คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ร่วมกับสถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สมาคมสังคมศาสตร์แห่งประเทศไทย สถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา และสถาบันการสร้างชาติ จัดการเสวนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของประเทศไทย (Thailand International Relations Forum) ในหัวข้อ “นโยบายพรรคการเมืองกับความสัมพันธ์ประเทศมหาอำนาจ” โดยมี ดร.สุธนี บิณฑสันต์ กรรมการผู้อำนวยการสถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เป็นประธาน มีผู้ช่วยศาสตราจารย์สาธิน สุนทรพันธุ์ คณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง คณาจารย์ นักศึกษา และประชาชนร่วมในงาน เมื่อเร็วๆ นี้ ณ ห้องบรรยาย 501 ชั้น 5 อาคารศรีศรัทธา
ภายในงานมีปาฐกถา “นโยบายประเทศไทย กับความสัมพันธ์ประเทศมหาอำนาจ” โดย อาจารย์ทวีชัยเจริญเศรษฐศิลป์ ผู้อำนวยการวิจัย สถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา ร่วมด้วยแขกรับเชิญพิเศษ ตัวแทนจากพรรคการเมืองต่างๆ เสนอนโยบายของพรรคในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์กับประเทศมหาอำนาจ
โอกาสนี้ ดร.สุธนี บิณฑสันต์ กรรมการผู้อำนวยการสถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กล่าวว่า การจัดเสวนาครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการศึกษาวิจัยอันเป็นประโยชน์ต่อความก้าวหน้าทางวิชาการ การกำหนดนโยบายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพื่อจะนำไปสู่การพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน และช่วยส่งเสริมความก้าวหน้าของประเทศไทยและโลกนี้
“ประเทศมหาอำนาจสามารถเข้ามามีอิทธิพลต่อประเทศต่างๆ ในโลกได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งสามารถส่งผลทางบวกหรือทางลบก็ได้ ดังนั้น การทำความเข้าใจนโยบายจุดยืนของไทยและความสัมพันธ์กับประเทศมหาอำนาจ จะช่วยให้ประเทศไทยสามารถรักษาผลประโยชน์ของชาติ พร้อมกับสามารถป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในทางลบได้”
ด้าน อาจารย์ทวีชัย เจริญเศรษฐศิลป์ ผู้อำนวยการวิจัย สถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา กล่าวว่าการดำเนินนโยบายต่างประเทศแบบยืดหยุ่น และรักษาดุลอำนาจระหว่างประเทศมหาอำนาจต่างๆ ทำให้ประเทศไทยรอดพ้นจากวิกฤตต่างๆ ตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบันได้เป็นอย่างดี แต่ความขัดแย้งของสองขั้วอำนาจที่กำลังเกิดขึ้นอย่างเปิดเผยและรุนแรงมากขึ้นระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน ทำให้ประเทศไทยก้าวสู่ความท้าทายที่ต้องรักษาสมดุล ดำเนินยุทธศาสตร์และนโยบายอย่างรอบคอบ เพื่อให้ประเทศไทยได้รับประโยชน์สูงสุดและไม่ถูกบดขยี้จากสงครามในรูปแบบต่างๆ ระหว่างสองขั้วอำนาจนี้
ทั้งนี้ อาจารย์ทวีชัย ได้นำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายด้านความสัมพันธ์กับประเทศมหาอำนาจ ซึ่งเป็นข้อวิเคราะห์จากศาสตราจารย์ ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ ประธานสถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังนี้
1) ประเทศไทยต้องเดินหน้าด้วยยุทธศาสตร์เชิงรุกขับเคลื่อนจุดแกร่งประเทศให้เป็นเมืองหลวง 4 ด้าน คือ เมืองหลวงอาหารโลกเพื่อดึงดูดการลงทุน เมืองหลวงท่องเที่ยวโลกเพื่อส่งเสริมด้านโลจิสติกส์ การค้า และการท่องเที่ยว เมืองหลวงสุขภาพโลกเพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้า และเมืองหลวงอภิบาลคนชราโลกเพื่อดึงดูดคนมาเกษียณในไทย
2) ยุทธศาสตร์ไทยเป็นดุมล้ออาเซียน และอาเซียนเป็นดุมล้อโลก เพื่ออาเซียนเป็นกลาง เข้าได้กับทุกฝ่ายมีขนาดใหญ่ และมีศักยภาพเติบโต โดยไทยร่วมมือกับ5 ประเทศหลักๆ ในอาเซียน เพื่อสร้างอำนาจต่อรองกับประเทศมหาอำนาจ และขับเคลื่อนอาเซียนเพื่อให้อาเซียนร่วมมือกับโลก
3) ยุทธศาสตร์การสร้างการแข่งขัน และการถ่วงดุลของมหาอำนาจ เช่น การเจรจาเปิดเสรีการค้า เปิดให้มีการยื่นข้อเสนอต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย และพิจารณาดึงขั้วอำนาจขั้วที่สามเข้าสู่สมการถ่วงดุลอำนาจระหว่างประเทศอำนาจทั้งสองประเทศนี้
4) ยุทธศาสตร์หัวเข็มขัด คือการนำข้อได้เปรียบมาต่อรอง เช่น การต่อรองเรื่องเส้นทางรถไฟความเร็วสูงจากจีนไปสิงคโปร์ ซึ่งเส้นทางรถไฟจะผ่านประเทศไทยเป็นระยะทางที่ยาวที่สุดและคุ้มค่าที่สุด จึงควรใช้ประเด็นนี้ในการสร้างอำนาจต่อรองกับประเทศจีนในการพัฒนา SEZ ลำดับที่ 7
5) ยุทธศาสตร์การแสวงหาโอกาสจากความขัดแย้ง เช่น ส่งเสริมการลงทุนจากอุตสาหกรรมที่ย้ายฐานออกจากประเทศที่มีความขัดแย้ง เนื่องจากสงครามการค้าที่เกิดขึ้น ซึ่งจะสามารถดึงดูดคนรวย คนเก่งในประเทศที่มีสงครามหรือมีความเสี่ยงที่จะเกิดสงครามให้เข้ามาลงทุน ทำงาน หรือเข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยได้ เป็นต้น
6) ยุทธศาสตร์การรองรับความเสี่ยงจากความขัดแย้ง โดยเตรียมความพร้อมที่จะรองรับผลกระทบจากวิกฤตต่างๆ เช่น วิกฤตที่อาจเกิดขึ้นจากการเสื่อมค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ วิกฤตสงคราม รวมถึงปัญหาเงินเฟ้อที่ผ่านมา เป็นต้น
7) ยุทธศาสตร์การสร้างความสัมพันธ์ระดับบุคคล/องค์กร เพื่อทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นมากขึ้น ทั้งในระดับชนชั้นนำหรือระดับประชาชน เช่น การให้ทุนหรือขอทุนการศึกษาเพื่อเข้าศึกษาในโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยชั้นนำในสหรัฐอเมริกาหรือประเทศจีนมากยิ่งขึ้น การแลกเปลี่ยนบุคลากร การเชื่อมเครือข่ายคนไทยโพ้นทะเลที่ทำงานอยู่ในสหรัฐอเมริกาหรือจีนให้เข้ามาเป็นเครือข่ายในการร่วมพัฒนาประเทศ รวมถึงการจับคู่เมืองพี่เมืองน้องระหว่างประเทศไทยกับประเทศมหาอำนาจ
และ 8) ยุทธศาสตร์ความร่วมมือจัดการปัญหาข้ามพรมแดน โดยกำหนดมาตรการที่ชัดเจนเพื่อจัดการปัญหาเหล่านี้
โลกกำลังก้าวเข้าสู่ขั้วอำนาจที่มีหลายขั้ว ขั้วอำนาจใหม่และระเบียบโลกใหม่จะกลายเป็นความท้าทายสำหรับมหาอำนาจเดิมและระเบียบโลกเดิม ความตึงเครียดและความขัดแย้งระหว่างมหาอำนาจที่เกิดขึ้น ทำให้ประเทศไทยจำเป็นต้องพิจารณาการกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศด้วยความระมัดระวังและรอบคอบมากยิ่งขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดสิ่งที่เรียกว่าความพังทลายภายใต้เท้าของพญาช้างสารที่กำลังต่อสู้กันในปัจจุบัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี