาล อภิบาลคนดี คืนงบประมาณให้ประชาชน 8.ปฏิรูปตำรวจ กู้วิกฤติศรัทธาตำรวจวิชาชีพ ให้นายกฯเป็นประธาน ก.ตร.เอง ไม่ให้เกิดการซื้อขายตำแหน่ง และให้ ก.ตร.มาจากการเลือกตั้ง ตำรวจชั้นประทวนต้องจบปริญญาตรี แยกงานป้องกันจากงานปราบปรามโดยเด็ดขาด ปรับปรุงงบประมาณและสวัสดิการตำรวจให้เพียงพอ

ลั่นเป็นนายกฯใครปฏิวัติเจอยิงกบาลแน่

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า 9.ปฏิรูปกองทัพ แก้ไข พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ยกเลิกการเกณฑ์หาร ลดขนาดกองทัพ ยกเลิกศาลทหาร ย้ายกองทัพออกจากกรุงเทพฯ ประเทศไทยมีปัญหาที่ทหาร ครองอำนาจมาตลอด อยากจะยึดอำนาจนายกฯคนไหนก็ทำ แล้วมาเป็น นายกฯเอง อยากบอกว่าหากตนเป็นนายกฯ แล้วมีคนยึดอำนาจเมื่อไร “กูยิงกบาลมึงแน่”

10.เก็บอาวุธหยุดความตาย นำปืนในมือประชาชนสู่รัฐ ปืนถูกกฎหมายรับซื้อคืน ปืนผิดกฎหมายนำมาให้รัฐ ไม่มีความผิด หลังจากนั้นใครมีอาวุธปืนต้องลงโทษจำคุกตลอดชีวิต ใช้อาวุธปืนฆ่าคนตายประหารชีวิต 11.สร้างเขื่อนเพื่อการเกษตรป้องกันน้ำแล้งน้ำท่วม 12.น้ำมันไฟฟ้าราคาถูก ทวงคืนปตท.เป็นของประชาชนเป็นรัฐวิสาหกิจไม่แสวงหากำไร ยกเลิกการอ้างอิงราคาน้ำมันจากสิงคโปร์ ยกเลิกสัญญาไฟฟ้าที่ไม่เป็นธรรม ควบรวมการไฟฟ้า3ฝ่ายเข้าด้วยกัน 13.เสริมสร้างประสิทธิภาพกองทุนหมู่บ้านให้มีกลไกจัดการหนี้ที่เกิดขึ้นอย่างเป็นระบบ และ14.แก้ปัญหาประมงไทยอย่างยั่งยืน ยกเลิกพ.ร.บ.การประมง ฉบับคสช.

‘อุ๊งอิ๊ง’นำ‘พท.’ปราศรัยอำนาจเจริญ

วันเดียวกัน เวลา11.00น. ที่สวนมิ่งเมืองเฉลิมพระเกียรติ อ.เมืองอำนาจเจริญ พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดเวทีปราศรัยต่อเนื่องเป็นวันที่สอง นำโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค ซึ่งแกนนำพรรค ส.ส.ในพื้นที่อำนาจเจริญ และยโสธร รวมถึง ว่าที่ผู้สมัครในทั้ง 2พื้นที่ มาร่วมอย่างพร้อมเพรียง มีประชาชนชาวอำนาจเจริญมารอฟังการปราศรัยจนเต็มพื้นที่ลานด้านหน้าสวนเฉลิมพระเกียรติฯ

ท้อง7เดือนลุยอีสาน-ปลุกกาทั้งคน-พรรค

น.ส.แพทองธารปราศรัยว่าอาทิตย์หน้าจะท้องครบ7เดือน กลัวคุณหมอ ไม่ให้เดินทาง เลยมาพบพี่น้องอีสานก่อนใครเพื่อน ทั้งนี้ พรรคคิดนโยบาย เพื่อแก้ปัญหาให้ชาวอีสานหายจนแต่เกิดรัฐประหารและมีปัญหาโควิด รัฐบาลจัดการไม่ดี ทำให้ประชาชนเป็นหนี้มาถึงทุกวันนี้

“และยืนยันนโยบายค่าแรง 600 บาท ถ้าพรรค พท.เป็นรัฐบาลครบ 4 ปี ค่าแรงได้ 600 บาทแน่นอน และสินค้าการเกษตรต้องราคาขึ้นยกแผงด้วยการเปิดตลาดให้ขายได้ทั่วโลก วันนี้ปัญหาความยากจนแก้ไม่จบเสียทีเลยมาขอคะแนนให้เลือกทั้งคนทั้งพรรค เพื่อเข้าไปโหวตนโยบายที่เราตั้งใจมาแก้ไขให้พี่น้อง”

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้อำนาจเป็นของประชาชน เราต้องการเอาอำนาจของประชาชนคืน วันนี้พี่น้องคิดถึงอดีตนายกฯที่อยู่แดนไกลหรือไม่ เสียใจที่วันนี้ท่านไม่ได้อยู่ในประเทศแต่ท่านจะแปลงกายใส่วิกอุ้มท้องในร่างของ น.ส.แพทองธาร มาพบพี่น้อง ขอให้เลือกเพื่อไทยยกจังหวัดทั้งอำนาจเจริญ และ ยโสธร

วางแผนหาเสียงใกล้คลอดใช้วิดิโอ

จากนั้นน.ส.แพทองธาร ให้สัมภาษณ์ถึงที่มีการคาดการณ์จะมีเลือกตั้งวันที่ 7 พ.ค.อาจจะคาบเกี่ยวกับการใกล้คลอดว่า ได้มีการช่วยกันวางแผนกับพรรคแล้ว เรื่องการเดินทาง เพราะมีเรื่องสุขภาพด้วยซึ่งการเดินทางเช่นนี้ตนก็หาเวลาพักผ่อนตลอด นอนให้เต็มที่ จะดูเรื่องการขึ้นเครื่องบินมากกว่า หากยังขึ้นได้ แพทย์รับรองก็ยังไปแต่ช่วงใกล้คลอด ก็คงจะเป็นใกล้กรุงเทพและปริมณฑล ทั้งนี้ ช่วงที่ใกล้คลอด ก็จะมีคนอื่นนำทัพหาเสียงอาจจะใช้วิดีโอคอนเฟอเรนซ์

เมื่อถามว่า มองอย่างไรกับสัญญาณของการยุบสภา เพราะจบการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 เรียบร้อยแล้ว และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ระบุว่ามีวันในใจแล้ว น.ส.แพทองธาร และนพ.ชลน่าน กล่าวพร้อมกันว่า เราไม่สนใจว่าจะยุบสภาเมื่อไร เพราะเราจะเดินหน้าแบบนี้ต่อไป