พปชร. ชูนโยบายลดค่าไฟภาคครัวเรือน เหลือ 2.50 บาทต่อหน่วย ภาคอุตสาหกรรม 2.70 บาทต่อหน่วย
วันที่ 18 เมษายน 2566 เวลา 16.45 น. ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ กรรมการยุทธศาสตร์พรรค พปชร. แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค พปชร. ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมมีมติให้เสนอนโยบายการลดราคาค่าไฟฟ้าภาคครัวเรือน เหลือ 2.50 บาทต่อหน่วย และโรงงานอุตสาหกรรม เหลือ 2.70 บาทต่อหน่วย โดยใช้แนวทางจากการปรับเปลี่ยนสัญญาสัมปทานผลิตก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย เป็นสัญญาแบ่งปันผลผลิต เพื่อทำให้ราคาก๊าซธรรมชาติปรับลง และสามารถลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าได้กว่า 50% โดยคิดจากฐานค่าไฟฟ้าปัจจุบันที่ 4.77 บาทต่อหน่วย รวมทั้งเสนอให้ปรับโครงสร้างพลังงานไฟฟ้า โดยใช้วิธีการพักชำระหนี้ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่มีมูลค่าประเมิน 1.5 แสนล้านบาท เป็นเวลา 1 ปี โดยรัฐจะการันตีอัตราดอกเบี้ยให้กับ กฟผ. และขอให้ลดการคิดค่าไฟฟ้าผันแปร (เอฟที) ที่ 0.9827 บาทต่อหน่วย โดยการใช้มติของคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างไรก็ตาม หากไม่ดำเนินการค่าไฟฟ้า อีก 4 เดือนข้างหน้าค่าไฟฟ้าอาจจะขึ้นไปเป็น 5-6 บาท จะส่งผลต่อภาคอุตสาหกรรม เกิดการย้ายฐานการผลิตออกจากประเทศไทย เนื่องจากต้นทุนค่าพลังงานของไทยสูง หากเลือกพรรค พปชร. ให้มาเป็นรัฐบาลจะช่วยให้ภาคอุตสาหกรรมสามารถคำนวณต้นทุนได้มีความแน่นอนมากขึ้น
“การดำเนินการครั้งนี้ไม่ได้เอื้อกลุ่มทุนใดๆ ทั้งสิ้น จะทำให้ราคาค่าไฟฟ้าของไทยถูกลงกว่าค่าไฟฟ้าของประเทศอื่นๆ ในอาเซียน ซึ่งหาก พปชร.ได้เป็นรัฐบาล หลังจากลดค่าไฟฟ้าแล้วจะมีการตั้งคณะกรรมการที่มาจากทุกส่วน ทั้งเอ็นจีโอ เอกชน ข้าราชการมาตรวจสอบ และรายงานข้อมูลต่อประชาชนเพื่อแสดงความโปร่งใสในการปรับโครงสร้างพลังงานครั้งใหญ่ ครั้งสำคัญของประเทศ เพื่อดูแลประชาชนได้อย่างแท้จริง ไม่ว่ารวยหรือจน นักธุรกิจพันล้านหรือชาวบ้านเราจะดูแลทั้งหมด” นายมิ่งขวัญ กล่าว
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี