วันเสาร์ ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
‘ชวน’กรีดยับอดีตเพื่อนร่วมพรรค  กลัวแพ้เลยย้ายหนี  พร้อมร่วมสุข-ไม่ร่วมทุกข์ยามตกต่ำ

‘ชวน’กรีดยับอดีตเพื่อนร่วมพรรค กลัวแพ้เลยย้ายหนี พร้อมร่วมสุข-ไม่ร่วมทุกข์ยามตกต่ำ

วันอังคาร ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2566, 06.00 น.
Tag :
  •  

‘ชวน’กรีดยับอดีตเพื่อนร่วมพรรค

กลัวแพ้เลยย้ายหนี

พร้อมร่วมสุข-ไม่ร่วมทุกข์ยามตกต่ำ

นำทัพออกลุยหาเสียงนครปฐม

‘พท.’เสียงแตกยื่นคำชี้แจงกกต.

แหล่งที่มารายได้แจกเงินดิจิทัล

เล็งยกเลิกบัตรคนจนหวั่นซ้ำซ้อน

‘บิ๊กป้อม’ทัวร์รางน้ำมั่นใจศก.ฟื้น

 

“บิ๊กป้อม”ยิ้มสดใสพบปะพูดคุยพ่อค้าแม่ค้าซอยรางน้ำ ให้ความมั่นใจเศรษฐกิจจะดีขึ้นเรื่อยๆ แฟนคลับฮือฮา
รุมขอถ่ายรูปเซลฟี่แน่น พร้อมขอให้เป็นนายกฯคนที่ 30 ด้าน “จุรินทร์” ลุยฝั่งธนบุรี หาเสียงช่วย “แนน ศิริภา” ปราศรัยใหญ่เปิดจุดยืนปชต.ไม่โกงที่วงเวียนใหญ่23 เมษายนนี้ แกนนำปชป.ขนคาราวานบุกอีสาน ยิงตรงนโยบายตอบโจทย์ชาวบ้าน ประชาธิปไตยท้องอิ่ม ทำได้ไวทำได้จริง“พท.”เสียงแตกยื่นแจง กกต.ปมแหล่งที่มารายได้นโยบายแจกเงิน

ดิทิทัล1หมื่นบาท อุบแผน’กู้เงิน’ ไม่แจงกกต.วางแผนยกเลิกบัตรคนจน อ้างโครงการซ้ำซ้อน ‘สุดารัตน์’นำทีมช่วยผู้สมัครฝั่งธนฯ ลั่นเพิ่มจีดีพี7เท่าใน5ปี สร้างรายได้อย่างยั่งยืน‘อนุทิน’กางสวัสดิการเอาใจ‘อสม.-อสส.’จัดหนักกองทุนเงินออมให้ยืม1แสนบาท หวังได้เเรงหนุนกว่าล้านเสียง กลับเข้าไปสานต่องาน สธ.‘ศรีสุวรรณ’ไล่ขยี้เงินดิจิทัลจ่อร้อง’สตง.’


เมื่อเวลา 13.00น.วันที่ 17เมษายน 2566 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เดินทางไปห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านซอยรางน้ำ เพื่อรับประทานอาหารและทักทายสอบถามผู้ประกอบการร้านอาหารถึงการค้าขายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส อย่างอารมณ์ดี โดย พล.อ.ประวิตร สวมกางเกงยีนส์ เสื้อลายดอกสดใสเข้ากับเทศกาลสงกรานต์ พร้อมสวมทับด้วยเสื้อแจ็คเก็ตสีฟ้า รองเท้าผ้าใบสีดำ ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้เดินสอบถามผู้ประกอบการร้านค้า ด้วยความเป็นห่วงเป็นใยและให้กำลังใจ โดยหวังว่า สถานการณ์ต่อจากนี้ไปสภาพเศรษฐกิจการค้าขายจะดีขึ้น มีนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น

‘บิ๊กป้อม’ยิ้มสดใสเยี่ยมพ่อค้าแม่ค้ารางน้ำ

พล.อ.ประวิตร ยังได้แวะเยี่ยมเยียนพูดคุยตามร้านค้าต่างๆ อาทิ ร้านทิพย์สมัย ผัดไทยประตูผี ร้านก๋วยจั๊บฮ่องเต้ ร้านเชียงการีร่า ร้านหนองมน To Table by หญิงชุ ร้านไทยสตรีทฟู๊ด ร้านเผ็ด เผ็ด เฮ่! ร้านหมี่สะปำคุณยายเจียร ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ได้สอบถามพ่อค้าแม่ค้าถึงสภาพการค้าขายในห้วงเวลาที่ผ่านมา ทางพ่อค้าแม่ค้าก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า การค้าขายเริ่มดีขึ้นต่อเนื่องและระหว่างเดินเยี่ยมชมร้านค้าต่างๆ ได้มีแฟนคลับของลุงป้อมและนักท่องเที่ยวที่มารับประทานอาหาร มาขอถ่ายรูปจำนวนมาก ซึ่งลุงป้อมได้ร่วมถ่ายรูปกับบรรดาแฟนคลับ ด้วยความเป็นกันเองโดยมีสีหน้ายิ้มแย้ม โดยก่อนเดินทางกลับได้อวยพรให้บรรดาแฟนคลับประสบความโชคดีในเทศกาลปีใหม่ของไทยด้วย

เล็งเปิดนโยบายชูซอฟพาวเวอร์ไทย

นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ โฆษกคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงควันหลงสงกรานต์ที่เพิ่งปิดฉากลงไปว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและแคนดิเดตนายกฯ พรรคพลังประชารัฐ รู้สึกยินดีที่เทศกาลสงกรานต์ไทยในปีนี้กลับมาคึกคัก กลายเป็นศูนย์รวมพลของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ที่เดินทางเข้ามาเล่นสาดน้ำสงกรานต์ หลังซบเซาจากพิษโควิดมานาน3ปี เทศกาลสงกรานต์จึงถือเป็นซอฟต์ พาวเวอร์ที่มีศักยภาพสูง เป็นเฟสติวัลระดับโลกที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้าไทยจำนวนมาก ปัญหาสำคัญที่ซอฟต์ พาวเวอร์ไทยไม่แพร่หลายไปสู่สากลได้ เพราะขาดการสนับสนุนและส่งเสริมจริงจัง พร้อมประกาศว่า ทันทีที่พรรคพปชร.ได้เป็นรัฐบาลจะดำเนินการส่งเสริมซอฟต์ พาวเวอร์ ซึ่งมีอยู่หลากหลายมิติ ทั้งมวยไทย ผ้าไทย อาหารไทย ภาพยนตร์ไทย และเทศกาลไทย ผ่านกองทุนประชารัฐ 3แสนล้านบาท ที่จะช่วยผลักดันซอฟต์ พาวเวอร์ของไทยให้เกิดขึ้นจริงและเป็นเครื่องยนต์สำคัญในการสร้างรายได้ให้กับประเทศ เพราะเทศกาลแห่งความสนุกสนานนี้ สร้างเงินสะพัดระดับแสนล้านในแต่ละปี ซึ่งจะเป็นตัวทำให้เศรษฐกิจไทยแข่งขันกับเศรษฐกิจโลกได้ เร็วๆ นี้ พรรคพปชร.เตรียมเปิดยุทธศาสตร์หาเสียงเลือกตั้งออกมาสู่สายตาสาธารณชน

‘จุรินทร์’บุกฝั่งธนบุรีช่วย’ศิริภา’หาเสียง

ด้าน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม.ดร.รัชดา ธนาดิเรก นายบุณย์ธีร์ พานิชประไพ ผู้สมัครบัญชีรายชื่อของพรรคประชาธิปัตย์ เบอร์26และนายวิลาศ จันทรพิทักษ์ ผู้สมัครเขตเลือกตั้งที่32 เขตบางกอกน้อย บางกอกใหญ่ ภาษีเจริญ ตลิ่งชัน ธนบุรี เบอร์2 ได้มาช่วยขอเสียงสนับสนุนให้กับ น.ส.ศิริภา อินทรวิเชียร ผู้สมัครเขตเลือกตั้งที่24 เขตธนบุรี คลองสาน ราษฎร์บูรณะ เบอร์11 โดยมี น.ส. รัศมี ทองสิริไพรศรี“ลูกหมี”ซุปเปอร์โมเดล นายสมชาย เต็มไพบูลย์กุล“บ๊วย”สก.เขตคลองสานและอดีตผู้สมัคร สก.รวมถึงผู้สนับสนุนพรรคร่วมกันสักการะอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสิน เนื่องในการครบรอบวันพระราชสมภพของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ซึ่งตรงกับวันที่ 17เมษายนของทุกปี ก่อนเดินทักทายพี่น้องย่านฝั่งธนบุรี ซึ่งพี่น้องประชาชนชาวฝั่งธนส่วนใหญ่ต่างยืนยันว่า เลือกประชาธิปัตย์ เบอร์26 แน่นอน

นายจุรินทร์ ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงกลยุทธ์ในการหาเสียงว่า ประชาธิปัตย์เดินหน้าทุกวันด้วย 3 ทัพ ทั้งทัพหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรคและอดีตหัวหน้าพรรค ทั้งท่านชวน ท่านบัญญัติ ท่านอภิสิทธิ์ ต่างมาช่วยกัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าประชาธิปัตย์สู้ศึกเลือกตั้งครั้งนี้ด้วยความตั้งใจจริงและรวมกันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน “ผมถือโอกาสขอบคุณอดีตหัวหน้าพรรคทั้ง 3 ท่าน ท่านชวน ท่านบัญญัติ ท่านอภิสิทธิ์ และสมาชิกพรรคทุกคนที่ช่วยกันคนละไม้คนละมือ อย่างสุดกำลังความสามารถในการรณรงค์หาเสียงให้กับพรรค สิ่งนี้จะเป็นกำลังใจให้กับผู้สมัครของพรรค เป็นกำลังใจให้พวกเราชาวประชาธิปัตย์ เพื่อเร่งเดินหน้าหาเสียง และเป็นการเพิ่มแรงสนับสนุนจากพี่น้องคนไทยทั้งประเทศด้วย” นายจุรินทร์ กล่าวและว่า

สำหรับกรุงเทพมหานคร แม้การเลือกตั้งคราวที่แล้วประชาธิปัตย์ไม่มีที่นั่ง ส.ส. เลย แต่พวกเราไม่เคยทิ้งพื้นที่ ทั้งกรรมการบริหารพรรค ตัวแทน และผู้สมัครของพรรค ต่างลงพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นคะแนนสะสมที่เชื่อว่าพี่น้องชาวกรุงเทพฯ เห็นประชาธิปัตย์อยู่ในสายตามาตลอดระยะเวลา 4 ปีเต็ม และประชาธิปัตย์เราก็ไม่เคยลืม ไม่เคยทิ้งพี่น้องชาว กทม.แม้เราไม่มีผู้แทนเลย เชื่อว่าในการเลือกตั้งที่จะมาถึง พี่น้อง กทม.จะให้โอกาสประชาธิปัตย์ เบอร์26 มากขึ้น

23เมษายนเปิดนโยบายปชต.ไม่โกง

ผู้สื่อข่าวถามถึงการรับมือกับกระแสทางการเมือง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่จะนำพาให้พรรคประชาธิปัตย์ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งครั้งนี้นั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า เรื่องนี้มี 2ด้าน ตนอยากให้ชาว กทม.ได้พิจารณาว่าพรรคการเมืองใด และผู้สมัครของพรรคการเมืองใด มีความจริงใจกับพี่น้องชาวกรุงเทพฯ ซึ่งเรื่องนี้ประชาธิปัตย์ไม่แพ้ใคร พวกเราทำงานอย่างต่อเนื่องมาตลอด4ปีเต็ม โดยเฉพาะช่วงโควิด พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองหนึ่งในไม่กี่พรรคที่มีศูนย์ ศปฉ.ปชป.เพื่อช่วยจัดหาเตียง ได้ถึง 5-6พันเตียง และยังมีข้าวกล่องดีลิเวอรี่ ส่งตรงถึงบ้านยามประเทศล็อคดาวน์ รวมถึงถุงน้ำใจ ปชป.ที่ทำมาต่อเนื่อง ประชาธิปัตย์จะมีการจัดปราศรัยใหญ่ในกรุงเทพมหานครทั้งหมด 3ครั้ง โดยการปราศรัยใหญ่ครั้งที่2 จะจัดขึ้นบริเวณวงเวียนใหญ่ ในวันที่ 23เม.ย.นี้ ประชาธิปัตย์ได้ประกาศจุดยืนที่ชัดเจนว่า ทางรอดของประเทศถัดจากนี้ต้องเป็นประชาธิปไตยเต็มใบเท่านั้น ถ้าครึ่งใบอยู่อย่างนี้ก็จะเจอแรงเสียดทานไม่มีทางจบสิ้น และเป็นอุปสรรคในการบริหารราชการแผ่นดิน ดังนั้นประชาธิปไตยเต็มใบจะเป็นทิศทางชัดเจนที่จะพาประเทศเดินไปข้างหน้า ซึ่งประชาธิปไตยอย่างเดียวไม่พอ ต้องเป็นประชาธิปไตยไม่โกงด้วย’ นายจุรินทร์ กล่าว

แกนนำขนคาราวานบุกภาคอีสาน

เวลา 1200น.ที่ จ.อุบลราชธานี นายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมด้วย คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช นายไชยยศ จิรเมธากร รองหัวหน้าพรรคดูแลพื้นที่ภาคอีสาน น.ส.จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร รองเลขาธิการพรรคและนายภูมิสรรค์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา ที่ปรึกษาคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ภาคอีสาน และผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อ ร่วมเปิดศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง เขต 2 อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี ของ นายวุฒิพงษ์ นามบุตร ผู้สมัคร สส.อุบลราชธานี เขต2 เบอร์4และศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง เขต 3 อ.ม่วงสามสิบ ของ นายศุภชัย ศรีหล้า ผู้สมัคร สส.อุบลฯเขต3 เบอร์2 มีพี่น้องประชาชนในพื้นที่ร่วมงานคับคั่ง โดย นายบัญญัติ กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า จุดแข็งของ ปชป.คือ เราเป็นสถาบันพรรคการเมือง ข้อ 2.คือ มีอุดมการณ์ มีความซื่อสัตย์สุจริต มีความจริงจังต่อการแก้ปัญหาให้กับชาติบ้านเมืองและประชาชน และจุดแข็งข้อ 3คือ ผลงานรัฐมนตรีของ ปชป.อาทิ นโยบายประกันรายได้ช่วยประคับประคองเกษตรกรให้ลืมตาอ้าปากได้ ในช่วงเศรษฐกิจของประเทศตกต่ำจากวิกฤตโควิด-19 พิสูจน์ได้จากยอดส่งออก ตนจึงมั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งนี้พรรค ปชป.จะไม่ผิดหวัง ขอย้ำว่าแม้จะมีคนออกไปจากพรรคไป แต่เราก็ยังมีคนไหลกลับเข้ามาอีกเป็นจำนวนมาก

ปชต.แบบท้องอิ่ม/ทำได้ไว-ทำได้จริง

ขณะที่ น.ส.จิตภัสร์ กล่าวว่า ผลสำรวจความคิดเห็นของพี่น้องประชาชนผ่านจากอีสานโพล พบว่านโยบายเศรษฐกิจที่ใช่ของคนอีสาน พรรคปชปได้ความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากนโยบายเรียนฟรีจนจบปริญญาตรีและโดยเฉพาะนโยบายประกันรายได้เกษตรกร พรรคได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า สามารถทำได้ไว ทำได้จริง จนเป็นที่ถูกใจของพี่น้องเกษตรกรทั่วประเทศ ซึ่งตอบโจทย์ประชาธิปไตยท้องอิ่ม โดยมั่นใจว่าพรรค ปชป.จะยังอยู่ในใจของพี่น้องชาวอีสานเสมอมา ในการเลือกตั้ง 14 พฤษภาคมนี้ ขอให้พี่น้องเทคะแนนเสียงเข้าคูหากาให้พรรค ปชป.เบอร์26 เลือกทั้งพรรค เลือกทั้งคนของ

‘ชวน’กรีดอดีตเพื่อนร่วมสุขไม่ร่วมทุกข์

ที่องค์พระปฐมเจดีย์ วัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร อ.เมือง จ.นครปฐม นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมาช่วยนายฐานุพงศ์ รังสิไตรพงศ์ หรือโจ๊ย นครปฐม อดีตดาราดัง “ขุนช้าง”ผู้สมัครหมายเลข7 พรรคประชาธิปัตย์ นครปฐม เขต2 เพื่อตอกย้ำตัวบุคคล ที่มีอัตลักษณ์ชอบช่วยเหลือผู้ด้อยกว่าและนำเสนอนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ให้แก่พี่น้องประชาชนเขต 2 โดยเฉพาะพื้นที่ไข่แดง เทศบาลนครนครปฐม ที่เดิมประชาธิปัตย์เคยปักธง สส.เขตนี้ เมื่อปี2562 นายชวน กล่าวว่า ที่ผ่านมาเขตนี้เป็นของผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ แต่ในคราวนี้ เขาได้ย้ายไปจากประชาธิปัตย์แล้ว เขาเป็นคนดีแต่ยามที่พรรคมีปัญหา เขาไม่อดทน ไม่พร้อมที่จะสู้ไปกับเรา ยามสุขอยู่ด้วยกัน ยามทุกข์ย้ายไป แต่ก็ยังเสียดายเพราะความที่กลัวจะแพ้ พร้อมที่จะร่วมเป็น ไม่พร้อมที่จะร่วมตายในยามที่พรรคตกต่ำ ผมเองก็ว่าจะพอแล้ว แต่เมื่อโพลหลายแห่งบอกว่าประชาธิปัตย์ตกต่ำ ผมจึงต้องอยู่กับพรรค มาช่วยกัน วันนี้จ.นครปฐม เขต 2 นี้พรรคประชาธิปัตย์ได้ ฐานุพงศ์ รังสิไตรพงศ์ หรือโจ๊ย มาลงสมัครรับเลือกตั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายฐานุพงศ์ รังสิไตรพงศ์ หรือโจ๊ยนครปฐม ตัวตึงนครปฐมอีก 1คน และเป็นสายตรง เฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ที่นายเฉลิมชัยและพรรค ส่งมาเรียกคะแนนหวังปักธงอีกสมัย ขณะที่ นายชวน ก่อนกลับยังกระซิบบอก’โจ๊ย เดินไป เดี๋ยวผมหาเวลามาซ้ำให้อีกรอบ’

‘พท.’เสียงแตกที่มารายได้แจกเงินดิทิทัล

รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทย (พท.) แจ้งว่า จากกรณี กกต.ขอให้ชี้แจงเกี่ยวกับการใช้งบประมาณนโยบายหาเสียงของพรรค ซึ่งยังขาดเรื่องข้อมูลการแจ้งที่มาของเงินและวงเงินที่จะใช้ โดยเฉพาะนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000บาท ให้กับผู้มีอายุ 16ปีขึ้นไป ซึ่งมีประชาชนอยู่ในเกณฑ์ดังกล่าวกว่า 50ล้านคน ใช้งบประมาณกว่า 5แสนล้านบาท โดย นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค และประธานคณะทำงานด้านกฎหมายพรรคเพื่อไทย ได้หารือกับทีมเศรษฐกิจพรรคได้ข้อสรุปเกี่ยวกับแนวทางนโยบายและที่มางบประมาณ เพื่อส่งคำชี้แจงต่อ กกต.ในวันที่ 17เม.ย.อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ทีมกฎหมายและทีมเศรษฐกิจ มีความเห็นคนละทิศทางกัน โดยทีมกฎหมายแนะนำให้ชี้แจงที่มาของงบประมาณให้ชัดเจน เพื่อให้ กกต.สิ้นข้อสงสัย ไม่เช่นนั้นอาจจะสุ่มเสี่ยงกระทำผิดกฎหมาย และจะส่งผลเสียถึงขั้นยุบพรรคเพื่อไทยได้ในภายหลัง โดยเฉพาะประเด็นการเก็บภาษีจะมาจากภาษีชนิดใดบ้าง อาทิ ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) หากจะเก็บเพิ่มจากเดิม ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ7เป็นร้อยละเท่าไร เพื่อให้มีรายได้มาดำเนินการนโยบายดังกล่าว แต่มีการทักท้วงกันภายใน จึงอาจจะไม่ระบุการจัดเก็บภาษีเพิ่มเติมในคำชี้แจง” แหล่งข่าว ระบุ

อาจต้องกู้เงินนำมาแจกซ้ำรอยรบ.’บิ๊กตู่’

แหล่งข่าวระบุว่าอีกว่า สำหรับงบประมาณปี2567 ซึ่งหลังจากที่หักงบประจำ งบผูกพัน และงบใช้จ่ายหนี้เงินกู้ จะเหลือให้ดำเนินโครงการใดได้ประมาณ 2แสนล้านบาท โดยทีมเศรษฐกิจพรรคเสนอให้หั่นงบประมาณของกระทรวงต่างๆ ซึ่งคาดหวังว่าจะรีดได้มากสุด 1แสนล้านบาท แต่คาดว่าหลายกระทรวงอาจจะไม่ยินยอม แตกต่างจากช่วงโควิดที่หลายกระทรวงพร้อมใจให้หั่นงบของกระทรวงลง ทั้งนี้ เมื่อมีเงินเหลืออยู่จากงบประมาณปี2567 ประมาณ 2แสนล้านบาท คาดว่าจะเก็บภาษีเพิ่มได้อีก 5หมื่นล้านบาท และหั่นงบกระทรวงกว่า 1แสนล้านบาท ทำให้มีงบประมาณ 3.5แสนล้านบาท ซึ่งยังไม่เพียงพอ ทำให้มีการเสนอให้ชี้แจงต่อ กกต.ว่า อาจจะกู้เงินบางส่วน เพื่อนำมาดำเนินโครงการดังกล่าว แต่ทีมกฎหมายได้ทักท้วง เพราะอาจจะส่งผลกระทรวงทางกฎหมายอย่างใดอย่างหนึ่งได้ ทำให้เกิดความเห็นขัดแย้งกันเอง มีข้อกังวลว่าหากระบุไปว่าอาจจะต้องกู้เงินบางส่วนในคำชี้แจงและหาก กกต.ออกมาเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว จะส่งผลลบต่อคะแนนเสียงของพรรคทันที เพราะที่ผ่านมาแกนนำพรรคโจมตีรัฐบาลมาตลอดว่า กู้มาแจก และเหตุผลในการกู้เงินมาดำเนินการโครงการประชานิยม จะทำให้คู่แข่งมีช่องโจมตีได้” แหล่งข่าว ระบุ

จ้องยกเลิกบัตรคนจน-คะแนนหายแน่

แหล่งข่าวระบุต่อว่า นอกจากนี้มีข้อถกเถียงว่า ในคำชี้แจงต่อ กกต.จะระบุให้ชัดเลยหรือไม่ว่า หากพรรคดำเนินนโยบายแจกเงินดิจิทัล ต้องยกเลิกโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเลยหรือไม่ เพราะหากดำเนินการควบคู่กัน จะเป็นภาระงบประมาณที่สูงขึ้นไปอีก แต่หากระบุชัดว่า จะยกเลิกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เนื่องจากมีผู้ผ่านเกณฑ์รอบใหม่กว่า 14ล้านคนและอยู่ระหว่างอุทธรณ์สิทธิหลายล้านคน ซึ่งจะทำให้เสียคะแนนในฐานนี้ได้ ทีมกฎหมายและทีมเศรษฐกิจ จึงพยายามประวิงเวลาชี้แจงกรณีดังกล่าวกับ กกต.

‘สุดารัตน์’ลุยธนฯเพิ่มจีดีพี7เท่าใน5ปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 18.00น.วันที่ 16เมษายนที่ผ่านมา คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) พร้อมด้วยน้องจินนี่ ยศสุดา ลีลาปัญญาเลิศ และผู้สมัคร ส.ส.ฝั่งธนฯ เดินทางด้วยรถแดงสองแถวมายังเวทีปราศัย “กู้ฝั่งธน” ที่บริเวณ BTS บางพลัด เขตบางพลัด กทม.เพื่อแนะนำและช่วยหาเสียง “นายณัฐวัฒน์ พอใช้ได้”ผู้สมัครสส.เขต33 เบอร์12และเปิดนโยบายพรรค โดยพี่น้องชาวบางพลัดให้การต้อนรับอย่างล้นหลามจนเต็มพื้นที่

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า ที่ผ่านมาคนไทยสูญเสียโอกาสมานานหลายปี ดังนั้น ภารกิจการสร้างพรรคไทยสร้างไทย เพื่อให้เป็นพรรคของคนตัวเล็กทุกคน ไทยสร้างไทย เราขอดูแลคนไทยตั้งแต่เกิดจนแก่ ให้อยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรีและมีความมั่นคง ตั้งแต่เด็กแรกเกิด คลอดรับทันที 3,000 บาท, เรียนฟรีจนจบปริญญาตรี, สุขภาพดีด้วยโครงการ 30 บาทพลัส, บำนาญประชาชนเดือนละ 3,000 บาทและสลากการออมแห่งชาติ หรือหวยบำเหน็จ เพื่อทำให้คนไทยหายจน หมดหนี้ มีรายได้อย่างยั่งยืนภายใน 3ปี ไทยสร้างไทย เราคิดอย่างเป็นระบบ เพื่อดูแลคนทุกช่วงวัย โดยเฉพาะโครงการบำนาญประชาชนเดือนละ3,000บาท จะให้ผู้สูงอายุทั้งประเทศจำนวน 10-11ล้านคน จำนวนเงินปีละ 360,000 ล้านบาท ทำให้ GDP เพิ่มขึ้นในเวลา 5 ปี สูงถึง 1,800,000ล้านบาท ถึง 2,520,000ล้านบาท GDP ของประเทศจะเพิ่มขึ้น 5-7เท่า ในเวลา 5ปี ไม่ใช่มาทำนโยบายประชานิยม แจกเงิน 10,000 บาท เพื่อหวังคะแนนนิยม เหมือนพรรคการเมืองอื่น แต่ไทยสร้างไทยจะใช้เงินสร้างคน จ้างงาน ลดความเครียด ความเสี่ยง แต่ละช่วงวัย เติมความรู้ ทักษะ เติมโอกาส ใช้เทคโนโลยีของระบบดิจิทัล อำนวยความสะดวก สร้างพลัง ประชาชนต้องไม่หลงเชื่อหรือเป็นเหยื่อของการชักจูง เพื่อให้พรรคบางพรรคได้อำนาจและพาประเทศไปเสียหายยิ่งกว่าเดิม

‘ภท.’จัดกองทุนให้ยืม1แสน‘อสม.-อสส.’

ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เป็นประธานการแถลงนโยบายการพัฒนา และสวัสดิการอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร (อสส.) พร้อมด้วย น.ส.เรวดี รัศมิทัตและนายจำรัส คำรอด ผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภท.ร่วมแถลงด้วย โดยมี อสม.และอสม. เข้าร่วมรับฟัง นายอนุทิน กล่าวตอนหนึ่งว่า สมัยที่ตนเป็นรมช.สาธารณสุข ตนไม่รู้จัก อสม.แต่พอได้ออกไปปฏิบัติหน้าที่นอกกระทรวงได้พบเห็นได้รับการซึมซับ อสม.จนเข้าใจว่า คือฟันเฟืองสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดความเรียบร้อย เมื่อโควิด -19 เข้ามายิ่งทำให้มีความใกล้ชิด อสม.ทำให้เรากล้าแสดงให้คนทั้งประเทศได้เห็นความสำคัญของอสม.และส่วนตัวได้สมัครเป็น อสม.ด้วย ที่ ต.อิสาน อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งน่าจะเป็นหัวหน้าพรรคเพียงคนเดียวที่เป็น อสม.

‘ช่วงโควิดคนมีความศรัทธาอสม.ทุกอย่างเกิดจากการกระทำ เกิดจากความเสียสละของพวกท่าน ถือเป็นระบบเดียวที่สาธารณสุขไทยมี แต่สาธารณสุขทั่วโลกไม่มี พรรคภูมิใจไทยลงเลือกตั้งครั้งนี้ ยังมีอีกหลายอย่างที่ระบบสาธารณสุขไทยต้องมีมากขึ้น ผมคิดว่าพรรคภูมิใจไทยโชคดีมีคนที่เป็น อสม.เป็นถึงประธานชมรมอสม.มาเป็นตัวแทนของพรรค ผมหวังว่าท่านจะให้พรรคการเมืองนี้ ได้ต่อยอดดูแลทำประโยชน์ให้พี่น้องอสม.เพื่อที่สิ่งดีๆจะได้สะท้อนกลับไปยังประชาชน หากจะมีอสม.เป็นส.ส.สักคนในสภาผู้แทนราษฎร ผมคิดว่ามีความหมายและสำคัญอย่างยิ่งต่อพี่น้องอสม.เพื่อที่เขาจะได้ช่วยเข้าไปเป็นปากเป็นเสียงให้ อสม.ถ้าพี่น้อง อสม.1ล้านคน เลือกพรรคภท.ทั้งหมด ผมไม่ต้องหาเสียงแล้ว ซึ่งภูมิใจไทยน่าจะเป็นพรรคที่สื่อสารกับพี่น้อง อสม.ได้ใกล้ชิดที่สุด” นายอนุทิน กล่าว

ไม่ต้องออกเงินสกุลใหม่-งบของอสม.

นายอนุทิน กล่าวถึงนโยบายการพัฒนาและสวัสดิการ อสม.และอสส.ว่า จะเสนอกฎหมายจัดตั้ง “สถาบันอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งชาติ เพื่อส่งเสริมสุขภาพภาคประชาชน”โดยใช้งบประมาณจากภาษีบาป,ค่าตอบแทน อสม.2,000บาท,เจ็บป่วยมีประกัน,เจ็บป่วยมีห้องพิเศษฟรี ค่าอาหารฟรี (โรงพยาบาลในสังกัด สธ.) ใช้บัตรสมาร์ทการ์ด อสม.และอสส.ยื่นใช้สิทธิ, เงินฌาปนกิจสงเคราะห์อสม.แห่งประเทศไทย เสียชีวิตได้ 500,000บาท, เงินยืมอสม.และอสส.ปลอดดอกเบี้ยคนละ100,000บาท ผ่านกองทุนเงินออม อสม.และอสส.และจัดตั้งกองทุนเงินออม อสม.และอสส.โดยเงินทุนมาจาก อสม.ส่งเงินเข้ากองทุน 100บาทต่อเดือน รัฐบาลส่งเงินเข้ากองทุน100บาทต่อเดือน เงินนโยบายเกี่ยวกับ อสม.เป็นเงินที่หมุนเวียนในระบบกองทุนของ อสม.ไม่ต้องไปตั้งสกุลเงินใหม่ แต่เงินจะหมุนเวียนอยู่ในระบบ อสม.ไม่ต้องใช้งบประเทศ

เชื่อโพลตัวเอง- ไม่ปฏิเสธคว้าสส.3หลัก

นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงผลโพลสำนักต่างๆที่ออกมาในช่วงนี้ว่า เราดูหลายๆโพล เรามีความมั่นใจในความนิยมของพรรคภูมิใจไทย แต่เราก็ไม่ได้มองข้าม ก็ลองไปดู ส่วนการเคลื่อนไหวของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่ออกมาคัดค้านนโยบายต่างๆของพรรคภูมิใจไทย ก็ไม่ได้สร้างผบกระทบต่อพรรค ขณะเดียวกัน กลับทำให้ความแข็งแรงของผู้สมัครสส.ในแต่ละพื้นที่เพิ่มมากขึ้น เพราะก่อนเกิดกรณี นายชูวิทย์ เราคาดว่าจะได้ส.ส.จำนวนหนึ่ง แต่พอมีเรื่องขึ้นมา คิดว่าจะได้ส.ส.เพิ่มมากขึ้น

‘ไม่มีโพลไหนสู้โพลของผมได้หรอก ผมเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยก็ทำโพลของตัวเอง เชื่อมั้ยว่าตรงเป๊ะที่สุดเลย อย่างคราวที่แล้วผมคาดว่าจะได้ส.ส.52คน แต่เข้ามาได้51คน อย่างในสมัยที่ตัวเองยังเด็กๆอยู่ คิดว่าจะได้ส.ส.เข้ามา22คน ก็เข้ามา22คน ผมเชื่อตัวเอง” นายอนุทิน กล่าว เมื่อถามว่า โพลนายอนุทิน จะได้ส.ส.ถึง3หลักหรือไม่ หัวหน้าพรรค ภท.กล่าวว่า ไม่ขอปฏิเสธ ตนจะขอทำหน้าที่อย่างดีที่สุด แต่จะมองข้ามประชาชนไม่ได้ เพราะเขาเป็นผู้ตัดสินใจ เมื่อถามว่า มีนักวิชาการระบุว่า พรรคภูมิใจไทย จะเป็นตัวแปรหรือเป็นผู้กำหนดโฉมหน้ารัฐบาล นายอนุทิน กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับจำนวนส.ส.ที่ประชาชนจะมอบให้ คงต้องรอให้ถึงคืนวันที่14พ.ค.นี้ ค่อยมาตอบคำถามนี้

‘ศรีสุวรรณ’ไล่ขยี้เงินดิจิทัลจ่อร้อง’สตง.’

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า วันที่ 18เม.ย. 66 เวลา 10.00น.จะยื่นคำร้องต่อผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ณ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ซ.อารีย์ ถ.พระราม6 พญาไท เพื่อขอให้ปฏิบัติหน้าที่และใช้อำนาจตาม มาตรา 244 แห่งรัฐธรรมนูญ 2560 ประกอบ มาตรา 6 มาตรา 7 มาตรา 8 มาตรา 53 มาตรา 54 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.2561 เพื่อตรวจสอบว่า นโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองที่จะแจกเงินดิจิทัลให้กับคนไทยที่มีอายุ 16ปีขึ้นไปทุกคนนั้น เสี่ยงต่อการทำลายระบบวินัยการเงินการคลังของรัฐตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ และอาจทำให้การเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรมหรือไม่ หากพบว่ามีความเสี่ยงให้ดำเนินการแจ้งต่อ กกต.,คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.)และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งระงับหรือยับยั้งความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นแก่การเงินการคลังของรัฐโดยเร็ว

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘สว.ตัวตึง’โวยงบช่วยเหลือภัยสงคราม 100 ล้าน มีแต่‘หนังสือสั่งการ’ไร้ตัวเงิน ‘อบจ.’ใกล้ถังแตก ‘สว.ตัวตึง’โวยงบช่วยเหลือภัยสงคราม 100 ล้าน มีแต่‘หนังสือสั่งการ’ไร้ตัวเงิน ‘อบจ.’ใกล้ถังแตก
  • ‘กกต.’ยกคำร้อง‘สว.ระดับประเทศ’ ให้ช่วยหาคะแนน แลกเก้าอี้‘ผู้เชี่ยวชาญ’ ‘กกต.’ยกคำร้อง‘สว.ระดับประเทศ’ ให้ช่วยหาคะแนน แลกเก้าอี้‘ผู้เชี่ยวชาญ’
  • ‘พล.อ.ณัฐพล’รับเงื่อนไขกัมพูชา ให้‘สหรัฐ-จีน’ส่งผู้สังเกตการณ์ประชุมจีบีซีเฉพาะ 7 ส.ค. ‘พล.อ.ณัฐพล’รับเงื่อนไขกัมพูชา ให้‘สหรัฐ-จีน’ส่งผู้สังเกตการณ์ประชุมจีบีซีเฉพาะ 7 ส.ค.
  • มวลชนรวมพลังแผ่นดิน เกาะติดแกนนำปราศรัย ที่อนุสาวรีย์ชัยฯ (ประมวลภาพ) มวลชนรวมพลังแผ่นดิน เกาะติดแกนนำปราศรัย ที่อนุสาวรีย์ชัยฯ (ประมวลภาพ)
  • \'สมศักดิ์\'  สั่งการ สธ. ให้เกาะติดน้ำท่วม \'สุโขทัย\' เผยน้ำมีแนวโน้มลดลง 'สมศักดิ์' สั่งการ สธ. ให้เกาะติดน้ำท่วม 'สุโขทัย' เผยน้ำมีแนวโน้มลดลง
  • รัฐบาลจัดไว้อาลัย ปชช.ผู้บริสุทธิ์ เหตุเขมรยิงBM-21 เข้าใส่พลเมืองไทย รัฐบาลจัดไว้อาลัย ปชช.ผู้บริสุทธิ์ เหตุเขมรยิงBM-21 เข้าใส่พลเมืองไทย
  •  

Breaking News

‘ยิปซีพยากรณ์’ดวงรายวัน วันเสาร์ที่ 2 สิงหาคม 2568

‘สว.ตัวตึง’โวยงบช่วยเหลือภัยสงคราม 100 ล้าน มีแต่‘หนังสือสั่งการ’ไร้ตัวเงิน ‘อบจ.’ใกล้ถังแตก

ตร.เชียงรายดักรวบ! ‘คู่หูไทย-ลาว’ ขนเฮโรอีน60กิโลกรัม-คารถทัวร์มุ่งหน้าเข้ากรุง

‘กกต.’ยกคำร้อง‘สว.ระดับประเทศ’ ให้ช่วยหาคะแนน แลกเก้าอี้‘ผู้เชี่ยวชาญ’

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved