"เศรษฐา"นำทักเพื่อไทย เยือนบางแค ช่วยผู้สมัครส.ส.ฝั่งธนฯ ลั่นเปลี่ยนขั้วอำนาจต้องเลือกเพื่อไทยย้ำเลือกพรรคอื่นได้ ‘บิ๊กตู่’ คนเดิม  ขณะที่“ณัฐวุฒิ” ประกาศชัดรัฐบาลเพื่อไทย พร้อมผลักดันคดีคนเสื้อแดงที่คั่งค้าง ใช้สภาแก้พระราชบัญญัติ ป.ป.ช. ม.49 และ ม.58 ให้ประชาชนผู้เสียหาย สามารถฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ ลากฆาตกรเข้าคุกได้โดยตรง

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 3 พ.ค. 66ที่ลานตรงข้ามตลาดบางแค (ห้างองค์วิศิษฐ์เดิม) เขตบางแค พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดปราศรัยช่วยผู้สมัครส.ส.กทม.ฝั่งธนบุรี หาเสียง อาทิ นายศิลปวิชญ์ น้อยสมมิตร ผู้สมัครส.ส.คลองสาน ธนบุรี นายวัน อยู่บำรุง ผู้สมัครส.ส. เขตหนองแขม บางบอน นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่ปรึกษาคณะกรรมการยุทธศาสตร์ และทิศทางการเมือง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำพรรค โดยมีประชาชนรอรับฟังการปราศรัยจำนวนมาก

นายเศรษฐา ปราศรัยว่า นโยบายของพรรค พท. คิดใหญ่ทำเป็น เพื่อดูแลชีวิตประชาชน ทั้งการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำใน 4 ปีให้เป็น 600 บาท ปีแรกขึ้นทันที 400 บาท คนจบปริญญาตรีที่เงินเดือนขั้นต่ำเท่าเดิมมานาน เราจะทำให้เป็น 25,000 บาทต่อเดือน รถไฟฟ้าจะปรับราคาให้เหลือ 20 บาทตลอดทั้งสาย การเลือกตั้งที่จะถึงเป็นการเปลี่ยนประวัติศาสตร์ประเทศ เพราะรัฐบาลปัจจุบันทำความเสียหายให้ประเทศ ทำรัฐประหาร เขียนกติกาเอื้อประโยชน์ตัวเอง ตั้งส.ส.เพื่อโหวตให้มีอำนาจต่อเนื่อง พรรค พท. ถือเป็นมวยรองเพราะยังไม่ทันเลือกตั้งเขามีส.ว.250 เสียง ทำอย่างไรที่จะเปลี่ยนขั้วอำนาจนี้ได้ เราต้องเข้าคูหากาสองใบให้พรรค พท. ทั้งคนทั้งพรรค

นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า สำหรับพรรคที่บอกว่ากัญชาเสรี มอมเอาประชาชนมาบอกว่าทำกัญชาแล้วจะรวยไม่มี เพราะเมื่อกัญชาถูกกฎหมายทุกคนทำหมดราคาถูกลง อย่าให้เขามอมเมาประชาชนว่าทำกัญชาแล้วจะรวย อย่าให้เขาเอานโยบายนี้มาหลอกขาย ต้องกัญชาเพื่อการแพทย์โดยพรรค พท. เท่านั้น และถ้าเลือกพรรคการเมืองอื่น ที่เคยเลือกพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม มาเป็นนายกฯ เขาอยู่กินกันมา ถึงแม้จะมีแคนดิเดตนายกฯเป็นคนของพรรคเขาถ้าพรรคเขาคะแนนไม่พอ เขาจะเสนอใคร พล.อ.ประยุทธ์ กลับมาแน่นอน ถ้าไม่เอา ต้องไม่เอาพรรคร่วมรัฐบาลวันนี้ ทางเปลี่ยนประเทศมีทางเดียวคือเข้าคูหากาพรรค พท. ทั้งสองใบ ให้แลนด์สไลด์เพื่อเศรษฐกิจที่ดีกว่า สังคมที่เท่าเทียมให้ลูกหลานมีอนาคตที่ดีกว่า

ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ปราศรัยบนเวที คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน เพื่อชาวฝั่งธนฯ ยืนยัน ผลักดันคดีคนเสื้อแดงที่ยังค้างไม่คืบหน้า และใช้กลไกสภา แก้ไขพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. เพื่อให้ประชาชนผู้เสียหายในคดี ที่ป.ป.ช.ปัดตก สามารถฟ้องคดีโดยตรงต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ ได้

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนขอประกาศบนเวทีปราศรัยบางแคถึงเพื่อนร่วมหัวใจในเส้นทางประชาธิปไตยว่า พรรคเพื่อไทยพร้อมเปิดรับทุกห้องหัวใจด้วยความยินดี ถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล นายกรัฐมนตรีที่มาจากพรรคเพื่อไทย จะต้องไม่มีประยุทธ์ประวิตร 3 ป. แต่จะมี ป.เดียว คือ ป.ประชาธิปไตย  การเลือกตั้งคราวนี้ไม่ใช่เป็นเพียงแค่การเปลี่ยนรัฐบาล แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ จะเปลี่ยนประวัติศาสตร์เปลี่ยนโฉมหน้าประเทศไทยไปตลอดกาล ถ้าเผด็จการพ่ายแพ้ย่อยยับจะไม่มีใครกล้าทำมาตรฐานอีกเลยเพราะว่าโดนปฏิเสธจากประชาชน 

สำคัญก็คือว่า เราจะตกผลึกร่วมกันหรือเปล่า แตกแบงค์ย่อยในเขตเลือกตั้ง เขาเข้าตรงกลาง ถึงเส้นชัยแน่ แต่ถ้ารวมพลังกันตั้งแต่บัตรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งรวมพลังกันในบัตรบัญชีรายชื่อ  ฝั่งประชาธิปไตยก็ตั้งรัฐบาลประชาชนก็จะพบเส้นทางชีวิตใหม่ได้ในทุกนโยบายของพรรคเพื่อไทยไปแก้ปัญหา

สำหรับเรื่องพี่น้องคนเสื้อแดง สำหรับการลงนาม ICC ยังเป็นเรื่องไกล ไม่ใช่หลักประกันว่าคดีจะเดินได้

ทั้งนี้ รัฐบาลพรคเพื่อไทย ประการที่ 1 จะขับเคลื่อนผลักดันให้มีการไต่สวนสาเหตุการตายทุกชีวิตที่ยังคั่งค้างอยู่โดยทันที

2. จะผลักดันกลด้วยกลไกสภาให้มีการแก้ไขพระราชบัญญัติ ป.ป.ช.มาตรา 49 มาตรา 58 ให้มีเนื้อความว่าหากมีคดีความใดยื่นป.ป.ช. และ ป.ป.ช.ตีตกไม่รับหรือยกคำร้อง จะแก้กฎหมายให้ประชาชน ซึ่งผู้เป็นผู้เสียหายโดยตรงฟ้องตรง ฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ 

ทั้งหมดนี้ พรรคเพื่อไทย และตนจะขอติดตามกระบวนการแก้กฎหมายดังกล่าว และพรรคเพื่อไทยก็จะนำเรื่องนี้ไปใส่ในการแถลงนโยบายของพรรคเพื่อไทยในสภา นี่คือสิ่งที่เราตระเตรียมกัน

“เราเจ็บปวดมากว่า 9 ปี พอแล้วสำหรับรัฐบาลชุดนี้ ทุกคนที่มีจุดหมายเดียวกันที่จะไม่เอา 3 ป. มาร่วมเดินหน้ากับพรรคเพื่อไทย เที่ยวนี้ถ้าต้องการเปลี่ยนถ้าปลดจากเผด็จการ นับ 1 ที่กรุงเทพฯ นับ 1 ทั้ง 33 เขต กาเพื่อไทยทั้ง 2 ใบไปด้วยกัน เลือกเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรค” นายณัฐวุฒิ กล่าว-001