‘บิ๊กบี้’สั่งกลางวงผู้พันทั่วประเทศ
ทบ.วางตัวเป็นกลาง
ออกกฎเหล็กรับเลือกตั้ง‘5ทำ-5ไม่’
ห้ามกำลังพลเป็นจนท.นับคะแนน
งดประชุม-สัมมนา10วันก่อนกาบัตร
‘บิ๊กตู่’ลุยแปดริ้วไหว้หลวงพ่อโสธร
อธิษฐานขอให้สำเร็จในทุกประการ
แฟนคลับเชียร์กลับมาเป็นนายกฯ
“บิ๊กตู่” ลุยแปดริ้วไหว้หลวงพ่อโสธร ขอพรให้สำเร็จทุกประการ อ้อนแฟนคลับยังเจ็บมือ ขณะเอฟซีอธิษฐานให้ลุงตู่กลับมาเป็นนายกฯ จ่อลุย “สงขลา-ยะลา” พบผู้นำดาวะห์ 11 มีนาคม เยือน “ราชบุรี” 13 มีนาคม เยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้เกษตรวิถีพุทธ-วิถีความร่วมมือวัดกับชุมชน“แรมโบ้” ชำแหละยับเพื่อไทยอ่อนเปลี้ยเพลียแรงนโยบายไร้รูปธรรม หยัน “อุ๊งอิ๊ง” หาความสามารถไม่เจอ“เศรษฐา” เก่งขายบ้าน แต่นี่ประเทศไทย ชี้จะกวาด สส.310 ที่นั่ง อาจเป็นจริงแค่ในความฝัน พอตื่นมาระวังกระอักเลือด
ทั้งสมาชิกในคอก-เจ้าของคอก‘เสธ.หิ’ลั่นไม่เคยกลัวแลนด์สไลด์เพื่อไทย ยันกระแส‘บิ๊กตู่’ดีมาก มั่นใจ‘รทสช.’ปักธงภาคเหนือได้ ใครปรามาสไว้จะร้องไห้หลังเลือกตั้ง‘ผบ.ทบ.’สั่งกลางวงผู้พันฯทั่วประเทศ ย้ำวางตัวเป็นกลางเคร่งครัด ออกกฎเหล็ก’5 ทำ- 5ไม่’งดอบรมประชุม-สัมมนาช่วง10วัน ก่อนหย่อนบัตร-ห้ามกำลังพล ไม่ควรเป็นกก.ประจำหน่วย-จนท.นับคะแนนโดยเด็ดขาดห้ามใช้รถ-เครื่องบินประชาสัมพันธ์ผู้สมัคร หรือกลุ่มหวังผลการเมืองเด็ดขาด ไม่ให้ใช้พื้นที่ของหน่วยเป็นหน่วยเลือกตั้ง-เก็บหีบบัตรเลือกตั้ง
เมื่อเวลา 14.30น.วันที่ 10มีนาคม2566 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมคณะ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ออกเดินทางจากสนามเฮลิคอปเตอร์ กรมทหารราบที่11 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ ไปยังจุดจอด ฮ. ช.พัน.2 รอ.ค่ายศรีโสธร ตำบลหน้าเมือง อ.เมืองฉะเชิงเทรา เพื่อตรวจราชการ จ.ฉะเชิงเทรา
โดยเวลา 15.20น.นายกรัฐมนตรี เดินทางด้วยรถยนต์โตโยต้าอัลพาร์ดสีดำ ทะเบียน กข 1 ฉะเชิงเทรา ถึงวัดโสธรวรารามวรวิหาร โดยมี นายชัยวัฒน์ เป้าเปี่ยมทรัพย์ สส.เขต 2 ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งจะย้ายมาสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ มาต้อนรับ และมีจ่าเอกยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 ฉะเชิงเทรา พรรครวมไทยสร้างชาติ และนายมติชน ชูทับทิม ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 พรรครวมไทยสร้างชาติ ให้การต้อนรับด้วย
‘บิ๊กตู่’เยือนแปดริ้ว-แห่มอบพวงมาลัย
ทันทีที่ลงจากรถ พล.อ.ประยุทธ์ ได้โบกมือทักทายประชาชน พร้อมรับพวงมาลัยดอกมะลิ ขณะที่ประชาชนให้กำลังใจนายกฯจากการรักษามืออักเสบให้หายไวๆ สุขภาพแข็งแรง ให้นายกฯสู้ๆและให้มาเป็นนายกฯอีก ขณะที่นายกฯกล่าวว่า มือยังเจ็บอยู่ พร้อมชูมือให้ประชาชนดูซึ่งมือด้านขวายังใส่เฝือกอ่อน ขณะที่มือซ้ายใส่ที่พยุงข้อมือ เพื่อป้องกันการติดเชื้อบริเวณรอยที่ถอดท่อใส่ยาฆ่าเชื้อออก อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตว่า มือด้านขวานายกฯมีอาการบวมลดลง
จากนั้นนายกฯได้ถ่ายภาพร่วมกับกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ หอการค้าจังหวัดฉะเชิงเทรา (YEC Chachoengsao : Young Entrepreneur Chamber of Commerce) ที่มาต้อนรับ ก่อนเข้าไปสักการะหลวงพ่อพระพุทธโสธรและกราบนมัสการพระราชภาวนาพิธาน เจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าสังเกตการณ์ ซึ่งคณะทำงานระบุว่า ขอให้เป็นการส่วนตัวของนายกฯ
แฟนคลับอวยอยู่ต่อ-ทำเพื่อประเทศชาติ
ทั้งนี้ พระราชภาวนาพิธาน เจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ได้เจริญพระพุทธมนต์และให้ศีลให้พรกับนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่ร่วมเดินทางมา และได้มอบพระพุทธรูปหลวงพ่อพระพุทธโสธรจำลองปี2566 รุ่น1 ขนาดหน้าตัก7นิ้วและเหรียญหลวงพ่อโสธรขึ้นจากน้ำ ปีที่250 พ.ศ.2563 รุ่น10 จากนั้นนายกฯได้แนะนำรัฐมนตรีและคณะที่ร่วมเดินทาง รวมทั้งได้ฝากฝังนายสุชาติ ซึ่งดูแลพื้นที่อยู่ และก่อนออกจากพระอุโบสถ พล.อ.ประยุทธ์ ได้เข้าไปทักทายและร่วมถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับบรรดาแฟนคลับที่เดินทางมารอต้อนรับ โดยแฟนคลับกล่าวว่า ขอให้ลุงตู่อยู่ต่อ ทำต่อ ทำเพื่อประเทศชาติ พวกเราจะคอยสนับสนุนอย่างเต็มที่และได้อธิษฐานกับหลวงพ่อให้ลุงตู่ได้กลับมา
ขอให้รักสามัคคี-ปกป้อง3สถาบันหลัก
ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ ได้ยิ้มรับและกล่าวขอบคุณทุกคนที่มาให้กำลังใจ พร้อมกล่าวว่าได้ขออธิษฐานกับหลวงพ่อฯขอให้สำเร็จในทุกประการและขอให้ทุกคนที่มาขอพรในวันนี้และครอบครัวประสบความสำเร็จทุกคน ขอให้ทุกคนรักและสามัคคีกัน นึกถึงชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มีความรักความสามัคคี บ้านเมืองสงบเรียบร้อยเราก็จะพัฒนาทุกอย่างต่อไปได้
จากนั้นกลุ่มแฟนคลับยังได้กล่าวกับนายกฯอีกว่า รักทุกคนในพรรครวมไทยสร้างชาติ ทุกคนเป็นคนดี พล.อ.ประยุทธ์จึงกล่าวว่า นายกฯรักทุกคนมากกว่ารักด้วยใจ ต้องขอบคุณทุกคนที่หวังดีกับประเทศชาติ เชื่อว่าสิ่งดีๆจะกลับมาหาทุกคน ขอให้ทุกคนโชคดี คิดดีทำดีนะ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงหนึ่ง นายสุชาติ ได้ทำหน้าที่เป็นช่างภาพถ่ายรูปให้กับนายกรัฐมนตรีและบรรดาแฟนคลับ พล.อ.ประยุทธ์ จึงกระเซ้าว่า ฝากคนนี้ไว้ด้วย ทำได้ทุกหน้าที่
เตรียมเดินสายวงขลา-ยะลา11มีนาคม
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มีกำหนดการลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.สงขลาและจ.ยะลา เพื่อติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลในวันที่11มีนาคม 2566 โดยเวลา 09.00น.เดินทางโดยเครื่องบินกองทัพอากาศ จากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานทหารกองบิน56 อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา จากนั้นไปสักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลา เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนเดินทางไปแพขนานยนต์ ต.บ่อยาง อ.เมืองสงขลา เพื่อตรวจเยี่ยมพื้นที่ก่อสร้างสะพานข้ามทะเลสาบสงขลาเชื่อมอำเภอเมืองสงขลากับอำเภอสิงหนครและรับฟังรายงานสรุปข้อมูลการยกระดับโรงพยาบาลสงขลา พร้อมกล่าวมอบนโยบายและพบปะประชาชน
ต่อจากนั้น เวลา 12.40น.นายกฯพบปะพี่น้องประชาชนชาวหาดใหญ่ ณ ตลาดสันติสุขและตลาดกิมหยง อำเภอหาดใหญ่ แล้วออกเดินทางไปจังหวัดยะลา ช่วงบ่าย เวลา15.00น.นายกฯพบปะผู้นำดะวะห์และผู้เข้าร่วมบรรยายธรรม (โยร์) เพื่อต้อนรับเดือนรอมฎอนอันประเสริฐของชาวไทยผู้นับถือศาสนาอิสลาม ณ ศูนย์ดะวะห์แห่งประเทศไทย (มัรกัสยะลา) ตำบลสะเตงนอกอ.เมืองยะลา ซึ่งนายกฯจะพบปะผู้นำดะวะห์แห่งประเทศไทยและพบปะประชาชน ก่อนเดินทางกลับถึงท่าอากาศยานทหาร2 กองบิน6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ในเวลาประมาณ 18.45น.ทั้งนี้ กำหนดการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม
เยือน’ราชบุรี’13มี.ค.เยี่ยมศูนย์เรียนรู้
นายอนุชา กล่าวอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จลงพื้นที่ จ.ราชบุรี ในวันจันทร์ที่ 13มีนาคม2566 เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล โดยมีกำหนดการดังนี้ เวลา 09.00น.นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ ออกเดินทางจากสนามเฮลิคอปเตอร์ พล.ม.2 รอ.เขตพญาไท กรุงเทพฯ ไปยังจุดจอด ฮ. สนามฟุตบอลประจำตำบลเบิกไพร อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรีและเดินทางต่อไปยังวัดหุบกระทิง ตำบลเบิกไพร อำเภอบ้านโป่ง เพื่อเยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้เกษตรวิถีพุทธ-วิถีความร่วมมือในการพัฒนาระหว่างวัดกับชุมชน เปลี่ยนพื้นที่รกร้างว่างเปล่าเป็นแหล่งเรียนรู้เกษตรและร้านกาแฟท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม เป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนเชิงเกษตรให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้านและความสำเร็จของการนำเกษตรทฤษฎีใหม่ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่9 มาปรับใช้ จนเกิดผลเป็นรูปธรรม
จากนั้น นายกรัฐมนตรีจะไปที่ศาลาประชาคมเทศบาลเมืองบ้านโป่ง ตำบลบ้านโป่ง อำเภอบ้านโป่ง เพื่อตรวจติดตามแนวทางในการพัฒนาอำเภอบ้านโป่งตามโครงการต่างๆ จากนั้นจะเดินทางไปวัดใหญ่นครชุมน์ ตำบลนครชุมน์ อ.บ้านโป่ง เพื่อกราบสักการะหลวงพ่อใหญ่ชัยมงคลนครดลเรืองโรจน์ นมัสการพระครูนครเขมกิจ เจ้าคณะตำบลนครชุมน์-บ้านม่วง เจ้าอาวาสวัดใหญ่นครชุมน์ สักการะหลวงพ่อพญาแล และเยี่ยมชมวิถีชีวิตชาวไทยเชื้อสายรามัญ โดยนายกรัฐมนตรีและคณะ จะเดินทางกลับถึงสนามเฮลิคอปเตอร์ พล.ม.2 รอ.เขตพญาไท กรุงเทพฯเวลาประมาณ 13.30น.กำหนดการอาจเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม
‘แรมโบ้’ฉะเพื่อไทยอ่อนเปลี้ยเพลียแรง
นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊ง ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทยและบุตรสาว นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่หนีคุกหนีคดีอยู่ต่างประเทศประกาศ ว่า เลือกตั้งพรรคเพื่อไทยจะได้ ส.ส.300ที่นั่ง เป็นรัฐบาลพรรคเดียว ว่า เป็นเรื่องปกติทางการเมืองอยู่แล้ว เพราะเมื่อถึงการเลือกตั้ง แต่ละพรรคการเมืองก็ล้วนมีความคาดหวังมี การตั้งเป้าหมาย จำนวนผู้แทนราษฎร หรือสส.เข้าไปทำหน้าที่ในสภา คาดหวังจะจัดตั้งกันเป็นรัฐบาลกันทุกพรรคอยู่แล้วอย่างไรก็ตาม ความคาดหวังและการตั้งเป้าหมายนั้น ต้องยืนอยู่บนตรรกะเหตุผลและข้อเท็จจริง ไม่ว่าจะเป็นความพร้อมของพรรค นโยบายของพรรค พอที่จะสามารถดึงดูดพี่น้องประชาชนให้ตัดสินใจเลือกสส.และพรรคการเมืองนั้นๆ หรือไม่
เย้ยอดีตพรรค’ทรท.’ดูดกันแบบยกคอก
นายเสกสกล กล่าวว่า สำหรับพรรคเพื่อไทยนั้น สภาพวันนี้ต่างจากพรรคไทยรักไทย ในอดีตที่เคยชนะเลือกตั้งเมื่อปี2548แบบแลนด์สไลด์ ได้ สส.377ที่นั่ง แต่นั่นก็ทั้งกวาดทั้งต้อน ทั้งดูดทั้งต้อน ใช้อำนาจรัฐสารพัดรูปแบบเพื่อเอา สส.จากพรรคการเมืองต่างๆ เข้าไปไว้ในคอก ดูดกันแบบยกคอกยกพรรคกันเลยทีเดียว จนชนะถล่มทลาย ตามประสงค์ของเจ้าของคอกขณะนั้น แต่สภาพพรรคเพื่อไทยวันนี้อ่อนเปลี้ยเพลียแรง บรรดาผู้ที่เคยถูกกวาดต้อนเข้าคอกไทยรักไทย มาพลังประชาชน วันนี้ตาสว่าง รู้เช่นเห็นชาติเจ้าของคอกกันดี หลายกลุ่มหลายก๊ก เลิกถูกจูงจมูกปลดแอกออกมาตั่งพรรค ออกมาสังกัดพรรคต่างๆเป็นจำนวนมาก ดังนั้นการที่พรรคเพื่อไทย ตั้งเป้าหมายจะกวาด ส.ส.สูงถึง 310 ที่นั่ง จึงเป็นไปไม่ได้เลย”
นายเสกสกล กล่าวต่อว่า ที่สำคัญนโยบายพรรคเพื่อไทยแทบมองไม่เห็นอะไรเป็นชิ้นเป็นอันหรือเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนที่จะดึงดูดพี่น้องประชาชนไปลงคะแนนเลือกตั้งให้ เท่าที่เห็นก็มีแค่จะเอาพ่อกลับบ้าน หรือเอ่ยอ้างเอาความสำเร็จบางนโยบายในอดีต มาอวดอ้างขายฝัน ทั้งที่บริบทสังคมได้เปลี่ยนแปลงไปเยอะมากแล้ว ขณะที่บางนโยบายที่ล้มเหลว ทุจริต คอร์รัปชัน สร้างความพินาศย่อยยับให้ประเทศชาติบ้านเมืองอย่างจำนำข้าว พี่น้องชาวนา เกษตรกร คนรากหญ้าเซ่นสังเวยชีวิตหลายต่อหลายคน กลับไม่ยอมรับความผิดพลาดแต่ประการใด
ฝันกวาด310สส.ตื่นมากระอักเลือด
นายเสกสกล กล่าวด้วยว่า ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย วันนี้เผยโฉมให้เห็น 2คน คนแรกคือ น.ส.แพทองธาร นอกจากเป็นลูกสาวอดีตนายกผู้หนีคุกหนีคดีแล้ว อยากถามว่า ตลอดชีวิต 35ปีกว่าๆ อะไรคือความสามารถที่ประสบความสำเร็จในชีวิตและได้เคยรู้ รู้ทุกข์ รู้สุขของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะคนยากคนจนสักกี่มากน้อย อีกคนคือ นายเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งตนเองยอมรับว่ามีความสามารถ ประสบความสำเร็จในการประกอบธุรกิจ โดยเฉพาะการขายบ้าน แต่นี่คือประเทศไทยไม่ใช่หมู่บ้านจัดสรร ซึ่งมีความแตกต่างกัน เพราะต้องทำให้ไม่ใช่ทำเอา ฉะนั้นจึงไม่ง่าย ที่คนคนหนึ่งประสบความสำเร็จในธุรกิจจะประสบความสำเร็จในการบริหารประเทศชาติบ้านเมือง “ฉะนั้นแล้ว ทั้งสภาพพรรคเพื่อไทยที่ไม่เหมือนอดีต ทั้งนโยบายที่ไร้รูปธรรม เน้นพาพ่อกลับบ้านและแคนดิเดตนายกฯที่ปิดตัวออกมาดังกล่าวจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่พรรคเพื่อไทยจะกวาด สสเข้าสภาสูงถึง 310ที่นั่ง อาจจะเป็นจริงก็แค่ในความฝัน แต่พอสะดุ้งตื่นขึ้นมารู้ตัวอีกทีระวังจะกระอักเลือดกันทั้งคอกและเจ้าของคอก” นายเสกสกล กล่าว
‘เสธ.หิ’ตีปี๊บกระแส’บิ๊กตู่’มาเต็ม
นายหิมาลัย ผิวพรรณ หรือเสธ.หิ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พื้นที่ภาคเหนือ กล่าวถึงความคืบหน้าการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งสส.ระบบเขต พรรครวมไทยสร้างชาติในพื้นที่ภาคเหนือว่า การเตรียมงานของพรรคไปได้ดี จากเดิมตอนแรกคิดว่าจะไปได้ยาก แต่เมื่อได้เข้าไปสัมผัสกับประชาชนพบว่ากระแสตอบรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในพื้นที่ภาคเหนือดีมาก เพียงแต่ว่าความรู้สึกของประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ เขาอาจไม่ค่อยแสดงออก เพราะเขาอาจเกรงว่าหากแสดงออกแล้วจะมีความขัดแย้งใดๆ ตามมา แต่เมื่อเราได้เข้าไปสัมผัส เห็นชัดว่า กระแสตอบรับของพรรครวมไทยสร้างชาติในภาคเหนือถือว่าดี เอาเป็นว่า รวมไทยสร้างชาติ น่าจะเป็นพรรคการเมืองที่อยู่ในอันดับต้นๆ ของพรรคการเมืองที่อยู่ในใจคนภาคเหนือ โดยหากไม่ได้เข้าไปสัมผัส จะไม่รู้สิ่งนี้เลยเพราะด้วยสื่อและกระแสต่างๆ ที่ออกมา เหมือนกับว่าเป็นของบางพรรคการเมืองที่ยึดครองภาคเหนือ แต่พอเข้าไปสัมผัสจริงๆ พบเลยว่ามีแฟนคลับลุงตู่เยอะมาก เราคิดว่าตรงนี้ได้ผล ส่วนที่ว่าจะได้สส.เขต กี่ที่นั่ง บอกเลยมั่นใจว่า ได้มา ก็ฮือฮาแล้วกัน เพราะเราไปสัมผัสพื้นที่มาแล้ว ก็ไม่ได้เป็นอย่างที่มีบางพรรคบางพวกพยายามสร้างภาพ
“ดังนั้นจะได้ สส.แค่ไหน ก็อยู่ที่ประชาชนจะให้โอกาสเราแค่ไหน แต่เท่าที่ผมไปสัมผัสประชาชนมา ผมว่า ที่ใครเคยดูถูกพรรครวมไทยสร้างชาติไว้ทางภาคเหนือ ผมว่าได้นั่งร้องไห้กันบ้าง หลังผลเลือกตั้งออกมา ผมตอบแบบนี้ก็แล้วกัน แต่จะให้เราไปพูด คงไม่ได้ เพราะผมเคารพสิทธิประชาชน แต่จากการลงพื้นที่ทำให้ผมเชื่อว่าคนที่รักพลเอกประยุทธ์ในภาคเหนือมีอยู่เยอะ คนที่เข้าใจพรรครวมไทยสร้างชาติมีอยู่มาก ผมจึงมั่นใจว่าจำนวน ส.ส.เขต ที่เราตั้งเป้าไว้ เราจะได้ไม่ต่ำกว่าเป้าแน่นอน” เสธ.หิ ระบุ
ไม่สนแลนด์สไลด์-แล้วแต่ปชช.เลือก
เมื่อถามว่า ในภาคเหนือพรรครวมไทยสร้างชาติจะสู้กับกระแสแลนด์สไลด์ กระแส นายทักษิณ ชินวัตร กระแสอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร อย่างไร นายหิมาลัย กล่าวว่า “ต้องบอกว่า ท่านทักษิณก็มีสไตล์การบริหารงานในแบบของท่าน คุณอุ๊งอิ๊ง ก็มีสไตล์ในการบริหารงานต่างๆ รวมถึงความคิดต่างๆ ผมคิดว่าเราก็ดูถูกใครไม่ได้ ขณะเดียวกัน เราไม่ดูถูกตัวเราเองด้วยเหมือนกัน ผมไม่รู้จักกระแสแลนด์สไลด์ รู้จักแต่ว่าประชาชนจะเลือกใคร วันนี้หากเราฟังสื่อแต่ว่า แลนด์สไลด์ แล้วทุกพรรคการเมืองก็กลัวแลนด์สไลด์ ก็ไม่ต้องลงสมัครกัน ก็เหลือพรรคเดียวดีไหม ก็ยกให้ท่านทักษิณ ยกให้เพื่อไทยไปพรรคเดียวเลยดีไหม หากเรากลัวแลนด์สไดล์ เพราะฉะนั้นอย่างที่นายกรัฐมนตรีเคยบอกไว้ จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เพราะฉะนั้นถ้ามีคนศรัทธาแม้แต่หนึ่งคน เราก็ต้องต่อสู้”
ไม่กลัวแลนด์สไลด์สู้กันตามวิถีปชต.
วันนี้ยังมีคนที่ศรัทธานายกรัฐมนตรีอยู่ ยังมีคนที่ศรัทธาพรรครวมไทยสร้างชาติอยู่ เราไม่รู้ว่าเราจะสู้แพ้หรือชนะ เพราะนั่นเป็นสิทธิของประชาชน เราตอบไม่ได้ ดังนั้นหากถามว่า เรากลัวกระแสแลนด์สไลด์หรือไม่ เราไม่กลัวเพราะเราเป็นประชาธิปไตย การเลือกตั้งแล้วแพ้ อย่างน้อยถ้ามีคนศรัทธาแล้วยังเลือกเราอยู่ นั่นคือน้ำใจที่เขาให้ แต่หากเลือกตั้งแล้วเป็นศูนย์ ก็ต้องเลิก หากรวมไทยสร้างชาติไม่ได้แม้แต่คะแนนเดียว ก็เสนอว่า ก็ต้องปิดพรรค แต่หากยังมีคะแนน มีประชาชนศรัทธาอยู่ เราก็ต้องรักษาศรัทธานั้นแล้วเดินไปข้างหน้า “เพราะฉะนั้นถามว่าผมกลัวกระแสแลนด์สไลด์หรือไม่ ผมไม่กลัว แต่ผมไม่ได้ดูถูกก็เป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยเขาก็มีดีของเขาก็ว่าไป แต่ รวมไทยสร้างชาติ ก็มีดีของเรา ก็เป็นเรื่องของโลกประชาธิปไตย เราไปห้ามใครไม่ได้ กลัวไหม ไม่กลัวครับ เราก็ไม่ได้ไปดูถูกเขา เราคิดว่าเราต่างก็มีดีของตัวเองก็อยู่ที่ประชาชนตัดสินใจ จากที่ได้ลงไปสัมผัสในพื้นที่ กระแสนิยมท่านนายกรัฐมนตรี ดีขึ้นเรื่อยๆซึ่งผมเห็นปรากฏการณ์การเมืองแบบนี้ผมมั่นใจ”ผู้ประสานงาน รทสช.ภาคเหนือ ย้ำ
เมื่อถึงการต้องแข่งขันสู้กับพรรคอื่นๆเช่น พลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ทาง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร รุ่น25 ที่รับผิดชอบภาคเหนือให้พลังประชารัฐจะเป็นอย่างไร จะสู้เต็มที่หรือไม่ เสธ.หิ กล่าวว่า ก็เป็นเหมือนกีฬาครับ ร.อ.ธรรมนัส เป็นผู้ใหญ่ในรุ่น ตร.บอกตลอดว่า ท่านเป็นประธาน เป็นผู้ใหญ่และคอยดูแลเพื่อนๆดีมาก ส่วนตัวแล้วก็ถือว่า เขาเป็นผู้ใหญ่ของตนด้วยคนหนึ่ง การให้เกียรติในฐานะของเพื่อนในฐานะผู้ใหญ่ของรุ่นก็ให้เกียรติตลอดเวลา เขาเป็นผู้อาวุโสกว่าตน คอยดูแลอะไรต่างๆมา แต่เมื่อวันนี้ตนมีหน้าที่ก็ทำตามหน้าที่ แต่หน้าที่ของตนนั้นทำตามกรอบและกติกา ไม่เคยนอกกติกากับใคร
“สำหรับผม ไม่เคยคิดว่าจะไปแข่งอะไรกับ ท่านธรรมนัส เลย ผมแข่งกับตัวผมเอง และผมก็มีความเคารพให้กับเขาอยู่แล้วในฐานะผู้อาวุโสกว่าไม่ว่าจะในทางการเมืองหรือในรุ่น แต่ผมก็มีหน้าที่ซึ่งผมต้องทำ ผมมีหน้าที่ ผมก็ทำเต็มที่ ผมคิดว่าเขาเข้าใจในสิ่งที่ผมทำ อยู่ตรงไหน ก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้เต็มที่” อดีต ตท.รุ่น 25 ระบุ
‘พปชร.’ปรับแผนเปิดปราศรัยใหญ่4ภาค
นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ พรรคพลังประชารัฐได้หารือถึงช่วงเวลาในการเปิดเวทีปราศรัยทั้ง 4ภาค ให้มีความเหมาะสม โดยจะมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ร่วมขึ้นปราศรัยและเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.ในทุกเวทีที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ เริ่มจากเวทีที่ จ.เชียงราย วันที่ 12มีนาคมนี้และต่อด้วยการเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่ จ.นราธิวาส วันที่ 17มีนาคม2566และวันที่18มีนาคม2566 ที่ลานคนเมือง กรุงเทพมหานครและขึ้นเหนือ เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ ที่จ.เชียงใหม่ วันที่ 19มีนาคม2566 ในวันที่ 25มีนาคม2566 เป็นการเปิดเวทีใหญ่ ที่จ.ขอนแก่น หรือพิษณุโลก ซึ่งจะมีการกำหนดพื้นที่ออกมาอีกครั้ง ส่วนในวันที่ 26มีนาคม2566 ที่ จ.นครราชสีมา เป็นการเปิดเวทีปิดท้ายในช่วงเดือน มีนาคม ซึ่งพรรคจะมีแผนเปิดเวทีในแต่ละภาคอีกครั้ง เพื่อนำนโยบายไปนำเสนอไปยังพี่น้องประชาชนแต่ละพื้นที่ รวมถึงนโยบายที่ตรงจุดให้สอดรับแต่ละพื้นที่ เพื่อให้ว่าที่ผู้สมัครสามารถนำไปนำเสนอประชาชนในแต่ละเขตของตนเองต่อไป
‘เศรษฐา’ โอนหุ้นแสนสิริให้ลูกสาวแล้ว
รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า จากข้อมูลแบบรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์ของผู้บริหาร (แบบ 59-2) ประจำวันที่ 9 มี.ค. 66 โดยพบว่า มีรายชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานกรรมการบริหาร บมจ.แสนสิริ หรือ SIRI ได้โอนหุ้นทั้งหมดของ SIRI หรือจำนวน 661,002,734 หุ้นหรือ4.44% ซึ่งเป็นจำนวนหุ้นทั้งหมดที่ตนเองถืออยู่ ให้แก่ นางสาวชนัญดา ทวีสิน(บุตร) ขณะที่ทวิตเตอร์ของนายเศรษฐากล่าวว่า“ผมอยากแสดงความบริสุทธิ์ใจเพื่อเตรียมความพร้อมในการทำงานการเมือง จึงทำการโอนหุ้นหรือขายหุ้นของตนในบริษัทต่าง ๆ ลดบทบาทของตนเองในภาคเอกชนลง และได้ดำเนินการเสียภาษีอย่างถูกต้องตามกฎหมายทุกกรณี”
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่9มี.ค.นายเศรษฐา ส่งจดหมายถึงพนักงานแสนสิริว่า ขอลางานชั่วคราวโดยไม่ขอรับค่าตอบแทนเพื่อปฏิบัติหน้าที่ในฐานะประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยได้อย่างเต็มที่
ลุย’อยุธยา’เปิดตัวต่างจังหวัดครั้งแรก
เวลา 11.40 น.ที่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย (พท.) , นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย และ นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ นักวิชาการด้านการเกษตรสมัยใหม่ ฐานะสมาชิกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยว่าที่ผู้สมัคร สส.อยุธยา พรรค พท.ทั้ง 5เขต ประกอบไปด้วย 1.นายอัณณพ อารีย์วงศ์สกุล 2.นายสุรเชษฐ์ ชัยโกศล 3.นายองอาจ วชิรพงศ์ 4.นายจิรทัศ ไกรเดชา และ 5.นายอาทิตย์ ภาคอินทรีย์ ลงพื้นที่พบปะพี่น้องเกษตรกรชาวนา โดยพี่น้องชาวนาได้สะท้อนปัญหาอยากให้ชีวิตคือกินดีอยู่ดีขึ้น ทั้งเรื่องน้ำเพื่อการเกษตร และปุ๋ยที่ที่ราคาแพง รวมถึงให้ข้าวมีราคาสูงขึ้นกว่านี้ไม่ต่ำกว่า 10,000 บาทต่อกิโลกรัม และปัญหาหนี้สินของเกษตรกรด้วย
นายเศรษฐา กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ลงพื้นที่นี้เป็นจังหวัดแรก เพื่อรับฟังความอัดอันตันใจของชาวนาในการทำไร่ทำนา ตนทราบว่าปัญหาเยอะเหลือเกิน แต่ 8 ปีที่ผ่านมาเราเชื่อว่าเราอยู่ในหลุมดำของกลับดักรายได้ต่ำ ราคาข้าวไม่ดีผลผลิตไม่ดี และมีปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งมาโดยตลอด ยืนยันส่าปัญหาน้ำท่วมเรามีแผนงานทำฟลัดเวย์หรือพื้นที่กักน้ำเพื่อแบ่งเบาภาระในช่วงน้ำหลาก เรื่องน้ำแล้งนั้นจะต้องมีการขุดบ่อและนำปั๊มน้ำเข้ามาในพื้นที่ ส่วนปัญหาหนี้สินก็เป็นปัญหาใหญ่ที่พรรค พท.ตระหนักดีอยู่ เนื่องจากราคาข้าวที่ผ่านมารัฐบาลไม่ให้ความสำคัญหรือเปิดตลาดใหม่ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ไม่ทำหน้าที่เซลล์แมนขายของเลย ถ้าพรรค พท.ได้รับความไว้วางใจกรุยทางถนนเข้าทำงานในทำเนียบรัฐบาล เพื่อช่วยกันค้าขายยกระดับราคาสินค้าเกษตร รวมถึงให้ความสำคัญเรื่องระบบสาธารณสุข ในการยกระดับ 30บาทรักษาทุกโรคด้วย เป็นครั้งแรกที่ผมลงพื้นที่รับฟังปัญหาและความอัดอันตันใจของพี่น้องทุกคน ผมก็หนักใจ แต่เรามีความจริงใจเรามีความตั้งใจจริงในการที่จะหาทางแก้และช่วยเหลือพี่น้องอย่างเต็มที่
เล็งเปิดโรงผลิตปุ๋ยแก้ราคาปุ๋ยแพง
หลังรับฟังเสียงสะท้อนจากชาวนา นายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยเฉพาะประเด็นที่ชาวนาสะท้อนคือเรื่องราคาปุ๋ยแพงและราคาข้าวตกต่ำ ว่า ราคาเป็นแค่ปัจจัยหนึ่ง หากราคาแพงต้นทุนก็จะสูง เงินเข้ากระเป๋าก็จะน้อย หน้าที่ของพรรค พท.คือจะต้องเพิ่มเงินสุทธิเข้ากระเป๋าเข้ากระเป๋าให้มากขึ้นอย่างน้อย 3เท่า ทั้งการลดราคาสินค้าและค่าใช้จ่าย ส่วนปัญหาราคาปุ๋ยแพงนั้นสามารถยอมรับว่าเป็นไปตามกลไกราคาตลาดโลกที่ควบคุมได้ยาก ดังนั้นจึงมีนโยบายสร้างโรงงานผลิตปุ๋ยอินทรีย์ในท้องถิ่นเพื่อทดแทนการใช้ปุ๋ยเคมี ซึ่งจะทำให้เราสามารถควบคุมราคาปุ๋ยลงได้
ต้องแก้ปัญหาราคาพืชผลตกต่ำให้ได้
เมื่อถามว่า 8 ปีที่ผ่านมารัฐบาลชุดนี้ยังไม่ สามารถแก้ไขปัญหาราคาข้าวได้มั่นใจหรือไม่ว่าพรรค พท.จะทำได้ นายเศรษฐา กล่าวว่า คงไม่สามารถพูดถึง 8 ปีที่ผ่านมาได้ แต่ทราบถึงความอึดอัดตันใจ ไม่มีความสุข ที่ราคาพืชผลตกต่ำ แต่ตนมั่นใจว่าพรรค พท.สามารถทำได้ในหลายมิติ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ประชาชนอยู่ดีกินดี เมื่อถามถึงพื้นที่ อ.ผักไห่ เป็นพื้นที่รับน้ำและที่ผ่านมารับน้ำนานถึง 4 เดือน พรรคเพื่อไทยมีแนวทางแก้ปัญหาเรื่องน้ำอย่างไรเพื่อให้มีการระบายน้ำในพื้นที่ได้เร็วขึ้น นายเศรษฐา กล่าวว่า ต้องดูข้อมูลทางภูมิศาสตร์ทั้งระบบว่า ทำไมถึงเป็นพื้นที่รับน้ำและรับน้ำนานถึง 4เดือน จำเป็นต้องศึกษารายละเอียดก่อน แต่แน่นอนว่า พื้นที่ที่เดือดร้อนต้องมีวิธีการบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน
เตรียมเปิด4นโยบายเด็ด17มีนาคมนี้
เมื่อถามว่า ส่วนการเปิดนโยบายอีก4นโยบายใหญ่ของพรรค พท.ที่วางไว้จะเปิดวันที่ 17มี.ค.นี้ นายเศรษฐา กล่าวว่าขอให้รอดู เราจะมีการประกาศนโยบายใหญ่ ซึ่งจะเป็นนโยบายที่กระตุ้นเศรษฐกิจได้มโหฬาร เมื่อถามถึงกรณีที่พรรค พท.เคยประสบปัญหาเรื่องนโยบายจำนำข้าว นายเศรษฐา กล่าวว่า ต้องให้ความสำคัญเรื่องเงินสุทธิที่จะเข้ากระเป๋าชาวนา เรื่องการจำนำข้าวเป็นเรื่องของราคาอย่างเดียว นโยบายของพรรคเป็นนโยบายโดยรวมเพื่อให้ชาวนามีเงินในกระเป๋า หลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้วจะสูงกว่าเดิมถึง 3 เท่า คงไม่ใช่แค่เรื่องของการจำนำข้าวอย่างเดียว เมื่อถามกรณีที่นายเศรษฐาได้มีการโอนหุ้นและขายหุ้นเพื่อ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจในทางการเมือง นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนได้โอนหุ้นให้ลูกสาวซึ่งบรรลุนิติภาวะเรียบร้อยแล้ว เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจในการเข้าสู่การเมือง โดยไม่เอาผลประโยชน์ส่วนตัวหรือประโยชน์ของบริษัทมาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งผู้ที่รับก็จะต้องเสียภาษีตามกฏหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการลงพื้นที่ของพรรค พท.ครั้งนี้ นายเศรษฐา นั่งจับเข่าพูดคุยรับฟังปัญหากับพี่น้องชาวนาบนรถอีแต๊กกลางทุ่งนาและร่วมรับประทานอาหารเที่ยงร่วมกับพี่น้องชาวนาอย่างเป็นกันเอง อย่างไรก็ตาม อาหาร มื้อนี้เป็นเมนูข้าวแกงและขนมจีนน้ำยา ซึ่งเศรษฐาบอกว่าเป็นกับข้าวถูกปากและอร่อยดี
กกต.ชวนศึกษาคู่มือสมัครเลือกตั้งส.ส.
วันเดียวกัน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่เอกสารแจ้งว่าด้วยอายุของสภาผู้แทนราษฎรจะสิ้นสุดลง ในวันที่ 23มี.ค.66 ตามมาตรา102 ของรัฐธรรมนูญ 2560 กกต.จะต้องดำเนินการ จัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป ซึ่งเมื่อมีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งทั่วไปใช้บังคับแล้ว กกต. จะต้องมีประกาศในราชกิจจานุเบกษากำหนดวันรับสมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง รวมถึงจะต้องมีประกาศในราชกิจจานุเบกษา กำหนดสถานที่ที่พรรคการเมืองจะยื่นบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ทั้งนี้ การรับสมัครรับเลือกตั้งเป็นขั้นตอนสำคัญประการหนึ่งของกระบวนการจัดการเลือกตั้ง สำนักงาน กกต.จึงจัดทำคู่มือการสมัครรับเลือกตั้งสส.สำหรับผู้สมัครและพรรคการเมือง และคู่มือปฏิบัติงานการรับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ผู้สมัครรับเลือกตั้ง พรรคการเมือง รวมถึงเจ้าหน้าที่ของพรรคการเมือง ใช้เป็นแนวทางในการดำเนินการและการเตรียมการด้านเอกสารหลักฐานประกอบการรับสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งผู้สมัครและพรรคการเมือง รวมไปถึงประชาชน ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับกระบวนการรับสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งและแบบบัญชีรายชื่อ รวมถึงหลักเกณฑ์การเสนอชื่อบุคคลที่จะแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี โดยสามารถศึกษารายละเอียดคู่มือดังกล่าว
ได้ทางเว็บไซต์สำนักงาน กกต. www.ect.go.th และ เฟซบุ๊กแฟนเพจ สำนักงาน กกต.
‘บิ๊กบี้’สั่งกลางวงทบ.วางตัวเป็นกลาง
พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) สั่งการในที่ประชุมผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกวาระพิเศษ ถึงระดับผู้บังคับกองพัน เมื่อวันที่ 7กพ.ที่ผ่านมา ในเรื่องการวางตัวและการปฎิบัติตัวของกำลังพลกองทัพบก ในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น โดยย้ำให้วางตัวเป็นกลางและปฏิบัติตัวตามแนวทางที่กำหนดอย่างเคร่งครัดว่าสิ่งไหนควรทำ และสิ่งไหนไม่ควรทำ หรืออย่าทำ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาส่งผลต่อภาพลักษณ์กองทัพบก ต่อความเป็นกลางทางการเมือง ทั้งนี้ กองทัพบก ได้ออกแนวทางปฏิบัติของกำลังพลกองทัพบกในการสนับสนุนการเลือกตั้งคือ
แนะนำ5ข้อควรปฎิบัติรับเลือกตั้งสส.
สิ่งที่ควรปฏิบัติ 5ข้อ คือ 1.กองทัพบก สนับสนุนให้กำลังพล เห็นถึงความสำคัญของการเลือกตั้ง ให้กำลังพลไปทำหน้าที่ใช้สิทธิเลือกตั้งทุกครั้ง ให้เป็นตัวอย่างของประชาชนทั่วไป 2.รวมทั้งให้คำแนะนำ ชักชวนบุคคลผู้มีสิทธิในครอบครัว ญาติ และมิตรสหาย ไปใช้สิทธิเลือกตั้งโดยพร้อมเพรียงกัน
3.ให้ทุกหน่วยส่งเสริม และอำนวยความสะดวกให้กำลังพล และครอบครัวได้รับฟังการหาเสียง โดยประกาศแจ้งเตือนให้ทราบถึงวัน เวลา และสถานที่ที่จะมีการหาเสียง และจัดเจ้าหน้าที่ควบคุมรักษาความสงบเรียบร้อยตามความเหมาะสมส่วน กำลังพลที่มีภูมิลำเนาอยู่นอกเขตการเลือกตั้งที่กำลังพลผู้นั้นปฏิบัติงานอยู่ ให้กำลังพลผู้นั้นไปทำหน้าที่ใช้สิทธิลงคะแนน ณ หน่วยเลือกตั้งกลางได้ โดยต้องลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า 4.สำหรับกรณีที่กำลังพลมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตการเลือกตั้งของหน่วยการเลือกตั้งที่ตนเองไปให้การสนับสนุนสามารถไปใช้สิทธิลงคะแนน ณ หน่วยเลือกตั้งนั้น โดยให้กำลังพลดังกล่าวนำคำสั่งแต่งตั้งจากคณะกรรมการ การเลือกตั้งไปแสดง ณ หน่วยเลือกตั้ง เพื่อขอใช้สิทธิเลือกตั้งและ5.กำลังพลทหารประจำการที่ได้รับคำสั่งจากทางราชการ ให้ไปปฏิบัติหน้าที่เที่ยวกับการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือเกี่ยวกับความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ นอกที่ตั้งปกติที่ตนมีภูมิลำเนานั้น และไม่สามารถใช้สิทธิเลือกตั้ง ในวันเลือกตั้งได้ ให้ผู้บังคับหน่วยนั้นแจ้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง พร้อมทั้งให้กำลังพลลงทะเบียนเลือกตั้ง ล่วงหน้าด้วยตนเอง เพื่อให้กำลังพลดังกล่าวได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า
พร้อมเปิดข้อห้าม5ประการก่อนกาบัตร
ส่วนสิ่งที่ไม่ควรทำ 5ข้อ คือ 1.ไม่ควรให้มีการจัดการฝึกอบรมหรือประชุมสัมมนาในช่วงระยะเวลา 10 วัน ก่อนเลือกตั้ง 2.ไม่ควรให้กำลังพลของ ทบ. เป็นคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง หรือเจ้าหน้าที่นับคะแนนโดยเด็ดขาด 3.ไม่ควรใช้ยานพาหนะ หรืออากาศยานของ ทบ. ในการประชาสัมพันธ์ ให้กับผู้สมัครหรือกลุ่มที่หวังผลทางการเมืองโดยเด็ดขาด 4.ไม่ควรให้ใช้พื้นที่ของหน่วยเป็นสถานที่เลือกตั้ง หรือเก็บหีบบัตรเลือกตั้งและ5.ห้ามมิให้กำลังพลของกองทัพบกเป็นคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง และเป็นเจ้าหน้าที่นับคะแนนโดยเด็ดขาด