เช็คอำนาจ‘รักษาการ’-ไทม์ไลน์วันเลือกตั้ง หลัง‘ยุบสภา’รีเซ็ตการเมือง
ประกาศพระราชกฤษฎีกา “ยุบสภา”
...ตามที่สภาผู้แทนราษฎรได้ปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่ พ.ศ.2562 และบัดนี้ได้ปิดสมัยประชุมสามัญประจำปีที่สี่อันเป็นปีสุดท้ายของอายุสภาผู้แทนราษฎรแล้ว สมควรยุบสภาผู้แทนราษฎรเพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่เป็นการเลือกตั้งทั่วไป ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย อันเป็นการคืนอำนาจการตัดสินใจทางการเมืองให้แก่ประชาชนโดยเร็วเพื่อให้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง...
ประกาศวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ.2566
เป็นไปตามคาดคอการเมือง “ยุบสภา” ก่อนวันครบวาระรัฐบาล 3 วัน ในวันที่ 23 มีนาคม และก่อนวันคล้ายวันเกิด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้มีอำนาจ “ยุบสภา” 1 วัน
จากนี้เป็นการ “รีเซ็ต” ระบบใหม่ เพื่อเริ่มต้นนับหนึ่งของวงจรการเมือง
ยุบสภา...เลือกตั้ง...จัดตั้งรัฐบาล...รัฐบาลบริหารประเทศ...ครบวาระ 4 ปี วนกลับไปที่จุดเริ่มต้นคือการ “ยุบสภา” หากไม่มีอุบัติเหตุการเมืองระหว่างทาง
“ไทม์ไลน์” นับจากนี้ ไปสู่ “วันเลือกตั้ง” เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชน
เมื่อประกาศพระราชกฤษฎีกายุบสภาแล้ว ตามกฎหมายคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะต้องกำหนดและประกาศ “วันเลือกตั้ง” ที่มีกรอบระยะเวลาไม่เกิน 45-60 วัน นับจากวันยุบสภา ในส่วนนี้จะไปตกที่เดือนพฤษภาคม โดยคาดว่าอาจเป็น “วันอาทิตย์ที่ 7 หรือ 14 พฤษภาคม 2566”
ขณะเดียวกัน กกต.จะเปิดสมัครรับเลือกตั้ง เป็นระยะเวลา 5 วัน และเมื่อปิดรับสมัครแล้ว นับต่อไปอีกไม่เกิน 7 วัน กกต. จะต้องประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
สำหรับ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเลือกตั้งรวมกันทั้งหมด 100 รายชื่อ จะต้องไม่เกิน 44 ล้านบาท ส่วนส.ส.แบบแบ่งเขต แต่ละคนต้องไม่เกินคนละ 1.9 ล้านบาท
ในส่วนของ ส.ส.เงื่อนไขการ “ย้าย” หรือสมัครพรรคการเมืองเมื่อมีการยุบสภา ต่างจากรัฐบาลอยู่ครบวาระ คือ ยังสามารถขยับเคลื่อนไหวตรงนี้ ก่อนถึงวันเลือกตั้ง 30 หรือนับจากวันเลือกตั้งถอยลงมา 30 วัน ซึ่งจะตกอยู่ในช่วงต้นเดือนเมษายน
ขณะที่นายกรัฐมนตรี รัฐบาล และคณะรัฐมนตรี ยังคงอยู่ในสถานะ “รักษาการ” บริหารต่อไป จนกว่า กกต.จะรับรองผลการเลือกตั้ง ในกรอบระยะเวลาภายใน 60 วัน หลังวันเลือกตั้งคาดว่ารัฐบาลจะยังคงรักษาการอยู่จนถึง “เดือนสิงหาคม”
โดยขอบข่ายอำนาจ “รักษาการ” ตามมาตรา 169 การอนุมัติงบกลางต้องขอ กกต. การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการที่เข้าครม.ต้องขอ กกต.
ส่วนการแต่งตั้งนายพล ตำรวจ ทหาร ซึ่งไม่เข้า ครม.ไม่ต้องขอ กกต. เช่นเดียวกับการแต่งตั้งรัฐวิสาหกิจแม้จะเข้า ครม.แต่ไม่ต้องขอ กกต. แต่ถ้าตั้งผู้บริหารรัฐวิสาหกิจต้องขอ กกต.
จนกว่าจะมี “รัฐบาลใหม่” เมื่อถวายสัตย์ปฏิญาณ
#ทีมข่าวการเมือง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี