‘ชวน’เร่งจัดตารางตระเวนขอคะแนน‘ปาร์ตี้ลิสต์ ปชป.’ คาดล้อหมุนหลังวันได้เบอร์พรรค เห็นใจ‘บิ๊กตู่’ไม่ลงปาร์ตี้ลิสต์ รทสช. ชี้คนที่ไม่ได้ตั้งใจมาเป็นนักการเมืองตั้งแต่ต้นก็ตัดสินใจยาก
เมื่อเวลา 12.55 น.วันที่ 29 มีนาคม 2566 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงแผนการลงพื้นที่เพื่อช่วยหาเสียงให้กับพรรคประชาธิปัตย์ว่า ตนเตรียมจะเดินทางไปหาเสียงทั่วประเทศ โดยตอนนี้ขอใช้เวลาในการจัดตารางอีกเล็กน้อยซึ่งคาดว่า จะเริ่มตระเวนลงพื้นที่ได้หลังจากวันจับสลากหมายเลขผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อในวันที่4เม.ย.นี้ ตนได้แจ้งกับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ให้ทราบถึงแผนการหาเสียงของตนแล้ว และขอให้ช่วยเตรียมรถกระบะให้หนึ่งคัน เพื่อที่จะใช้ในการตระเวนลงพื้นที่ขอคะแนนเสียงในส่วนของบัญชีรายชื่อของพรรค โดยจะไม่ไปวุ่นวายกับผู้สมัครแบบแบ่งเขต ซึ่งในส่วนนั้นพรรคดูแลดีอยู่แล้ว แต่ตนจะไปขอให้ประชาชนช่วยกันมาเลือกผู้สมัครบัญชีรายชื่อของพรรคประชาธิปัตย์เพื่อที่ตนจะได้เป็นส.ส.ด้วย
เมื่อถามว่าในคณะที่จะไปลงพื้นที่จะมีใครร่วมออกตระเวนด้วยบ้าง นายชวนกล่าวว่า คงมีผู้ร่วมคณะกับตน3-4คน โดยขณะนี้กำลังดูอยู่ว่าจะมีใครมาร่วมบ้าง ส่วนวันเร่มออกเดินทางทางหัวหน้าพรรคได้ขอให้มาเริ่มต้นจากที่ทำการพรรคซึ่งจะมีการปล่อยขบวนพร้อมๆกับขบวนอื่นๆ
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ยังยืนยันที่จะเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพียงชื่อเดียว นายชวนกล่าวว่า ปกติพรรคก็เสนอชื่อเดียว อย่างไรก็ตามเรื่องนี้คงต้องถามทางพรรคดีกว่า
เมื่อถามถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์ พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่จะไม่ลงสมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ คิดว่าคนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีควรที่จะต้องเป็นส.ส.หรือไม่ นายชวนกล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องง่าย สำหรับคนที่ไม่ได้ตั้งใจตั้งแต่แรกในการมาทำงานการเมืองเต็มตัวเหมือนกับพวกตน ดังนั้นตนจึงไม่อยากตำหนิ แต่เห็นใจทุกคน และรู้ว่าเวลาที่เขาตัดสินใจ ก็ต้องคิดมากเหมือนกัน และเขาคงมีคณะที่ปรึกษาที่ให้คำแนะนำว่าผลจะเป็นอย่างไร ทั้งนี้ตนเข้าใจและเห็นใจทุกคน แต่พวกเราเป็นคนที่ตัดสินใจมาตั้งแต่ต้นมาเป็นนักการมืองต้องการมาทำงานการเมืองจริงๆจึงไม่กลัวว่าจะแพ้หรือชนะ
เมื่อถามว่าแต่คนที่จะมาเป็นนายกฯก็ควรจะมาจากผู้ที่ประชาชนเลือกโดยตรง นายชวนกล่าวว่า เขาถือโอกาสว่ากฎหมายไม่ได้บังคับ สมัยที่ตนเป็นนายกฯตอนนั้นกฎหมายบังคับว่าคนที่จะเป็นนายกฯต้องเป็นส.ส.ซึ่งตนเป็นนายกรัฐมนตรี2ครั้งก็เป็นนายกฯที่มาจากส.ส.ที่ได้รับการเลือกตั้งจากประชาชน
นายชวน กล่าวว่า อย่างไรก็ตามตนคิดว่าคงไม่สามารถเทียบมาตรฐานกันได้เพราะแต่ละคนคิดในทางการเมืองต่างกัน และมีความตั้งใจว่าจะเข้ามาทำการเมืองเพื่ออะไร ซึ่งตรงนี้แต่ละคนก็คิดแตกต่างกันไป เป็นเรื่องธรรมดาทั้งนี้ตนไม่ขอวิจารณ์ แต่ถ้าเราดูจากตัวอย่างเหตุการณ์ที่ผ่านมาก็จะได้เห็นบางอย่าง สมมุติถ้ารัฐบาลไม่มีคนที่เป็นหลักเราก็จะมีปัญหาเรื่ององค์ประชุม ซึ่งตนได้เคยพูดไว้หลายครั้งว่าเนื่องจากสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ผ่านมานายกฯไม่ได้เป็นส.ส. รวมถึงพรรคที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลก็ไม่ได้อยู่ในสภา ดังนั้นเวลาที่เกิดปัญหาองค์ประชุมก็ไม่รู้จะถามใคร ทั้งนี้ตนเห็นใจคนที่มาทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมเสียง เพราะเวลาที่เขาไปขอร้องส.ส.ก็มีส.ส.หลายคนที่ไม่ค่อยเกรงใจเขา
-005