เลือกตั้งครั้งนี้สำคัญต่ออนาคตประเทศไทย กา “ก้าวไกล” เลือกคนใหม่ ตรงไปตรงมา ทำงานคุ้มค่า แก้ปัญหาที่ต้นตอ ไปเปลี่ยนประเทศ

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้าและผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ฝั่งธนบุรีช่วยหาเสียง ปวิตรา จิตตกิจ ผู้สมัคร สส.กรุงเทพฯ เขต 32 (เขตบางกอกใหญ่ เขตบางกอกน้อย เฉพาะแขวงศิริราช เขตภาษีเจริญ เฉพาะแขวงบางจากแขวงบางแวก แขวงคูหาสวรรค์ และแขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตธนบุรี แขวงบางยี่เรือ แขวงหิรัญรูจี และแขวงวัดกัลยาณี เขตตลิ่งชัน แขวงบางเชือกหนัง) เบอร์ 9 และ ธัญธร ธนินวัฒนาธร ผู้สมัคร สส.กรุงเทพฯ เขต 30 (เขตบางแค เฉพาะแขวงหลักสอง แขวงบางแค เขตภาษีเจริญ เฉพาะแขวงบางหว้า แขวงบางด้วน แขวงคลองขวาง) เบอร์ 4 ซึ่งเป็นพื้นที่ใกล้เคียง

โดยเริ่มต้นที่ตลาดนัดวัดท่าพระ พบปะพี่น้องประชาชนหลังกลับจากวันหยุดยาวช่วงเทศกาลสงกรานต์ บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีพี่น้องประชาชนที่มาจับจ่ายใช้สอยบริเวณตลาดท่าพระต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมกับเดินเข้ามาพูดคุยให้กำลังใจผู้สมัคร สส. และธนาธร

จากนั้นนายธนาธรและปวิตราขึ้นรถแห่และเดินตลาดวัดไชยฉิมพลี โดยนายธนาธรปราศรัยชวนพี่น้องประชาชนให้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่14 พฤษภาคม ที่จะถึงนี้ พร้อมย้ำว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เป็นการกำหนดอนาคตประเทศว่าจะเดินไปทิศทางไหน ประเทศไทยมีปัญหามากมาย การจะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ จำเป็นต้องมีพรรคการเมืองที่กล้าปฏิรูปเรื่องยากๆ ซึ่งที่ผ่านมาจากที่ทุกคนได้ติดตามการทำงานของพรรคก้าวไกลในสภาฯ จะเห็นว่าเป็นพรรคที่ทุ่มเททำงาน ทำงานอย่างตรงไปตรงมา และกล้าแก้ปัญหาที่ต้นตอ ครั้งนี้จึงขอโอกาสให้พรรคก้าวไกลเข้าไปเป็นรัฐบาล สร้างการเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต ให้ประชาชนทุกคน

ด้าน พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ผู้สมัครของพรรคก้าวไกลทุกคนทุ่มเทอย่างมากในการลงพื้นที่เมื่อดูจากผลงานในสภาฯ รวมถึงผลงานของพรรคก้าวไกลในภาพรวม เช่น ล่าสุดที่ สก. พรรคก้าวไกลได้ผลักดันข้อบัญญัติรถเมล์อนาคตสำเร็จ ทำให้การเปลี่ยนรถเมล์สันดาปเป็นรถเมล์ไฟฟ้า (EV Bus) จะเกิดขึ้นภายใน 7 ปีก็ยิ่งทำให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าพรรคก้าวไกลสร้างการเปลี่ยนแปลงได้จริงและจะไม่ทำให้ประชาชนผิดหวัง เห็นได้ชัดว่ายิ่งมีการเดินแนะนำตัวผู้สมัคร สส. มากเท่าใดยิ่งได้รับเสียงตอบรับจากพี่น้องประชาชนมากขึ้นเท่านั้น จึงมั่นใจว่าพรรคก้าวไกลจะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนในการเลือกตั้งครั้งนี้