เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566 ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ดังนี้ ราคาพลังงาน ไม่ว่าจะเป็น น้ำมัน ก๊าช ไฟฟ้า ต่างส่งผลต่อค่าครองชีพของพี่น้องประชาชนทั้งทางตรงและทางอ้อม การคิดหาแนวทางลดราคาพลังงานจึงเป็นเข็มมุ่งที่ทุกฝ่ายควรร่วมกันทำ แต่ต้องอยู่ในกรอบของ 1. เป็นไปได้ 2. ไม่สร้างผลกระทบระยะยาว 3. ยั่งยืน
5 เรื่องที่ควรปรับเปลี่ยนภายใต้ 3 กรอบแนวคิดนี้ คือ 1. โครงสร้างราคาขายปลีกน้ำมันที่ดูซับซ้อนนั้น ควรได้รับการปรับเปลี่ยน เช่น เปลี่ยนการคิดต้นทุนด้วยราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นอ้างอิงตามราคาตลาดสิงคโปร์ ให้เป็นราคาที่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงและเป็นธรรม
2. เปลี่ยนการบริหารจัดการกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงให้ตรงตามวัตถุประสงค์ของกองทุน คือรักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมันในประเทศ ยกเลิกการนำเงินกองทุนนี้ไปแทรกแซงและอุดหนุนราคา จนทำให้ราคาพลังงานบางชนิดถูกบิดเบือนให้ถูกกว่าราคาตลาด แต่กลับไปสร้างภาระให้คนใช้พลังงานอีกชนิดหนึ่ง การบิดเบือนราคานี้นำไปสู่การบิดเบือนพฤติกรรมผู้ใช้พลังงานด้วย
3. การอุดหนุนราคาพลังงานบางชนิดที่ยังจำเป็นต้องมี ก็ควรดูแลเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ไม่ใช่อุดหนุนเป็นการทั่วไป และควรไปตั้งงบประมาณสำหรับการอุดหนุนต่างหาก แยกออกจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อที่พลังงานที่ถูกนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์จะได้ใช้ราคาตลาดตามกลไกตลาดที่มีการแข่งขันเสรี 4. การช่วยเหลือเกษตรกรผ่านการอุดหนุนราคาเชื้อเพลิงชีวภาพก็ควรแยกตั้งงบประมาณเพื่อการดูแลเกษตรกรต่างหากออกจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง จะได้ไม่ไม่ทำให้ราคาตลาดบิดเบือน และจะได้ช่วยเกษตรกรได้ตรงเป้ามากขึ้น
และ 5. จริงจังกับแผนสนับสนุนพลังงานสะอาดและพลังงานทางเลือกเพื่อความมั่นคงทางพลังงานที่ยั่งยืนของชาติไทย แค่ข้อ 1 ถึง 4 ก็สามารถลดราคาพลังงานแต่ละชนิดไปได้หลายบาท
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี