‘วราวุธ’ย้ำผู้สมัคร ส.ส. 50 เขต แม้น้อยแต่คุณภาพ เผยติวเข้มกฎหมายหวั่นตกม้าตายตอนจบ แนะ กกต.ออกแบบบัตรเลือกตั้งให้จำง่าย ไม่เหนือบ่ากว่าแรงหากใส่โลโก้ อย่าตีตนก่อนไข้ ให้รอศาลปกครองตัดสินปมแบ่งเขตก่อน บอกไม่มีเบอร์ในใจ เลขอะไรก็ได้ แต่ขอ 25 ที่นั่ง เปิดอาวุธลับโกยคะแนนเลือกตั้ง ผ่านไอเดียตั้งสหกรณ์ เชื่อได้ล้านคะแนน
31 มีนาคม 2566 ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กทม. นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมในการเลือกตั้ง ว่า จำนวนผู้สมัคร ส.ส.ที่เรามีและการบ้านที่ได้ทำมาตลอดในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาถือว่าพร้อมเต็มที่ แม้เราจะมีผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตแค่ 50 เขตก็ตาม แต่มั่นใจว่าเป็น 50 เขตที่มีคุณภาพ จะทำให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ คือ ไม่ต่ำกว่า 25 ที่นั่ง
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมใหญ่สามัญพรรค ชทพ.วันเดียวกันนี้ (31 มี.ค.66) ยังได้มีการติวเข้มเรื่องกฎหมายเลือกตั้งให้แก่ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เพราะหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการเลือกตั้ง นอกจากได้เสียงของประชาชนแล้ว การทำบัญชี การทำงานช่วงระหว่างหาเสียง กติกา มารยาทต่างๆ เป็นสิ่งที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะหลายครั้งเห็นผู้สมัครที่ชนะการเลือกตั้งไปแล้วมาตกม้าตายด้วยเรื่องง่ายๆตอนจบ ดังนั้นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคทุกคนจะต้องดำเนินการตามกรอบระเบียบกฎหมายและกติกาที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้วางไว้ทุกประการ ไม่ว่าจะเรื่องการใช้จ่ายเงิน การปฏิบัติหน้าที่ในช่วงหาเสียง จนกระทั่งวันเลือกตั้ง
เมื่อถามถึงกรณีมีการเผยแพร่บัตรเลือกตั้งที่ไม่มีโลโก้พรรคการเมือง มีเพียงมายเลขเท่านั้น นายวราวุธ กล่าวว่า ขอให้รอข้อสรุปก่อนจะดีกว่า แต่อยากฝากข้อสังเกตไปยัง กกต. เพราะทราบว่ามีการสรรหาบุคคลและบริษัทที่จะเข้ามาพิมพ์บัตรเลือกตั้งแล้ว อยากขอให้ทำบัตรเลือกตั้งให้มีความสับสนน้อยที่สุด เนื่องจากกติกาบัตรเลือกตั้งสองใบ เลือกคนหนึ่งใบ เลือกพรรคหนึ่งใบ ด้วยการจำเบอร์และพรรค คิดว่าน่าจะมีความท้าทายสำหรับประชาชนบางกลุ่มพอสมควร ดังนั้น ถ้าจะอำนวยความสะดวกให้ประชาชน เช่น บัตรเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ ถ้ามีสัญลักษณ์หรือชื่อพรรคการเมืองอยู่ด้วยจะทำให้ประชาชนเข้าใจระบบการเลือกตั้งแบบบัตรสองใบมากขึ้น การเอาชื่อและของโลโก้พรรคการเมืองที่มีอยู่ไปในบัตรเลือกตั้งไม่น่าจะเหนือบ่ากว่าแรง ซึ่งการออกแบบเลือกตั้งไม่ว่าจะสีหรือขนาดต่างๆ ของบัตรเลือกตั้งขอให้คำนึงถึงความง่ายในการทำความเข้าใจเวลาเดินเข้าคูหา เพราะแม้แต่ตนเองเวลาเข้าคูหาเลือกตั้งต้องท่องให้ดีว่าจะเอาเบอร์อะไร
เมื่อถามถึงกรณีศาลปกครองนัดพิจารณาเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้งของ กกต. ในวันที่ 7 เม.ย. หวั่นว่าจะกระทบต่อผู้สมัครของพรรค และไทม์ไลน์เลือกตั้งโดยรวมหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า เรื่องที่ยังไม่เกิดอย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้ เอาให้เรื่องเกิดก่อน วันที่ 3 เม.ย.ตนและเลขาธิการพรรคจะเดินทางไปให้กำลังใจผู้สมัคร ส.ส.ที่ จ.สุพรรณบุรี จะไปในทุกๆ เขตของ ชทพ. ส่วนในวันที่ 4 เม.ย. จะเดินทางไปสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ ส่วนเรื่องการตัดสินของศาลปกครองเป็นเรื่องอนาคตไทย แม้จะอีกไม่กี่วัน แต่ยังไม่เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น เอาไว้ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นมา ตนเชื่อว่าไม่ใช่แค่ ชทพ.ที่ได้รับผลกระทบ แต่หน่วยงานราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง ล้วนแล้วแต่ต้องหาทางออกร่วมกัน ถึงวันนั้นเราค่อยพิจารณาจะเหมาะสมกว่า
เมื่อถามว่า ในการจับเบอร์พรรควันที่ 4 เม.ย. อยากได้หมายเลขอะไร นายวราวุธ กล่าวว่า อยากจะได้หมายเลขที่ทำให้เราได้ ส.ส.ไม่ต่ำกว่า 25 คน เพราะเราเคยได้มาเกือบทุกเลขแล้ว เลข 2 ตัวอย่าง 21 ก็ได้มาแล้ว เลข 13 ที่ใครบอกเป็นเลขอันลัคกี้ รวมถึงเลข 9 ซึ่งเป็นวันแรกที่พรรคใช้สีชมพู แม้แต่เลข 1 ยังเคยได้มาแล้ว ดังนั้น ไม่ได้แปลว่าอะไรเลย เราอยากได้เบอร์อะไรก็ได้ แต่เราอยากได้ 25 ที่นั่ง ฝากประชาชนช่วยจำเลข ชทพ. ถ้าจำไม่ได้ ให้จำสีชมพูไว้
ขณะที่นายกนก วงษ์ตระหง่าน เลขานุการและกรรมการ คณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ กล่าวขยายความต่อนโยบายเกษตรกรรายได้สูง ผ่านการสร้างระบบน้ำ เพิ่มแหล่งน้ำบาดาลให้กับเกษตรกร นอกจากนั้นในประเด็นการลดค่าไฟฟ้าเพื่อการเกษตรกร จะทำได้ด้วยการส่งเสริมการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ หรือ โซลาลูปท็อป นอกเหนือจากการส่งเสริมเกษตรกรผ่านพันธุ์ข้าวและปุ๋ยที่มีคุณภาพ ต้องสนับสนุนการวิจัยเพื่อพัฒนา ต่อยอด เพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร
ด้านนายชาติชาย พยุหะนาวีชัย กรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์กล่าวถึงนโยบายเพื่อกลุ่มฐานรากและผู้มีรายได้น้อย คือสร้างอาชีพหลัก สร้างอาชีพเสริม รวมถึงยกระดับชุมชนต้นแบบ สร้างตลาดออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อแต่ละพื้นที่มีแพลตฟอร์มค้าขาย เช่น หนึ่งตำบล หนึ่งแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อนำผลิตภัณฑ์ชุมชนจำหน่ายผ่านทางออนไลน์ เพื่อกระจายพื้นที่การขายจากชุมชน สู่ต่างประเทศ และต่างจังหวัด รวมถึงสร้างช่องทางให้เข้าถึงแหล่งทุนได้ นอกจากนั้นคือ การสร้างความรู้ให้คนฐานราก ผ่านระบบบัญชี การค้า
นายชาติชาย กล่าวถึงประเด็นแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ผ่านนโยบายสหกรณ์ไทย เพื่อขับเคลื่อนประเทศ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และ ลดความเหลื่อมล้ำ ทั้งนี้ ประเทศไทยมี 6,000 สหกรณ์ทั่วประเทศ และสมาชิกกว่า11 ล้านคน และมีคนที่เกี่ยวข้องรวม 33 ล้านคนโดยพบว่ามีเงินหมุนเวียนในสหกรณ์จำนวนมาก ซึ่งสามารถนำมาใช้พัฒนาชุมชนได้ เช่น การตั้งสหกรณ์ร้านค้าชุมชน , สหกรณ์เครื่องจักรกลการเกษตร เมื่อมีรายได้ มีกำไรสามารถปันผลให้สมาชิกได้
นายชาติชาย กล่าวด้วยว่า อาวุธลับของพรรค คือการสร้างสหกรณ์ไทยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยมี พล.ท.วีระ วงศ์สรรค์ ประธานกรรมการ ชุมนุมสหกรณ์อมทรัพย์แห่งประเทศไทย จำกัด ร่วมเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ด้วย ดังนั้นผมเชื่อว่าจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้พรรคได้คะแนนในการเลือกตั้งรอบนี้” นายชาติชาย กล่าว
ขณะที่ พล.ท.วีระ กล่าวว่า ตนมีโยบายที่จะทำให้พรรคชาติไทยพัฒนาเป็นที่รู้จัก ติดปากของคนทุกชุมชนและทั่วประเทศ ผ่านการสร้างสหกรณ์ชุมชน คือ สหกรณ์ร้านค้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้ประชาชนในเป็นสมาชิก โดยจ่ายเงิน 10 - 20 บาท สามารถเป็นสมาชิกได้
“ผมคิดว่าสิ่งที่ทำให้พรรคชาติไทยพัฒนาติดตลาด ติดปากทุกหย่อมหญ้าทำได้ทันที ผมพร้อมช่วย ไม่ต้องแก้กฎหมาย ใน 11 ล้านคนที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ กำลังรอว่าพรรคจะมีนโยบายอย่างไร ออกนโยบายสนับสนุนพัฒนาสหกรณ์ทีมงานของผมจะช่วย เมื่อเขาเห็น รับประกันคะแนนหลักล้านคะแนนจะได้แน่นอน” พล.ท.วีระ กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี