‘พุทธะอิสระ’ปลุกสลิ่ม รักษาคนทำคุณไว้ทำงานต่อ สั่งสอน 3 กีบ
8 พฤษภาคม 2566 นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ “พุทธะอิสระ” อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม ได้แชร์โพสต์ของเพจ “เจริญ จาโร” ผ่านเฟซบุ๊ก “หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara)” พร้อมระบุว่า...
“ฉันเห็นด้วยกับสิ่งที่คุณพูด คุณโพสต์ คุณคิดนะ หากคนไทยใจสามกีบคิดได้อย่างคุณ เห็นได้อย่างคุณ บ้านเมืองนี้คงจะไม่เป็นดังยูเครนดอก
เพราะฉะนั้น เมื่อพวกเขาคิดไม่ได้ มืดบอดมองอะไรไม่เห็นเช่นนี้
พวกสลิ่มอย่างพวกเราที่มีอำนาจอยู่ในมือ มีจำนวนมากกว่า เราก็ควรพากันออกไปใช้สิทธิ์ในการรักษาคนที่ทำคุณให้แก่บ้านเมืองเอาไว้ให้ได้ทำงานต่อ
ทั้งยังถือเป็นการสอนบทเรียนอันสำคัญให้แก่เด็กๆ 3 กีบ ได้รับรู้ว่ายังไงสังคมไทยนี้ จะต้องตั้งมั่น เจริญ อยู่รอดจากการครอบงำของมหาอำนาจสองขั้วได้ ก็ด้วยการวางตัวตั้งตนให้เป็นกลาง จะได้ไม่เป็นดังเขมร และลาว ที่กลายเป็นเบี้ยล่างของจีนไปแล้ว
และเรื่องนี้จะสำเร็จได้ ก็ต้องอาศัยสลิ่มอย่างพวกเราออกไปใช้สิทธิ์เลือกคนดี เข้ามาทำหน้าที่
ไม่ใช่เลือกคนโกหก เก่งแต่การยุแยงให้แตกร้าว เพื่อจะได้เข้ามาปกครองตามแผนการของพวกซีไอเอ แล้วสร้างภาพว่าตนเป็นคนดีเลิศประเสริฐศรี หรือพรรคที่จงจะเอาเปรียบ คดโกงเข้ามาทำหน้าที่บริหารประเทศ
ยิ่งในเวลานี้โลกทั้งใบกำลังตกอยู่ในสภาวะสงครามโลกครั้งที่ 3
หากคนไทยยังมืดบอดไปเลือกคนผิด ยังคิดแต่ประโยชน์ส่วนตนเป็นใหญ่ เข้ามาบริหารประเทศ เดี๋ยวก็จะเหมือนการเลือกผู้ว่า กทม. แล้วก็ต้องมานั่งบ่น นั่งว่า นั่งเศร้ากันอยู่ทุกวันนี้
แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่เหมือนกับการเลือกผู้ว่า มันหมายถึงการเลือกขุนศึกที่จะนำพาประเทศให้อยู่รอดจากภัยสงคราม และการครอบงำของต่างชาติ
ทั้งที่สถานการณ์ทั่วโลกกำลังร้อนแรงเดือดปุดๆ อยู่ขณะนี้คงไม่มีสลิ่มคนไหนไปเลือกพรรคที่ออกมาบอกให้ยุติการเกณฑ์ทหารดอกนะ
เพราะถ้าเกิดสงครามขึ้นจริงๆ เป็นเช่นนั้นจริง คุณว่าพวกพรรคการเมืองและนักการเมืองที่เรียกร้องให้ยุติการเกณฑ์ทหารมันจะกล้าออกไปรบกับข้าศึกที่มารุกรานไหม
คิดมากๆ กันหน่อยนะจ๊ะ อย่ามัวแต่คิดอยู่แค่ปากท้อง กระเป๋าตนเท่านั้น หากชาติบ้านเมืองอยู่ไม่รอด พวกที่คิดเอาแต่ปากท้องเป็นที่ตั้งก็คงไม่รอดเหมือนกัน
พุทธะอิสระ”
ทั้งนี้ เพจ “เจริญ จาโร” โพสต์เนื้อหาว่า “ผู้ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมานานและเห็นวิกฤตของชาติเรื่อยมา ต้องมองออกว่าความขัดแย้งของมหาอำนาจนั้นไม่มีทีท่าว่าจะลดลง แต่อาจลามก่อเป็นสงครามใหญ่เสียด้วยซ้ำ ในเรื่องความมั่นคง การวางทีท่าของไทยนั้นเชื่อถือลุงตู่ได้ จีนนั้นมองไทยเป็นภาพดียังเรียกไทยเป็นบ้านพี่เมืองน้อง ซึ่งต่างไปจากลาวที่ไม่ใช่แล้ว กับอเมริกาก็ดีมาก การค้าการลงทุนเป็นปกติดี มีการซ้อมรบร่วมไม่มีการสั่งการให้ไทยต้องทำสิ่งนั้นสิ่งนี้แล้ว คนไทยเราที่เป็นพวกโปรจีนก็อยู่ร่วมกับติ่งอเมริกาได้เรียบร้อยไม่มีปัญหาอะไร แต่ทว่าเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงผู้นำชาติคนใหม่ขึ้นมา จะเอียงข้างแนบชิดจีนอย่างเขมรที่ให้ดินแดนกับจีนสร้างฐานทัพเรือ หรือเป็นอย่างฟิลิปปินส์เมื่อเปลี่ยนประธานาธิบดีแล้วก็ให้อเมริกาได้ขยายฐานทัพในประเทศของตน จึงเป็นความเสี่ยงมากที่จะได้ผู้นำในเวลาที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะไม่มีใครที่คิดได้ลึกซึ้งเท่าทันกลเกมของชาติมหาอำนาจ เมื่อไม่รอบรู้ก็อาศัยฟังและตัดสินใจจากคนรอบข้าง กับผู้มีอิทธิพลที่มีบุญคุณเหนือตน มีผลจะทำให้พาประเทศขึ้นเขาหรือลงเหวไปได้ ไทยนั้นต้องรักษาตัวให้รอด ต้องไม่เข้าไปผูกพันเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งมีแต่ลุงตู่ที่วางใจได้ในการรู้เท่าทันกลเกมระหว่างประเทศ”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี