"อุ๊งอิ๊ง-เศรษฐา"เปิดวงคุยคนรุ่นใหม่พิษณุโลก ย้ำเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เสริมศักยภาพ สร้างโอกาสเพิ่มรายได้
เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2566 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมด้วย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย , นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย , นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย
รวมไปถึงว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พิษณุโลก พรรคเพื่อไทย ร่วมพูดคุยกับตัวแทนนักศึกษามหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ตัวแทนสภาเด็กและเยาวชน รวมไปถึงตัวแทนคนรุ่นใหม่ในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลกและจังหวัดใกล้เคียง เพื่อรับฟังความคิดเห็นและปัญหาของคนรุ่นใหม่
ซึ่งได้มีการสอบถามถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำและโอกาสทางการศึกษา การแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจประเทศ จึงฝากความหวังกับพรรคเพื่อไทยหากเป็นรัฐบาลช่วยสร้างโอกาสการทำงานและเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมที่คุกคามเยาวชน รวมถึงปัญหาสิทธิเสรีภาพซึ่งหลายปีที่ผ่านมาเยาวชนจำนวนมากถูกดำเนินคดีร้ายแรง เนื่องจากจากการเคลื่อนไหวและการแสดงออกทางการเมือง ไปจนถึงได้สอบถามถึงแนวนโยบายเกี่ยวกับการเกณฑ์ทหาร โดยพรรคเพื่อไทยจะรวบรวมข้อเสนอและความคิดเห็นต่างๆ เพื่อจัดไปประกอบจัดทำเป็นนโยบายต่อไป
นายเศรษฐา กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษาของเยาวชนอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องงบประมาณที่ควรจัดสรรเพิ่มเติมสำหรับการศึกษาเพื่อรองรับทุกคนให้มีโอกาสเข้าถึงการศึกษาให้มากที่สุด โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนที่จะต้องมีโอกาสได้รับการศึกษาอย่างเท่าเทียม ส่วนที่สอบถามเรื่องการเกณฑ์ทหารนั้น พรรคเพื่อไทยมองถึงสิทธิเสรีภาพในการเลือกประกอบอาชีพ ซึ่งจะต้องเป็นสิทธิพื้นฐานของเยาวชน ดังนั้นเราจึงมีแนวนโยบายที่ชัดเจนว่า ต้องเป็นทหารด้วยความสมัครใจและจะต้องไม่ถูกบังคับ ซึ่งในประเทศพัฒนาแล้วกองทัพจะต้องแข่งขันกับภาคเอกชนในการดึงคนที่มีศักยภาพ ด้วยการบอกให้ชัดเจนว่าเป็นทหารแล้วจะได้อะไรบ้าง
นายเศรษฐา กล่าวว่า สำหรับข้อกังวลของคนรุ่นใหม่ในเรื่องการทำงานและการประกอบอาชีพหลังจบการศึกษานั้น พรรคเพื่อไทยมีแนวทางในการส่งเสริมการสร้างงานที่ชัดเจน หากได้เป็นรัฐบาล เราจะขอเป็นเจ้าภาพในการดึงภาคเอกชนให้เข้ามามีส่วนร่วมกำหนดแนวทางในการดึงนักศึกษาที่จบใหม่เข้าทำงานให้มากที่สุด
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ โดยมองที่การเพิ่มโอกาสและการเพิ่มรายได้ให้ประชาชน ซึ่งในอดีตพรรคเพื่อไทยนับตั้งแต่ยังเป็นพรรคไทยรักไทย เราพยายามทำเรื่องการตลาด โดยเฉพาะตลาดในต่างประเทศเพื่อเพิ่มโอกาสให้พี่น้องประชาชน ซึ่งครั้งหนึ่งประเทศไทยเคยเป็นเสือตัวที่ 5 แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นแมวจิ๋ว ดังนั้นรัฐบาลจึงควรจะต้องไปหาตลาดต่างประเทศให้กับสินค้าของคนไทย ต้องทำให้ต่างประเทศหันมามองสินค้าไทย หน้าที่ของรัฐบาลที่ดี คือ การพาคนไทย พาสินค้าไปออกไปสู่โลกและเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่พรรคเพื่อไทยจะทำ
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเชื่อว่าการเมืองเป็นเรื่องของทุกคน และสิทธิเสรีภาพเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ที่มุ่งเน้นการค้นหาและเสริมศักยภาพให้เด็กและเยาวชน สำหรับข้อห่วงใยของเยาวชนในเรื่องการบังคับใช้กฎหมายในปัจจุบัน พรรคเพื่อไทยมีหลักคิดที่ชัดเจนว่า กฎหมายจะต้องไม่ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง และการบังคับใช้จะต้องเป็นไปตามหลักนิติธรรม ซึ่งก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยได้เสนอญัตติต่อสภาผู้แทนราษฎรให้พิจารณาการบังคับใช้กฎหมายที่ล้นเกินจนสร้างผลกระทบกับประชาชน ซึ่งพรรคเพื่อไทยมองว่าเรื่องนี้จะต้องแก้ไขที่โครงสร้างใหญ่ คือ รัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะในเรื่องสิทธิเสรีภาพประชาชนที่จะต้องกำหนดกันให้ชัดเจน
- 006