วันอาทิตย์ ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
‘ภูมิใจไทย’ชูคนไทยคือ‘Soft Power‘ด้าน‘การท่องเที่ยว’ที่ดีที่สุด

‘ภูมิใจไทย’ชูคนไทยคือ‘Soft Power‘ด้าน‘การท่องเที่ยว’ที่ดีที่สุด

วันพฤหัสบดี ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2566, 21.45 น.
Tag : การเมือง ท่องเที่ยว พิพัฒน์ รัชกิจประการ ภูมิใจไทย อนุทิน เลือกตั้ง66
  •  

"รองหัวหน้าภูมิใจไทย"ชูคนไทยคือ"Soft Power"ด้าน"การท่องเที่ยว"ที่ดีที่สุด ดันตั้งเป้าขยายพื้นที่สร้างเขตเศรษฐกิจหัวเมืองใหญ่ รับนักท่องเที่ยว 80 ล้านคนในปี 2570

เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2566 ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ถ.วิภาวดีรังสิต กทม. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้เข้าร่วมเวทีตอบข้อซักถาม “มุมมองของภาคธุรกิจต่อนโยบายขับเคลื่อนประเทศ” โดยหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย โดยนายพิพัฒน์ ได้กล่าวถึงเรื่องของการสนับสนุนผู้ประกอบการรุ่นใหม่ การส่งเสริมจำนวนและคุณภาพของ Start Up และผู้ประกอบการรุ่นใหม่ประเทศไทยให้มีมากขึ้นทัดเทียมคู่แข่งในอาเซียนหรือทั้งเอเชียและทั้งโลก ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในโลกเมื่อเร็วๆ นี้ก็คือ Silicon Valley เป็นแบงค์ที่สนับสนุนเรื่องของ Start Up ในนามของพรรคภูมิใจไทย เรื่องของ Start Up เราต้องทำการส่งเสริม บ่มเพาะ และต่อยอดStart Up และผู้ประกอบการรุ่นใหม่ในประเทศ แต่สิ่งเหล่านี้มาตรการการส่งเสริมเราจะมีมาตรการอย่างไรในการส่งเสริมการลงทุนการทำเรื่องมาตรการทางภาษี ที่สำคัญคือให้ความสำคัญกับแหล่งเงินทุนสำหรับ Start Up ซึ่งปัจจุบันนี้ Start Up ในประเทศไทยมีอยู่มากมาย แต่การที่เราจะเข้าไปถึง Start Up ได้อย่างไร หรือ Start Up จะเข้ามาถึงสถาบันการเงินได้อย่างไร ก่อนที่จะเข้าไปถึงสถาบันการเงินอยากจะขอให้บริษัทต่างๆ ที่เป็นบริษัทใหญ่ๆ ในประเทศไทย ให้พวกเราช่วยกันส่งเสริมและดูแลเรื่องของ Start Up โดยเฉพาะในแต่ละบริษัทในแต่ละ section ของประเทศไทย ต้องการให้มีการจัดการประกวด Start Up ในสิ่งที่พวกเราต้องการในสาขาวิชาอาชีพที่บริษัทนั้นๆ ประกอบการอยู่ นี่คือสิ่งที่จะเป็นการต่อยอดทำให้ Start Up ของประเทศไทยสามารถยืนอยู่ได้โดยไม่ต้องไปทำมาหากิน หรือไปแสวงหาความยั่งยืนความเจริญเติบโตในต่างประเทศ


“การที่เยาวชนไทยต้องออกไป ดิ้นรนไปต่อสู้ในต่างประเทศ ทำให้ประเทศไทยวันนี้ เราขาดแรงงานที่เป็นสกิล เราขาดมันสมอง เราขาดในหลายๆ อย่างที่เป็นสิ่งที่ช่วยให้ประเทศไทยเราสามารถก้าวสู่ความเป็นเลิศ ก้าวสู่ความเป็นยุคสมัยใหม่ได้ เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้ พวกเราคิดว่า ควรจะนำ Start Up ที่มีอยู่ และให้การส่งเสริม และที่สำคัญที่สุดจะต้องติดอาวุธที่ดีที่สุดให้กับ Start Up ก็คือการให้โอกาส และเงินทุนการสนับสนุน โดยเฉพาะรัฐบาลควรจะตั้งกองทุนสำหรับการที่จะพัฒนา Start Up การที่จะทำวิจัยและให้ Start Up มีบทบาทและมีที่สำหรับการที่จะแสดงความสามารถในการออกความคิดเห็นในการคิดสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ“ นายพิพัฒน์ กล่าว

นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า พรรคภูมิใจไทย นโยบายในการขับเคลื่อนประเทศมีการเสนอ 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ดูแลกลุ่มเปราะบาง ด้วยนโยบาย ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ซึ่งตรงนี้การที่จะลดรายจ่าย หรือ เพิ่มรายได้ คือ กองทุนสำหรับผู้สูงวัยอายุ 60 ปีขึ้นไป เมื่อเสียชีวิตจะได้ 100,000 บาท ในขณะที่คุณยังมีชีวิตอยู่ สามารถนำกรมธรรม์ 100,000 บาทตรงนั้นไปกู้ฉุกเฉินเป็นวงเงิน 20,000 บาทได้ เมื่อคุณจากโลกนี้ไปก็สามารถนำไปตัดทอน ส่วนที่ 2 คือ พักหนี้พักดอก 1 ล้านบาท เป็นเวลา 3 ปี โดยไม่มีการเอาดอกไปพอกเป็นต้น เริ่มชำระคือปีที่ 4 ในส่วนที่ 2 ก็คือบริการสาธารณสุข ทางกระทรวงสาธารณสุขนำโดยท่านหัวหน้าพรรค นายอนุทิน ชาญวีรกูล ก็พร้อม นำเสนอเรื่องของศูนย์ฉายมะเร็งทุกจังหวัดฟรี แล้วก็มีการฟอกไต ในทุกอำเภอในทุก รพ.สต. ซึ่งต่อไปคนไทยที่มีปัญหาเรื่องของโรคไต หรือมะเร็ง ก็ไม่จำเป็นต้องเดินทางข้ามไปจังหวัดใหญ่ๆ สามารถดูแลและฟอกไตในรพ.สต. ในอำเภอของตัวเองได้ นั่นก็คือเรื่องการบริการสาธารณสุข สำหรับประเด็นสุดท้าย จะมีการนำรายได้จากการท่องเที่ยวมาพัฒนาประเทศ ซึ่งแน่นอนว่าตามที่สภาพัฒน์ได้กำหนดไว้ว่าในปี 2570 เราควรจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวเป็น 25% ของ GDP ซึ่งจะประมาณการว่า 25% ของ GDP นั้น ประมาณสัก 5.7 ถึง 6 ล้านล้านบาท การที่เราจะทำเรื่องของรายได้จากการท่องเที่ยว คือทำอย่างไรนำการท่องเที่ยว ให้กระจายลงสู่ชุมชนให้ได้

“ประเทศไทยเรามีท้องถิ่นมากมายถึงหลายหมื่นท้องถิ่น เราจะทำอย่างไร ในการกระจาย การท่องเที่ยว ไปสู่ท้องถิ่นต่างๆ นั่นก็คือเราต้องไปรีสกิล อัปสกิล โดยกรมการท่องเที่ยว ไปสอนและแนะนำ แต่ที่สำคัญที่สุด ต้องทำการท่องเที่ยวสู่ชุมชน ในลักษณะของคำว่า BCG  นั่นก็คือเราต้องพยายามโยงทุกสิ่งทุกอย่างเข้าไปสู่ BCG ได้ เป็นการลดโลกร้อน ดูแลเรื่องของความยั่งยืน ดูแลเรื่องของสิ่งแวดล้อม สิ่งเหล่านี้ก็เป็นการพัฒนา“ นายพิพัฒน์ กล่าว

นายพิพัฒน์ กล่าวอีกว่า ประเทศไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่คนทั้งโลกรู้จัก แต่จะให้มีสถานที่เพิ่มในการรับนักท่องเที่ยว ให้ได้ 80 ล้านคนในปี 2570 ได้อย่างไร เราต้องมีการขยายพื้นที่ Property และสิ่งที่สำคัญที่สุดคนไทยเราคือ Soft Power ที่ดีที่สุดสำหรับการท่องเที่ยวในประเทศไทย สำหรับการฟื้นฟู และดึงนักท่องเที่ยวมาสู่ประเทศไทย คือการพัฒนา เขตเศรษฐกิจพิเศษด้านการท่องเที่ยว ถ้าหากพรรคภูมิใจไทยได้กลับไปเป็นรัฐบาล ก็จะนำเรื่องของเขตเศรษฐกิจพิเศษ เรื่องของการท่องเที่ยว ก็คือจังหวัดภูเก็ต เชียงใหม่ ชลบุรี อ.หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เราจะประกาศให้เป็นพื้นที่พิเศษ สำหรับการท่องเที่ยวโดยเฉพาะในเรื่องของฟรีเทรด สิ่งเหล่านี้ เป็นความมุ่งหวัง และเป็นการทำให้นักช้อปปิ้งเกิดความสนใจในประเทศไทย ไม่จำเป็นต้องไปฮ่องกง สิงคโปร์ หรือยุโรป แต่ให้หันกลับมาช้อปปิ้ง ในประเทศไทยได้ นี่คือความมุ่งหวังและสำคัญที่สุด ถ้าหากฟังแล้ว พวกท่านถูกใจ ก็โมเมนท์ที่ใช่ เลือกได้ ไม่ต้องรอ พูดแล้วทำ พรรคภูมิใจไทย” นายพิพัฒน์ กล่าว

- 006

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘ภท.’สู้ไม่ถอย ย้ำเพิกถอน‘เขากระโดง’ ต้องเจอกันที่ศาลเท่านั้น ‘ภท.’สู้ไม่ถอย ย้ำเพิกถอน‘เขากระโดง’ ต้องเจอกันที่ศาลเท่านั้น
  • ‘นิพิฏฐ์’กระตุกสส.-สว.จี้รัฐฟ้องศาลระหว่างประเทศ ‘ฮุน เซน-ฮุน มาเนต’เป็นอาชญากรสงคราม ‘นิพิฏฐ์’กระตุกสส.-สว.จี้รัฐฟ้องศาลระหว่างประเทศ ‘ฮุน เซน-ฮุน มาเนต’เป็นอาชญากรสงคราม
  • ‘อนุทิน’ โพสต์ภาพ \'พริกขี้หนู\' ชาวเน็ตแซวทั้งเผ็ดและร้อน ‘อนุทิน’ โพสต์ภาพ 'พริกขี้หนู' ชาวเน็ตแซวทั้งเผ็ดและร้อน
  • \'ภท.\'เซ็ง\'วันนอร์\'ปิดประชุม หลังได้\'รอง ปธ.สภาฯ คนที่ 1\' อดสะท้อนปัญหาชายแดน 'ภท.'เซ็ง'วันนอร์'ปิดประชุม หลังได้'รอง ปธ.สภาฯ คนที่ 1' อดสะท้อนปัญหาชายแดน
  • แผนล้มมุ้งใหญ่สีน้ำเงินส่อแท้ง! รายชื่อสว.ไม่ครบ 20 คน ถูกปลอมรายชื่อ 2 อีก 1 ขอถอนชื่อ แผนล้มมุ้งใหญ่สีน้ำเงินส่อแท้ง! รายชื่อสว.ไม่ครบ 20 คน ถูกปลอมรายชื่อ 2 อีก 1 ขอถอนชื่อ
  • มวยถูกคู่!! ‘เดชอิศม์’ซัดกลับ‘ศุภชัย’ถามหากพ่อคุณรุกเขากระโดงติดคุก ลูกต้องรับโทษด้วยหรือไม่ มวยถูกคู่!! ‘เดชอิศม์’ซัดกลับ‘ศุภชัย’ถามหากพ่อคุณรุกเขากระโดงติดคุก ลูกต้องรับโทษด้วยหรือไม่
  •  

Breaking News

EOD พบหลุมระเบิดกว่า 824 หลุม ส่วนใหญ่พบในบ้านเรือนปชช.-โรงพยาบาล

'วราวุธ-พม.-ชาวสุพรรณบุรี' น้อมสำนึกพระมหากรุณาธิคุณ'สมเด็จพระพันปี'

'เอกนัฏ'สั่งห้ามตั้งขยายโรงงาน ใช้'สารปรอท'ในการผลิต มีผลบังคับใช้1ก.ย.68

'รัฐบาล'เชิญชวนร่วมงานวันแม่แห่งชาติ พร้อมเลื่อนประชุม ครม.เป็นอังคาร 19 ส.ค.

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved