ปราศรัยดุเดือด! นี่คนไม่ใช่ควาย
‘อนุทิน’ฉะ‘เพื่อไทย’
ลั่นเสียงถึงพร้อมนั่งนายกฯเอง
‘บิ๊กป้อม’ย้ำเป็นรบ. 7 นโยบายทำทันที
ยุติความขัดแย้ง-เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจปท.
รทสช.ชี้ภาคใต้กระแส‘ลุงตู่’พุ่งสวนโพลล์
‘สุดารัตน์’เปิดโอกาสปชช.เข้าถึงแหล่งทุน
เปลี่ยน‘บัตรคนจน’เป็น‘บัตรเครดิตปชช.’
“บิ๊กป้อม” ควง “ดรีมทีมเศรษฐกิจ” ชู 7 นโยบายพปชร.โค้งสุดท้ายถ้าเป็นรัฐบาลทำทันที ชูยุติความขัดแย้งช่วงวัย ไม่มีลงถนน บริหารปท.แบบไม่ชะงัก ระบุถ้าปชช.เลือกพร้อมนั่งนายกฯพร้อมจับมือทุกพรรค ตั้งเงื่อนไขดูตัวเลขสส./นโยบายต้องไม่ขัดกัน ใครไม่จับมือร่วมรบ.ก็ขออยู่คนเดียว “บิ๊กตู่” ลุยหาเสียงปากน้ำพรุ่งนี้เร่งโกยคะแนนเลือกตั้ง “ธนกร” ชี้กระแสความนิยมภาคใต้ “ลุงตู่” แรงนำลิ่วสวนโพลล์ถึงวันเลือกตั้งถล่มทลายแน่ เชื่อพลังเงียบหวังพาบ้านเมืองสงบ ปท.เดินหน้ามั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนด้าน “อนุทิน” นำทัพภท.
บุกนครพนม ปราศรัยเดือดซัด‘เพื่อไทย’ใครกันแน่โกหก ยกเคสปี62 ตบหน้า มี3แคนดิเดตนายกฯกลับไปหนุน‘ธนาธร’ ลั่นถ้าได้เสียงมากพอ พร้อมนั่งนายกฯเอง‘นี่คนไม่ใช่ควาย’ขณะที่‘สุดารัตน์’ขึ้นปราศรัย อำนาจเจริญปชช.แห่เชียร์นายกคนอีสาน ประกาศเปลี่ยน‘บัตรคนจน’เป็น‘บัตรเครดิตประชาชน’เปิดโอกาสคนตัวเล็กเข้าถึงแหล่งทุน‘ชวน’ยกทัพปชป.บุกนราธิวาส ย้ำไม่โกงไม่กินไม่สิ้นชาติ
ลั่นถ้าเป็นรัฐบาลทำทันทีทุกนโยบาย
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร กล่าวสรุปว่าทีมเศรษฐกิจของพปชร.ยืนยันได้ว่านโยบายที่ประกาศแล้วถ้าเป็นรัฐบาลเราจะทำทันทีทุกนโยบาย เราสามารถทำได้ อีกนโยบายที่ตนถือว่ามีความสำคัญคือ นโยบายการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เราจะต้องเอามารวมกัน ต้องมีการป้องกัน ปราบปราม และบำบัดฟื้นฟู จะหางบประมาณก้อนหนึ่งเพื่อดำเนินการเรื่องนี้โดยเฉพาะ ขอยืนยันว่า ทุกนโยบายของ พปชร. จะทำทันทีถ้าเราได้เป็นรัฐบาล ฝากกับประชาชนทุกคนด้วยว่าช่วยเลือก พปชร.เบอร์ 37และเลือกผู้สมัครของ พปชร. เพื่อจะได้ดำเนินการในการตามนโยบายที่เสนอกับประชาชนไว้ หวังอย่างยิ่งว่าประชาชนคงจะให้โอกาสสนับสนุน พปชร. เราพร้อมที่จะรับใช้ประชาชน ทำงานเพื่อประชาชน
‘บิ๊กป้อม’ถ้าปชช.เลือกพร้อมนั่งนายกฯ
พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์ภายหลังแถลงสรุปภาพรวมนโยบายของพรรค พปชร. ถึงเรตติ้งความนิยมของพรรคที่เพิ่มขึ้นหลังนำทีมแกนนำนั่งรถไฟลงพื้นที่ว่า ดีใจ ถ้าผู้สื่อข่าวสนับสนุน พรรค พปชร.ก็ดีขึ้นเมื่อถามว่าอีก 9วันจะถึงวันลงคะแนนเลือกตั้ง มีความพร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปมากน้อยแค่ไหน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า”จะว่าพร้อมก็พร้อม แล้วแต่ประชาชนจะเลือก ถ้าเลือกก็พร้อม”
มั่นใจนโยบาย-ถ้าเป็นรัฐบาลทำได้ทันที
เมื่อถามว่าได้ดูกระแสตอบรับของพรรคในโซเชียลมีเดียบ้างหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่ได้ดูเลย เมื่อถามอีกว่า มองนโยบายภาพรวมแล้วมีความมั่นใจอย่างไรบ้าง พล.อ. ประวิตร กล่าวว่า”ถ้าไม่มั่นใจ ก็คงไม่ประกาศออกไป มั่นใจว่าเราทำได้ ถ้าเราได้เป็นรัฐบาล ทำได้ทันที”เมื่อถามว่าโค้งสุดท้ายจะมีอะไรมาตีตื้นคะแนนเป็นหมัดเด็ดหมัดน็อกหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า สื่อนั่นแหละ สื่อจะเลือกหรือเปล่า ถ้าคุณเลือกก็ได้
ใครไม่จับมือร่วมรบ.ก็ขออยู่คนเดียว
เมื่อถามว่าหลายพรรคเริ่มตีกันจะไม่จับขั้วรัฐบาลระบุพปชร.เป็นหนึ่งที่จะไม่จับมือด้วย พล.อ.ประวิตรตอบว่า“ก็ไม่เป็นไรใครไม่จับผมก็อยู่คนเดียว ถ้าได้300กว่าเสียงแล้วจะไปจับกับใครล่ะก็ขึ้นอยู่กับประชาชน ปล่อยให้ประชาชนเป็นคนตัดสินใจเอาแล้วกันว่าจะเลือกใคร ถ้าเขาอยากพูดก็พูดกันไป เพราะอยู่ที่การตัดสินใจของประชาชนเป็นหลักก็ต้องเชื่อมั่นในประชาชน ต้องไว้ใจประชาชนว่าเขาจะเลือกใคร”
เมินโพล-เชื่อลงพื้นที่กระแสตอบรับดี
เมื่อถามว่า ผลโพลที่ออกมาขณะนี้แสดงว่าเชื่อไม่ได้ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า โพลใครก็ทำได้ เป็นความคิดของคน ได้ไปถามทุกบ้านหรือเปล่า ถามทุกคนหรือเปล่า แล้วทุกคนตอบหรือเปล่า มันก็อย่างนี้แหละ โพลคือโพลเมื่อถามต่อว่า จากการลงพื้นที่และได้สัมผัสประชาชนโดยตรง รวมถึงกระแส พปชร.ตอนนี้ จะทำให้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่รู้ ก็แล้วแต่ประชาชน จะไปคิดข้างหน้าได้อย่างไร สื่อคิดก็ตอบเอาเอง ก็แล้วกันเมื่อถามว่าจากการลงพื้นที่เชื่อมั่นในประชาชนหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็เชื่อมั่น ลงพื้นที่มาตลอดทั้งปี พื้นที่เขาก็ต้อนรับ ไม่เห็นมีใครมาด่าเลย
พร้อมจับมือทุกพรรค-นโยบายไม่ขัดกัน
เมื่อถามว่า พปชร.และพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.)จะจับมือไปไหนไปกันใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่าต้องดูตัวเลขหลังจากวันที่14 พ.ค.ก่อนเมื่อถามย้ำว่าพร้อมรับใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “พร้อมรับกับทุกพรรค ทำงานได้กับทุกพรรค ถ้าตัวเลขน้อย ก็อยู่คนเดียว ถ้าตัวเลขมาก ก็อยู่คนเดียว เดี๋ยวไปดูว่าจะจับมือกับใคร ต้องดูแต่ละพรรค”เมื่อถามอีกว่า พรรคก้าวไกล ยังเป็นหนึ่งในตัวเลือกใช่หรือไม่ พล.อ. ประวิตร กล่าวว่า”ทุกพรรคอยู่ในตัวเลือกทั้งนั้น แต่ต้องดูนโยบายด้วย ไม่ใช่นโยบายไม่ถูกกัน แล้วไปอยู่ด้วยกันก็ขัดกันเปล่าๆ”
เมื่อถามว่า โค้งสุดท้ายแล้วจะมีโอกาสลงพื้นที่ตลาดใน กทม.หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ตอบว่า”สื่ออยากให้ลงไหมล่ะ ถ้าอยากให้ลงก็จะลง”เมื่อถามอีกว่าวันนี้อารมณ์ดี พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “อารมณ์ดีทุกวัน แล้วดีไหม”เมื่อถามว่า ช่วงลงพื้นที่หาเสียงดูแลสุขภาพออกกำลังกายในช่วงนี้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า”มี ก็ว่ายน้ำ”
‘พี่ตู่’ลุยหาเสียงปากน้ำเร่งโกยคะแนน
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.)และแดนดิเดตนายกรัฐมนตรียังคงลงพื้นที่หาเสียงต่อเนื่องช่วงโค้งสุดท้าย ก่อนมีการเลือกตั้งในวันที่14 พ.ค.นี้
โดยในวันที่ 5 พ.ค.พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมด้วยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรคและแกนนำพรรค ช่วงบ่ายเตรียมลงพื้นที่หาเสียงที่ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการซึ่งเป็นเขตของ นายกุญชร มีสัมฤทธิ์ ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ เขต 6 โดยจุดแรกพล.อ.ประยุทธ์จะเข้าสักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมืองพระประแดงที่อยู่ในตลาดพระประแดงจากนั้นพล.อ.ประยุทธ์กับแกนนำพรรคจะเดินพบปะทักทายประชาชน พ่อค้า แม่ค้าที่ขายของในตลาดพระประแดง
เย็นขึ้นปราศรัยใต้สะพานพระราม8
จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์จะเดินทางไปยังศูนย์ประสานของพรรครทสช.เขต7อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการซึ่งเป็นเขตของน.ส.ไพลิน เทียนสุวรรณ ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการเขต 7 เพื่อพบปะผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการของพรรค จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ เดินทางไปยัง ต.นาเกลือ อ.พระสมุทรเจดีย์ไปวัดสาขลาเพื่อสักการะหลวงพ่อโตและเยี่ยมชมพระปรางค์เก่าแก่มีความโดดเด่นคือมีลักษณะเอียงที่เรียกว่าพระปรางค์เอียง จากนั้นลงพื้นที่กรุงเทพฯในเวลา18.45น.พล.อ.ประยุทธ์พร้อมแกนนำพรรคจะขึ้นเวทีปราศรัยย่อยที่บริเวณใต้สะพานพระราม 8 เขตบางพลัด เพื่อขอคะแนนเสียงชาวฝั่งธนบุรี
โค้งสุดท้ายล่องใต้-ปิดปราศรัยใหญ่กทม.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับกำหนดการลงพื้นที่หาเสียงของ พล.อ.ประยุทธ์และแกนนำพรรค รทสช.ในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งในวันที่ 7 พ.ค.ลงหาเสียงพื้นที่ภาคใต้ที่จ.ภูเก็ต ,พังงา และกระบี่ ส่วนวันที่ 8 พ.ค.ลงหาเสียงที่ จ.นราธิวาส วันที่ 11 พ.ค.หาเสียงที่ จ.นครศรีธรรมราช อีกครั้ง ก่อนที่วันที่ 12 พ.ค.จัดปราศรัยใหญ่ปิดท้ายที่กรุงเทพฯ บริเวณลานอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช วงเวียนใหญ่
‘ธนกร’เชื่อพลังเงียบต้องปท.สงบเดินหน้า
นายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติกล่าวถึงช่วงโค้งสุดท้ายในการหาเสียงเลือกตั้งว่าจะมีแคมเปญที่ทีมยุทธศาสตร์ของพรรคที่เตรียมการไว้จะออกในช่วงโค้งสุดท้ายและเป็นการสื่อสารที่ตรงเป้าน่าสนใจ ส่วนผลโพลที่ดูเหมือนว่าพรรครวมไทยสร้างชาติอยู่อันดับ3และ4นั้น ประชาชนทั้งประเทศก็ต้องช่วยกันพาพล.อ.ประยุทธ์แคนดิเดตนายกฯของพรรค ฝ่าผลโพลออกไปให้เป็นนายกฯ อีกครั้งเพราะหากผลโพลเป็นไปตามที่ออกมานั้น ประเทศจะเดินหน้าลำบากเพราะจะกลายเป็นว่าสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ ทำมา 8ปี ทั้งเรื่องเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวจะไม่สามารถทำต่อได้จะเป็นปัญหาในอนาคต
“สุดท้ายก็จะมีสองฝั่งคือ ฝั่งพล.อ.ประยุทธ์ และพรรคฝั่งเพื่อไทย ส่วนพรรคก้าวไกลก็จะมีแฟนคลับอยู่แล้ว แต่ผมบอกได้เลยว่าผลโพลไม่ใช่ผลการเลือกตั้ง ซึ่งวันนี้ประชาชนก็ตัดสินใจแล้ว แต่จะมีส่วนที่เป็นพลังเงียบอยู่มากซึ่งพลังตรงนี้หากต้องการให้ประเทศเดินไปข้างหน้าอย่างสงบ มั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน เขาก็จะเลือกพล.อ.ประยุทธ์ไปต่อ เพื่อให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าในทิศทางทำให้บ้านเมืองมีความสงบ ใช้ชีวิตได้อย่างที่เป็นอยู่ สะดวกสบาย ไม่มีความขัดแย้ง”รองหัวหน้าพรรค รทสช.ย้ำ
โวกระแสนิยม‘บิ๊กตู่’ภาคใต้แรงสวนโพล
นายธนกรยังระบุว่าในสำหรับพื้นที่ภาคใต้ต้องยอมรับว่าสวนกระแสและตรงข้ามกับโพลแน่นอน เพราะที่นายกฯ ลงพื้นที่จ.ตรัง พัทลุง สงขลา สุราษฎร์ธานี ผ่านบ้านประชาชนร้อยหลัง มี 99 หลัง รู้ว่าลุงตู่มา ก็เดินออกมานอกบ้าน ชูมือเชียร์หมายเลข 22ซึ่งคะแนนนิยมของพล.อ.ประยุทธ์ในภาคใต้สูงมาก เป็นชัยชนะของ พล.อ.ประยุทธ์ จริงๆ มันมีพลังส่วนนี้อยู่เยอะ ทั้งนี้คนที่ยึดมั่นในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และประชาชน คนที่ยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริตของ พล.อ.ประยุทธ์ และยึดมั่นในผลงานตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา หากมองด้วยใจที่เป็นธรรม ก็จะเห็นผลงานมากมายที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ ซึ่ง 4 ปีที่ผ่านมามีงบประมาณลงไปพัฒนาภาคใต้เกือบ 3 แสนล้านบาท ทั้งถนนหนทาง โครงสร้างพื้นฐานที่เต็มรูปแบบ ซึ่งสามารถเห็นด้วยตาและจับต้องได้ วันนี้พื้นที่ภาคใต้เลือกพล.อ.ประยุทธ์ ถล่มทลายแน่นอน เพราะเราไปสัมผัสด้วยตัวเอง
อย่างไรก็ตามนายธนกรยังระบุว่าขณะนี้ทราบว่า ในจังหวัดพื้นที่ภาคใต้มีการเก็บบัตรประชาชนมีการซื้อเสียงกันมากอย่างเอิกเกริกอยากฝากให้กกต.เข้าไปดูแลตรวจสอบด้วย แต่ผมมั่นใจว่าคนใต้ซื้อไม่ได้เพราะทั้งหัวใจมอบให้พล.อ.ประยุทธ์หมดแล้ว
‘อนุทิน’นำทัพ‘ภท.’ปราศรัยนครพนม
ที่หอประชุมโรงเรียนเทศบาล 4 (รัตนโกสินทร์ 200 ปี) ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่ปราศรัย ช่วยนายศุภชัย โพธิ์สุ ผู้สมัครส.ส.นครพนม พรรคภูมิใจไทยโดยมีประชาชนรับฟังการปราศรัยกว่า 3,000 คน
โดยนายอนุทินได้ปราศรัยแนะนำผลงานที่ผ่านมาของรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยที่กำกับดูแลกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคม และกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ประกอบด้วยความสำเร็จในนโยบายฟอกไตฟรี การขยายการให้บริการเครื่องฉายรังสีมะเร็ง การผลักดันเพิ่มค่าตอบแทน อสม. เป็น 2,000 บาท การขยายถนน 4 เลน จากนครพนมไปบึงกาฬ เป็นเส้นทางเชื่อมโยง จ.บึงกาฬ จ.นครพนม จ.มุกดาหาร จ.อำนาจเจริญ และสิ้นสุดที่ จ.อุบลราชธานี เป็นต้น พร้อมแนะนำนโยบายของพรรคภูมิใจไทยอาทิการพักหนี้3 ปี,ทุกอำเภอมีศูนย์ฟอกไต,ทุกจังหวัดมีเครื่องฉายรังสี, การให้นครพนมมีโรงพยาบาลศูนย์,กองทุนผู้สูงอายุ,นโยบายเงินกู้ฉุกเฉิน 50,000 บาท เป็นต้น
ลั่นภท.เสียงพอ-พร้อมนั่งนายกฯเอง
โดยนายอนุทินได้ปราศรัยช่วงหนึ่งถึงประเด็นที่ถูกพาดพิงทางการเมืองว่า“มีบางพรรคมาสร้างความเข้าใจผิดกับพี่น้องว่าเลือกภูมิใจไทยจะได้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาเป็นนายกฯและยังไปบอกว่า อย่างไรเสีย เราก็เลือกพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งไม่จริง เขากำลังโกหก ผมประกาศแล้วว่าพร้อมเป็นนายกฯ เข้ามาดูแลพี่น้อง ถ้าพรรคภูมิใจไทยได้เสียงมากพอ ดูแลเหมาะสม นายอนุทินนี่เองจะเป็นนายกฯไม่แบ่งให้ใคร
เราสู้กันมาขนาดนี้ เพื่อขอโอกาสเข้าไปทำงาน ถ้าประชาชนไว้ใจ จนเราได้เสียงมามากแล้ว มีความเหมาะสมในการเป็นนายกฯ แล้ว เราไม่ให้ใคร มันไม่มีคนโง่ขนาดนั้น”
‘นี่คนไม่ใช่ควาย’ซัดเดือดพท.ใครโกหก
“นี่คนกินข้าว ไม่ใช่ควาย ส่วนคนที่มาใส่ร้ายเรา เขาพูดไม่จริง โกหก วันนี้ หาเสียงเขาให้พูดความจริง ผมบ่ขี้ตั๊ว ไม่มีพูดโกหก”นายอนุทิน ย้ำและว่า“เมื่อปี2562เราถูกกล่าวหาว่าก็ไปยกมือให้คนอื่นเป็นนายกฯซึ่งขณะนั้น เรามีแค่ 50 เสียง ไม่อาจหาญ เราจึงต้องเคารพกติกา เลือกพรรคที่ได้เสียงมากซึ่งพรรคของพล.อ.ประยุทธ์ ได้ 120 เสียง มากกว่าเรา ถ้าวันนั้น พี่น้องเลือกเราเยอะพอ ผมก็จะเป็นนายกฯ และมีพรรคที่มาด่าผมยกตัวอย่าง พรรคเพื่อไทย ก็ยกให้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ทั้งที่พรรคเพื่อไทยมีแคนดิเดตตั้ง3คนแต่พรรคภูมิใจไทย ถูกกล่าวหา ดังนั้นใครกันแน่โกหก”
ตอกกลับ‘พวกรู้ไม่จริงอย่าพูดพล่อยๆ’
หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวด้วยว่านอกจากนั้นยังมีผู้ใหญ่ในทางการเมืองบางคน มาบอกว่าวันเลือกตั้งปี2562 พอพรรคภูมิใจไทยรู้คะแนนเสียง ตนรีบโทรหาทหาร ไปจัดตั้งรัฐบาลกันนั่นก็โกหก ตอนนั้นมีสายเข้ามาจำนวนมาก ตนไม่ต้องโทรหาใครเลยมีแต่คนที่โทรเข้ามา จนต้องปิดเครื่อง เปลี่ยนเบอร์ เพราะสายเข้ามากมายมหาศาล ไม่ต้องโทรหาใครก่อนเลย พวกรู้ไม่จริง อย่าพูดพล่อยๆ
หนุนกัญชาการแพทย์เท่านั้นเร่งคุมเข้ม
นายอนุทินปราศรัยชี้แจงที่บางพรรคการเมืองกล่าวหาพรรคภูมิใจไทยสนับสนุนกัญชาเสรี ไร้ขอบเขตว่า เรื่องกัญชา เป้าหมายของเราให้เป็นไปเพื่อการแพทย์ เพื่อการรักษาโรค ตอนค่อยๆ คลายล็อกออกมา ประชาชนได้ประโยชน์มากมาย นครพนมนี่เมืองหลวงกัญชา เกษตรกรได้ปลูกได้ขาย เป็นพืชเศรษฐกิจ ส่งทำยา ทำกับวิสาหกิจชุมชน รักษาโรคมากมาย น้ำมันกัญชา อยู่ในบัญชียาหลักแล้ว หมอสั่งจ่ายได้ ไม่มีค่าใช้จ่ายเลย ทุกขั้นตอน เรามีการควบคุม มีประกาศจากหน่วยงานราชการเข้ามาดูแล้ว พรรคภูมิใจไทยไปทำให้เข้มขึ้นด้วยการจะออกเป็นพระราชบัญญัติที่เกือบทั้งสภาก็เห็นด้วยกับร่างฉบับนี้ผ่านหลักการไปแล้ว คนที่วิพากษ์วิจารณ์พรรคภูมิใจไทยก็รับหลักการแล้วถามว่า ใครดึงเช็งดึงเช็งไว้ ไม่ตีตกร่างกฎหมาย แต่พยายามสร้างเงื่อนไขมาโจมตีพรรคภูมิใจไทย
“ก่อนที่พรรคภูมิใจไทยจะเข้ามาทำนโยบาย กัญชามันถูกใช้ เพื่อการแพทย์ และเพื่ออย่างอื่นอยู่แล้ว ซึ่งทุกคน ต้องหลบๆ ซ่อนๆ ถามว่าคนป่วย เขาอยากจะรอดตาย เขาอยากจะอยู่อย่างสบาย กินอิ่ม นอนหลับ ทำไม เขาต้องแอบใช้ยา มันไม่ถูกต้อง ตรงนี้ทำให้เราต้องปลดล็อกกัญชาออกมาให้คนป่วยได้ใช้ ส่วนคนที่ใช้ในทางที่ผิด ก็หาทางควบคุม ออกกฎกระทรวงฯจากนั้นเราจะออกพระราชบัญญัติเป็นกฎหมายสำคัญ แล้วใครดึงเอาไว้ เพื่อที่จะได้มีช่องทางมาพูดโจมตีพรรคภูมิใจไทย”นายอนุทิน กล่าว
ตะเพิด’เศรษฐา’ไปดูความต่างปี62กับ66
นายอนุทินยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทยพูดโจมตีเลือกภูมิใจไทยได้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาเป็นนายกฯว่าเขาพูดแบบนี้ที่นครพนมตนมานครพนมเพื่อมาชี้แจงประชาชน เรื่องแบบนี้ ถ้าไม่รู้จริง อย่าพูด สร้างความเข้าใจผิด ที่สำคัญยังจะผิดกฎหมายด้วย ไม่ฟ้องก็ไม่ได้ เพราะผู้สมัครในพื้นที่ต่างๆเขาได้รับผลกระทบไปหมดก็ต้องรักษาสิทธิ์ในการฟ้องร้องดำเนินคดี การมาพูดว่าเลือกพรรคภูมิใจไทยได้พล.อ.ประยุทธ์ คนพูดดูเงื่อนไขการเมือง หรือไม่ว่าปี2562 กับปี 2566 ต่างกันมาก ตอนนั้นภูมิใจไทยได้เท่าไหร่ พรรคพล.อ.ประยุทธ์ได้เท่าไหร่ เพื่อไทยได้เท่าไหร่ แล้วใครตั้งรัฐบาลสำเร็จ ไม่รู้ว่านายเศรษฐาที่ออกมาพูดได้รับฉันทามติจากพรรคหรือไม่มาพูดในสิ่งที่ยังไม่เกิด
เย้ยไร้ประสบการณ์/กระบวนความคิดก็ผิด
“ที่คุณเศรษฐาพูดมา เพื่อไทยเองก็ส่ายหัว นี่ไงที่บอกว่าไม่มีประสบการณ์ ไม่มีวุฒิภาวะ ไม่รู้มีอำนาจ รึเปล่า แต่กำลังทำให้คนอื่นเดือดร้อน ผมว่านายเศรษฐาปล่อยไก่ รู้เรื่องไม่ละเอียด แล้วมาพูดนี่อันตราย ถ้าไปรับตำแหน่งสำคัญ แล้วข้อมูลไม่พอ พูดเอามันแค่กระบวนการความคิดก็ผิดแล้ว แล้วจะมารับผิดชอบบ้านเมืองหรือ ที่จริงไม่ชอบพูดถึงพรรคอื่นแต่ครั้งนี้มันหนักและต้องชี้แจง เพราะเขาเล่นงานเราก่อน ผมจะไม่พูดอะไรมากกว่านี้อีกแล้ว สิ่งที่ภูมิใจไทยทำ คือ ถ้ามีเสียงมากที่สุดนะ และอยู่ในขั้วจัดตังรัฐบาล ผมก็เป็นนายกรัฐมนตรี แต่สิ่งที่พรรคเพื่อไทย ทำไว้ปี62 คือได้เสียง ส.ส.มากสุดด้วย แต่ไปเลือกคนอื่นเป็นนายก ตอนนั้นนายเศรษฐา ยังไม่มา ประสบการณ์น้อย”นายอนุทิน กล่าว
ไม่เปิดศึก‘อุ๊งอิ๊ง’ชมคลอดเสร็จลุกกู้‘เพื่อไทย’
นายอนุทิน กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย เห็นด้วยกับ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ อีกคนของพรรคเพื่อไทย ที่ออกมาโจมตีนโยบายกัญชาของพรรคภูมิใจไทยว่า ได้ติดตามดูแล้ว เขาไม่ได้เห็นด้วยกับทุกเรื่อง ซึ่งเป็นการพูดถึงการจับขั้วรัฐบาล2พรรค เรื่องนี้เราอย่าพึ่งไปผูกมัด ตนไม่ได้มีปัญหากับน.ส.แพทองธาร ยังแสดงความยินดีด้วยซ้ำที่ได้ลูกชายจึงไม่ใช่เวลาที่เราจะมาวิจารณ์ซึ่งน.ส.แพทองธารแข็งแรงมากแค่2วันก็ออกมาแล้วออกมากอบกู้พรรคเพื่อไทย
ชี้ลูกพรรคเสียหายฟ้องดำเนินคดี‘เศรษฐา’
เมื่อถามถึงกรณีที่โลกโซเชียลฯเผยแพร่ศึกวิวาทะ“หนูนิด”นายอนุทินกล่าวว่า จะหนูนิด หนูหน่อย หนูอี๊ด หนูแอ๊ดก็ไม่มีปัญหา ส่วนจะมีปัญหาในการจับคู่รัฐบาลในอนาคตหรือไม่ ขอย้ำว่าเคยบอกไปแล้วว่า แต่ละพรรค เขารู้ว่าคนไหนคือคนที่เคาะ เราจบประเด็นนี้ได้แล้ว เพราะการที่ตนตอบโต้นายเศรษฐาเพราะเขามาโจมตีพรรคภูมิใจไทยก่อนในสิ่งที่ไม่เป็นความจริง สิ่งที่เป็นเท็จเราก็ต้องออกมาตอบโต้
นายอนุทินยังกล่าวถึงที่ลูกพรรคหลายคนออกไปดำเนินคดีกับนายเศรษฐาว่า เพราะไปกระทบกับตัวเขา ตนจะไปบังคับเขาได้อย่างไร เพราะภูมิใจไทยไม่ได้เสียหายอย่างเดียวผู้สมัครก็เสียหายด้วย จะทำอะไรก็ได้แต่อย่าให้ผิดกฎหมาย อย่าทำอะไรที่จะกระทบต่อคะแนนที่ประชาชนจะเลือกพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งต้องระวัง เพราะจะผิดไม่รู้อีกกี่กระทง
‘สุดารัตน์’บุกอำนาจเจริญ/เชียร์นั่งนายกฯ
ที่จังหวัดอำนาจเจริญ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย(ทสท.)และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค หมายเลข 32ลงพื้นที่ช่วยหาเสียงให้ นางสิริพรรณ อมรสิน ผู้สมัคร ส.ส.อำนาจเจริญ เขต 2ของพรรคซึ่งได้พบปะพี่น้องประชาชน พร้อมเปิดเวทีปราศรัย โดยมีประชาชนให้ความสนใจมารับฟังนโยบายและให้กำลังใจคุณหญิงสุดารัตน์กันอย่างล้นหลามร่วม1หมื่นคนซึ่งตลอดการลงพื้นที่และปราศรัย ได้มีเสียงเชียร์ดังกึกก้องต่อเนื่องว่า“สุดารัตน์ นายกฯของพวกเรา” “สุดารัตน์ นายกคนอีสาน” “ลุงไหนก็ไม่เอา เอาหญิงหน่อย เป็นนายกให้พวกเราคนอีสาน”เป็นต้น
ชูเพิ่มโอกาสคนตัวเล็กเข้าถึงแหล่งทุน
คุณหญิงสุดารัตน์ ปราศรัยช่วงหนึ่งว่าภาคอีสานเป็นภาคที่ใหญ่ที่สุดมีประชากรมากที่สุด พี่น้องขยันทำมาหากินที่สุด อดทนและซื่อสัตย์ที่สุดแต่กลับยากจนและยังขาดโอกาสรวมถึงมีภาระหนี้สินทั้งในและนอกระบบ พรรคไทยสร้างไทยจึงมีนโยบายที่จะทำให้คนตัวเล็ก โดยเฉพาะชาวอีสาน หายจน หมดหนี้และมีรายได้ยั่งยืนให้ได้ภายใน3 ปี เริ่มต้นจากการพักหนี้ 3 ปี พักดอก 2 ปีและสร้างโอกาสในการเข้าถึงแหล่งทุนให้กับคนตัวเล็กพรรคจึงได้สร้างกองทุนเครดิตประชาชน หรือบัตรเครดิตประชาชนขึ้นมา เพื่อคนตัวเล็กมีโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินกู้ในระบบเช่นคนค้าขายที่ไม่ใช่มนุษย์เงินเดือน ฟรีแลนช์ หรือคนที่มีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ขั้นตํ่าที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินยอมรับ มีมากถึง36ล้านคน คนเหล่านี้หมดหนทางที่จะเข้าถึงเงินกู้ในระบบ จำใจต้องกู้หนี้นอกระบบที่คิดดอกเบี้ยมหาโหดไม่ต่ำกว่าร้อยละ20ต่อเดือนหรือ240%ต่อปี
เปลี่ยน‘บัตรคนจน’เป็น‘บัตรเครดิตปชช.’
“พรรคไทยสร้างไทยสร้าง‘บัตรเครดิตประชาชน’ขึ้นมาเพื่อทดแทน‘บัตรคนจน’เรารู้ดีว่าไม่มีใครอยากเป็นคนจนไปตลอดชีวิต เพียงแต่พี่น้องขาดโอกาสในการเข้าถึงแหล่งทุน เหมือนกับเจ้าสัว นายทุน ที่สามารถกู้ยืม กับธนาคารหรือสถาบันการเงินได้ ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ กองทุนเครดิตประชาชนนี้จะช่วยล้างหนี้นอกระบบ เป็นที่พึ่งของประชาชนคนตัวเล็กที่ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบปกติของธนาคารหรือสถาบันการเงินได้ ช่วยให้คนตัวเล็กตั้งตัวได้ เป็นสินเชื่อรายย่อยที่ไม่มีหลักประกัน ดอกเบี้ยต่ำ ไม่เกินร้อยละ1ต่อเดือน วงเงินกู้ตั้งแต่ 5,000บาท จนถึง 50,000 บาท สามารถนำไปใช้ในการประกอบอาชีพรวมถึงพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนอันเนื่องมาจากปัญหาหนี้นอกระบบทำให้ลืมตาอ้าปากใช้ชีวิตต่อไปอย่างมีศักดิ์ศรี ที่สำคัญจะเป็นหลักประกันทางการเงินไปตลอดชีวิต”
คุณหญิงสุดารัตน์ ย้ำ
‘ชวน’ยกทัพปชป.ลุยหาเสียงนราธิวาส
วันเดียวกัน ที่ จ.นราธิวาส นายชวน หลีกภัย อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎรและอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)พร้อมคณะแกนนำพรรค นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมืองกทม.และนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม.ขึ้นรถแห่รอบเทศบาลเมืองนราธิวาสช่วยหาเสียงให้นายวสันต์ ดือเร๊ะ ผู้สมัคร ส.ส.นราธิวาส เขต 1 เบอร์ 6ต่อมาได้มาสักการะศาลเจ้าแม่โต๊ะโม๊ะ อ.สุไหงโก-ลก พร้อมช่วยหาเสียงให้นายเมธี อรุณ ผู้สมัคร ส.ส.นราธิวาส เขต2 เบอร์1เดินตลาดเก็นติ้งและขึ้นรถแห่ขอคะแนนในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก
ย้ำเลือกคนดี ไม่โกงไม่กินไม่สิ้นชาติ
จากนั้นได้ขึ้นปราศรัยที่หน้าสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก และที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาสนายชวนกล่าวช่วงหนึ่งว่าในช่วงรัฐบาลนายทักษิณและรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์คนใต้ไม่ได้รับโครงการพัฒนาพื้นที่เท่าที่ควร และในยุคพล.อ.ประยุทธ์ตนก็ทำหนังสือของทวงคืนการสร้างโครงสร้างพื้นฐานให้ภาคใต้ไปหลายฉบับเพื่อขอให้เร่งปรับปรุงถนนสายใต้ใหม่เพื่อเป็นทางเลือกเวลาที่เกิดน้ำท่วมเส้นทางหลัก จนยุบสภาก็ยังไม่ได้ทำ ขอย้ำว่าถ้าเลือกคนดี คนสุจริต บ้านเมืองก็จะไปดี ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง พรรคประชาธิปัตย์อยู่กับคนไทยมาตลอด77 ปี ไม่โกงไม่กิน ไม่สิ้นชาติ ขอให้ประชาชนทุกคนร่วมกันปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ ถ้าเราเลือกคนโกงก็ได้รัฐบาลโกงระบอบนี้ต้องอาศัยความสำคัญของประชาชนที่ตระหนักถึงการเลือกตั้ง