เปิด"คอบร้าโกลด์2023" ทูตสหรัฐฯมั่นใจ 30 ชาติจับมือกันถึงแก้ไขปัญหาท้าทาย-ซับซ้อนของโลกได้ เผยโปรแกรมฝึกมุ่งเน้นปัญหาในอนาคต คาดหวังกำลังพลหนุ่มสาวสร้างความสัมพันธ์ เติบโตขึ้นเป็นผู้นำกองทัพ
เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด , นายโรเบิร์ต เอฟ. โกเดค (Robert F. Godec) เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย และ พล.ร.อ.จอห์น ซี. อากีลีโน (John C. Aquilino) ผู้บัญชาการกองกำลังสหรัฐอเมริกาภาคพื้นอินโด-แปซิฟิก เป็นประธานร่วมในพิธีเปิดการฝึกคอบร้าโกลด์ 2023 ณ สถานีการบิน กองการบินทหารเรือ กองเรือยุทธการ จ.ระยอง โดยมี เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ประจำประเทศไทย เอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทย เอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย และเอกอัครราชทูตสิงคโปร์ประจำประเทศไทย เข้าร่วมพิธีฯ
นาย โรเบิร์ต เอฟ. โกเดค เอกอัคราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย กล่าวว่า คอบร้าโกลด์เริ่มขึ้นครั้งแรกเป็นการฝึกซ้อมทางทะเลระดับทวิภาคีระหว่างไทยและสหรัฐฯ ในเวลาต่อมาได้ขยายขอบเขตออกไป เนื่องจากเราเล็งเห็นถึงโอกาสใหม่ๆ ในการร่วมมือกันรับมือความท้าทายด้านความมั่นคงต่างๆ ที่เรามีร่วมกัน การรับมือความขัดแย้งระหว่างมนุษย์ ตลอดจนการตอบโต้ภัยพิบัติและสถานการณ์ฉุกเฉิน มีงานหลักที่คล้ายคลึงกันหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารระหว่างแผนร่วมกันการเคลื่อนกำลังคนและอุปกรณ์ภายในภูมิภาค หรือการประสานงานด้านโลจิสติกส์ การฝึกปฏิบัติหน้าที่เหล่านี้ทุกปีจึงเป็นสิ่งสำคัญต่อการตอบสนองอย่างทันท่วงที และมีประสิทธิผลในกรณีที่มีเหตุการณ์เลวร้ายเกิดขึ้น
ในช่วง 20 ปีมานี้ บรรดาชาติที่มีผู้แทนอยู่ ณ ที่นี้ ได้ทำงานร่วมกันเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม หลังเกิดโศกนาฏกรรมต่างๆ และภัยพิบัติตามธรรมชาติ ทุกวันนี้คอบร้าโกลด์เป็นการฝึกซ้อมที่มุ่งเน้นไปยังอนาคต โดยเป็นการฝึกซ้อมที่นำ 30 ชาติจากทั่วโลกมาร่วมกันแก้ปัญหาความท้าทายซับซ้อน ที่ไม่มีประเทศหนึ่งประเทศใดสามารถทำได้เพียงลำพัง ด้วยความร่วมมือเท่านั้น เราจึงจะสามารถรับมือความท้าทายเหล่านี้และดูแลประชาชนของเราให้ปลอดภัยได้
"สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าการฝึกต่างๆ คือความสัมพันธ์ที่พัฒนาขึ้นระหว่างชาติ ระหว่างผู้นำ หรือระหว่างกำลังพลของเราทุกระดับ และยังช่วยส่งเสริมจิตวิญญาณแห่งความร่วมมือและมิตรไมตรีที่ก้าวข้าม อุปสรรคด้านภาษาและเส้นแบ่งเขตแดน กำลังพลหนุ่มสาวของเราจำนวนมากในวันนี้ จะกลายเป็นผู้นำกองทัพของเราในอนาคต ผมขอย้ำกับพวกเขาเหล่านี้ว่า ความสัมพันธ์ที่ท่านก่อร่างขึ้นระหว่างการฝึกนี้ จะช่วยให้ท่านเป็นผู้นำที่ดีขึ้นและยิ่งไปกว่านั้นจะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงที่เรามีร่วมกัน จึงอยากขอให้ทุกท่านทำความรู้จักกับเพื่อนร่วมการฝึกและสร้างไมตรีที่จะคงอยู่ตลอดไป"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การฝึกคอบร้าโกลดในปีนี้เป็นครั้งที่ 42 โดยมีประเทศเข้าร่วมการฝึกหลัก 7 ประเทศ ได้แก่ ไทย สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย สาธารณรัฐเกาหลี และมาเลเซีย ประเทศที่เข้าร่วมการฝึกเพิ่มเติมในโครงการช่วยเหลือประชาชน 3 ประเทศ ได้แก่ สาธารณรัฐประชาชนจีน อินเดีย และออสเตรเลีย ประเทศในโครงการเสนาธิการผสมส่วนเพิ่มนานาชาติ หรือ MPAT (Multinational Planning Augmentation Team) จำนวน 10 ประเทศ ได้แก่ บังกลาเทศ แคนาดา ฝรั่งเศส มองโกเลีย เนปาล นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ ฟิจิ สหราชอาณาจักร และบรูไน
สำหรับประเทศที่เข้าร่วมในโครงการสังเกตการณ์ฝึก (Combined Observer Liaison Team) : COLT) 10 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา ลาว บราซิล ปากีสถาน เวียดนาม เยอรมนี สวีเดน สาธารณรัฐเฮลเลนิก คูเวต และศรีลังกา รวมทั้งสิ้น 30 ประเทศ ยอดผู้เข้าร่วมการฝึก 7,394 นาย กำหนดการฝึก ระหว่างวันที่ 27 ก.พ.ถึง 10 มี.ค.2566 ประกอบด้วย การฝึกปัญหาที่บังคับการ (Command Post Exercise : CPX) เป็นการฝึกอำนวยการยุทธ์ของกำลังรบขนาดใหญ่ เพื่อรองรับภัยคุกคามทุกรูปแบบ ในทุกมิติ (All Domain Operations) ได้แก่ ทางบก ทางทะเล ทางอากาศ ทางด้านไซเบอร์ และทางอวกาศ สำหรับการฝึกด้าน Cyber เป็นการฝึกการวางแผน โดยเน้นวิธีการตรวจสอบภัยคุกคามเบื้องต้น และการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ ต่อระบบอุตสาหกรรมขั้นพื้นฐาน
สำหรับในปีนี้ เป็นปีแรกในการนำการฝึกทางด้านอวกาศ เข้ามาร่วมในการฝึกการวางแผนของฝ่ายเสนาธิการร่วม/ผสม เพื่อให้สามารถเข้าใจถึงผลกระทบในส่วนของการฝึกด้านอวกาศ (Space) โดยนำผลกระทบจากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในอวกาศ ที่มีผลต่อการปฏิบัติการทางทหารในด้านต่างๆ เพื่อให้ฝ่ายอำนวยการได้วางแผนรองรับ และใช้ประโยชน์จากปรากฏการณ์ต่างๆ เช่น ปรากฏการณ์พายุสุริยะที่มีผลต่อระบบการสื่อสารสัญญาณดาวเทียม โดยมีหน่วยงานด้านอวกาศทั้งทางทหาร และพลเรือน ของไทย สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ให้การสนับสนุนข้อมูล และการปฏิบัติในด้านต่างๆ
โครงการช่วยเหลือประชาชน (Humanitarian Civic Assistance: HCA) ได้แก่ โครงการก่อสร้างอาคารเอนกประสงค์สำหรับโรงเรียนในพื้นที่การฝึก จำนวน 6 พื้นที่ การฝึกการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ ประกอบด้วย การฝึกแก้ปัญหาบนโต๊ะ (HADR-TTX) ในหัวข้อบทบาททางทหารในการรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ ภายใต้กลไกลการตอบสนองในระดับภูมิภาค และระดับนานาชาติ เพื่อเตรียมการฝึกสาธิตฯ (HADR-Demo) ซึ่งเป็นการฝึกสาธิตแนวทางในการปฏิบัติเป็นสถานี ได้แก่ การค้นหาช่วยเหลือผู้ประสบภัย การแพทย์ฉุกเฉิน การส่งกลับสายแพทย์ สารเคมีรั่วไหล และการดับเพลิง ของประเทศต่างๆ ที่เข้าร่วมการฝึกฯ การฝึกภาคสนาม (Field Training Exercise: FTX) ประกอบด้วย การฝึกแลกเปลี่ยน CTX และการฝึกภาคสนามของกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ โดยมีกิจกรรมที่สำคัญ ได้แก่ การฝึกการเข้าพื้นที่ปฏิบัติการ (Joint Forcible Entry Operations: JFEO) ประกอบด้วย การฝึกการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก การกระโดดร่มทางยุทธศาสตร์ การอพยพพลเรือนจากพื้นที่ความขัดแย้ง และการฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี