ส่องบรรยากาศ ครม.ก่อนถกวาระร้อนรถไฟฟ้าสายสีส้ม “อธิรัฐ” ลุกลี้ลุกลน ลุกโทรศัพท์ตลอด ด้าน รมต.หลายคนผวางานเข้า ชิ่งออกจากห้อง แบ่งขั้วเชียร์-ค้าน ก่อน “บิ๊กตู่” ทุบโต๊ะสั่งถอน แหย่อยากอนุมัติเร็วๆ ต้องตั้งรัฐบาลเร็วๆ เผยครม.อนุมัติทิ้งทวนวันนี้ 1.7 แสนล้าน
14 มี.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้เรียกเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ขึ้นไปพบที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบฯ ซึ่งคาดว่า เป็นการหารือเรื่องโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มที่ นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม ในฐานะปฏิบัติราชการแทน รมว.คมนาคม จะเสนอเรื่องเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ขณะที่ในการประชุม ครม.ครั้งนี้ใช้เวลายาวนานที่สุดในรัฐบาลชุดนี้ ประมาณ 6 ชั่วโมง โดยเริ่มประชุมตอนเวลา 10.00 น. และเลิกประชุมเวลา 16.00 น. ซึ่งมีการพิจารณาวาระมากถึง 88 เรื่อง
ทั้งนี้ มีรัฐมนตรีลาประชุมจำนวน 4 คน ได้แก่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์
รายงานข่าวแจ้งว่า ตั้งแต่เริ่มการประชุม ครม. นายอธิรัฐมีสีหน้าเคร่งเครียด ลุกลี้ลุกลน และลุกออกจากเก้าอี้ออกไปพูดคุยโทรศัพท์บ่อยครั้ง แต่บรรยากาศเริ่มมาตึงเครียดในช่วงบ่าย หลังเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า จะมีการบรรจุวาระรถไฟฟ้าสายสีส้มเข้าสู่การพิจารณาในวาระจร โดยเฉพาะในช่วงเวลา 14.00 น. ที่มีการแจกเอกสารเพื่อเตรียมเข้าสู่วาระการพิจารณา ซึ่งระหว่างนี้มีรัฐมนตรีบางคนทยอยเดินทางกลับ
โดยเวลา 14.15 น. นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ จากพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางออกทางด้านหลังตึกสันติไมตรี พร้อมบอกกับผู้สื่อข่าวว่า “ผมไปก่อนแล้ว” ผู้สื่อข่าวจึงถามว่า ถือเป็นการวอล์คเอาต์ได้หรือไม่ นายสินิตย์ ยอมรับว่าได้และใช่เลย แต่พรรคประชาธิปัตย์ ยังมีรัฐมนตรีนั่งอยู่ในห้อง
ขณะที่เวลา 14.20 น.นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ได้ออกมาพักเบรก พร้อมกับยืนยันว่า ตนจะอยู่ในห้องประชุม เพราะนายกฯอยู่ ต้องอยู่กับนายกฯ
จากนั้นเวลา 14.30 น.นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ได้เดินทางกลับ แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้หนี และระบุว่า จะให้ตนทำอย่างไร เพราะมีประชุมพรรคในเวลา 15.00 น.
กระทั่งเวลา 14.57 น. ที่ประชุม ครม.ได้เริ่มพิจารณารถไฟฟ้าสายสีส้ม โดยเลขาธิการ ครม.ได้เชิญผู้ว่า รฟม. ผู้บริหาร รฟม. และตัวแทนอัยการสูงสุด มาชี้แจงความเป็นมาของโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม จากนั้นเลขาธิการ ครม. ได้อ่านความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาว่าเรื่องอยู่ระหว่างการดำเนินคดี ควรรอให้มีความชัดเจน เช่นเดียวกับกระทรวงการคลังที่ระบุว่า เรื่องนี้มีประเด็นฟ้องร้องอยู่ จึงจำเป็นต้องพิจารณาให้รอบคอบ ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์จะถามความเห็นของ ครม. ซึ่งนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะทักท้วงว่า อัยการสูงสุดได้ให้ความเห็นว่าควรรอคำพิพากษา ต่อให้เข้ามาเป็นเรื่องเพื่อทราบก็ไม่รู้ว่าจะให้ทราบเรื่องอะไร
เช่นเดียวกับนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ที่กล่าวเสริมว่า ควรรอฟังคำพิพากษาของศาลปกครองก่อน และไม่เห็นด้วยที่นำเสนอเรื่องนี้เข้ามา นอกจากนี้ ยังมีรัฐมนตรีอีกหลายคนแสดงความไม่เห็นด้วยกับเรื่องดังกล่าว อาทิ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกฯ นายนริศ ขำนุรักษ์ รมช.มหาดไทย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม
ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี อธิบายว่า เรื่องนี้มีอยู่ 4 ประเด็นที่ต้องพิจารณา ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เรียก รฟม.มาชี้แจงให้ฟังแล้ว ได้แก่ 1.มีการล็อคสเปคหรือไม่ เรื่องนี้ศาลปกครองตัดสินแล้วว่าไม่มีการล็อคสเปค แต่บีทีเอสเป็นผู้ที่ไม่ยื่นประมูลเอง และศาลอาญาตัดสินแล้วไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ใคร 2.เงินส่วนต่างของบีอีเอ็มกับบีทีเอส จะให้ รฟม.ชี้แจง 3.มีคดีค้างที่ศาลและ ป.ป.ช.หรือไม่ ที่ค้างอยู่ในศาลปกครองสูงสุดคือ คดียกเลิกการประมูลปี 63 มิชอบ ส่วนที่ ป.ป.ช.ไม่มีคดีค้าง และ4.ทำไมไม่รอผลการพิจารณาของศาลปกครองก่อน ซึ่งศาลปกครองกลางมีคำตัดสินมาแล้วว่าไม่คุ้มครอง และหากรอเวลาไปเรื่อยๆ ยิ่งเกิดความเสียหาย และถูกฟ้องเรื่อยๆ รวมถึงหากยุบสภาไปแล้วจะอนุมัติไม่ได้
ทั้งนี้ นายวิษณุยังแสดงความเห็นส่วนตัวว่า “ครม.ควรเห็นชอบ แต่เนื่องมีคดีค้างอยู่ในศาล ควรให้มีคำพิพากษาของศาลก่อน แต่ยังไม่ควรมีการอนุมัติให้ลงนามในสัญญาจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา” ซึ่งมีรัฐมนตรีหลายคนเห็นด้วยกับความเห็นของนายวิษณุ อาทิ นายอเนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา
หลังจากแสดงความเห็นอย่างกว้างขวางราวชั่วโมง ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ พูดตัดบทว่า “ผมตัดสินใจให้ถอนเรื่องไปก่อน รอให้ศาลพิจารณาได้ข้อยุติก่อน ส่วนเรื่องของอนาคตค่อยว่ากัน ขอโทษด้วยที่ต้องถอนเรื่องนี้ออกไป เข้าใจทุกฝ่าย ถ้าโครงการนี้ดีและไม่มีข้อครหา รัฐบาลหน้าก็มาดำเนินการต่อ ถ้าอยากอนุมัติเร็วๆ ก็ต้องตั้งรัฐบาลให้ได้เร็วๆ”
จากนั้นนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ได้แนะนำว่า หากจะถอน ต้องให้นายอธิรัฐเป็นผู้ขอถอนวาระดังกล่าวออก เพราะเป็นผู้เสนอ นายอธิรัฐจึงได้ขอถอนวาระออกจากที่ประชุม จากนั้นที่ประชุม ครม.ได้พิจารณาวาระต่อ
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า แม้นายอธิรัฐแม้จะเป็นผู้เสนอเรื่องเข้ามา และนายอนุทิน เป็นคนเซ็นให้ผ่านเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ในฐานะรองนายกฯกำกับดูแลกระทรวงคมนาคม แต่ทั้งสองกลับไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไรเลย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การประชุม ครม.วันที่ 14 มี.ค.66 ที่คาดว่า จะเป็นการประชุมนัดสุดท้ายก่อนการยุบสภา โดยเมื่อเป็นรัฐบาลรักษาการจะไม่สามารถอนุมัติงบประมาณ งบประมาณผูกพันและนโยบายสำคัญได้อีก ดังนั้น กระทรวงต่างๆจึงส่งเรื่องเข้ามาพิจารณารวมทั้งวาระพิจารณา วาระเพื่อทราบและวาระพิจารณาจร รวมแล้วมากกว่า 100 วาระ ใช้เวลาในการประชุมร่วม 7 ชั่วโมง และมีการอนุมัติโครงการที่ต้องใช้เงินงบประมาณ การลดภาษี การให้สินเชื่อ และการชดเชยวงเงินให้กับสถาบันการเงิน รวมวงเงินกว่า 173,850 ล้านบาท.-001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี