สนามเลือกตั้ง ส.ส.สมุทรสงคราม กำลังเข้มข้น ทุกพรรค ทุกคน ตั้งความหวังไว้สูงสุดจะเป็น ส.ส.สมุทรสงครามให้ได้ ในขณะที่ผู้สมัครพรรค เพื่อไทย และ ก้าวไกล ต่างวิ่งหาเสียงกันแบบไฟแลบปล่อง ส่วน อดีต ส.ส.สมุทรสงคราม 5 สมัย นางสาวรังสิมา รอดรัศมี หรือ เจ๊โอ๋ ผู้สมัครส.ส. พรรครวมไทยสร้างชาติ ดิมทีนั้นอยู่ค่ายประชาธิปัตย์ มากว่า 20 ปี สมัครเข้ารับการเลือกตั้ง ส.ส.สมุทรสงคราม ในครั้งนี้ ย้ายมาซบ ลุงตู่ หรือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ
จากการสอบถาม ชาวบ้านในตำบลต่างๆ ยังยืนยันเลือก เจ๊โอ๋ รังสิมา เพราะเจอหน้าบ่อย ออกงานทุกงาน ไม่ทิ้งพื้นที่และประชาชน เป็น ส.ส.ติดดิน ทำได้ทุกอย่าง ให้รำหน้านาคก็เอา เดินสายไปงานศพทุกงาน ถ้าไปเองไม่ได้ ก็ส่งตัวแทนไปออกงานแทน ไม่มีพลาดสักงานเดียว ชาวบ้านเลยชื่นชอบ
ในขอบเขต ใกล้ตัวเมือง คะแนน ยังดีอยู่ แต่อย่าประมาท เพราะ"รองเอส" นายธนธัส ขุนนุช ผู้สมัคร ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ แทน นางสาวรังสิมา ก็เป็นคนในเขตตัวเมือง อดีตเป็นรองนายก เทศบาลเมืองสมุทรสงคราม ยุค"ตี๋ ปลาทอง"เป็นนายก และเป็นรองนายก อบจ. สมัย"สุกานดา" เป็นนายกฯ แต่ลาออกมา พร้อมกับ น้องชาย"รังสิมา"
"รองเอส" จึงมีกำลังในตัวเมืองมากพอสมควร คงต้องเป็นลิงชิงเก้าอี้ กัน ระหว่าง พรรครวมไทยสร้างชาติ กับ พรรคประชาธิปัตย์
และไม่ใช่แต่ นางสาวรังสิมา และ รองเอส เท่านั้น ที่ต้องการกวาดคะแนน ในตัวเมือง ยังมี นายดิเรกฤทธิ์ เล็กสกุล ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรสงคราม ในนามพรรคเสรีรวมไทย โดย นายดิเรกฤทธิ์ เป็นจิตอาสา สายเลือดเดียวกับ นายสุรจิต ชีวเวทย์ อดีต สว. สมุทรสงคราม ที่เสียชีวิตไปแล้ว เป็น เอ็นจีโอ รุ่นกลาง รุ่นเดียวกับครูยุ่น หรือ นายมนตรี สินทวีชัย พ่อบ้านพัก เด็กและสตรี ที่มีปัญหาทางสังคม และทางกฎมาย ตอนนี้อยู่ในระหว่าง ถูกตั้งคณะกรรมการสอบ ข้อเท็จจริงอยู่
และรุ่นเดียวกันนี้ ยังมี นายยังชิน แก้วชัยเจริญกิจ นายปรีชา เจี๊ยบหนู ผู้ยังรู้ดินลมไฟ ในแม่กลอง เป็นอย่างดี นายดิเรกฤทธิ์ น่าจะได้คะแนน จากกลุ่ม เอ็นจีโอ หรือกลุ่มจิตอาสา ในจังสมุทรสงคราม ชอบงานเสี่ยง และท้าทาย งานนี้ไม่ใช่ไม้ดอกไม้ประดับ แต่เป็นไม้ในกระถาง ที่มีคนดูแล
ในเขตเมืองสมุทรสงคราม ยังมี นายนิทารัตน์ แพทย์วงศ์ ผู้สมัคร สส.พรรค นามพรรค ไทยสร้างไทย ของ เจ๊หน่อย สุดารัตน์ หญิงเก่งคนหนึ่งของเมืองไทย ที่มีโอกาสเป็นนายกรัฐมนตรีหญิง คนที่ 2 ของเมืองไทย ซึ่งนายนิทรารัตน์ เป็นทนายความ และเป็นนายกทนายความสมุทรสงคราม มีตำแหน่งในสังคม มากพอสมควร อาจได้คะแนนจาก เพื่อทนายด้วยกัน และคนที่ชอบนักกฎหมาย
ขณะที่ นายกล้า หรือ นายอานุภาพ ลิขิตอำนวยชัย ลูกชาย อดีตนายก อบจ.สมุทรสงคราม นายอำนวย ลิขิตอำนวยชัย พ่อหยุดเล่นการเมือง แต่ลูกชาย ลงเล่นแทน นายอนุภาพ หรือ นายกล้า ลงสมัครในนามพรรคก้าวไกล เหมาะสมมาก เพราะเป็นรุ่นใหม่ใจถึง เป็นคนกล้า สมชื่อ คราวที่แล้วลงสมัคร นายก อบจ. ก็สมัครในนามพรรคก้าวไกล คราวนี้ มาสมัครเป็น ส.ส. ถูกใจคนรุ่นใหม่ และวัยรุ่น
การหาเสียงของนายกล้า ก็ยืนกลาง 4 แยก ไฟแดง หน้าเทศบาลเมืองสมุทรสงคราม ทุกวัน ตอนเช้าช่วงหนึ่ง ตอนเย็นช่วงหนึ่ง มีรถแห่คันเดียว ขับเอง พูดเอง มีแต่แม่บ้าน ที่ตามมาเป็นเพื่อน เพราะกลัวร้อนตาย คาแยกไฟแดง
นายกล้าเข้ามาได้ถูกจังหวะ เพราะในขณะนี้ วัยรุ่น และวัยไม่รุ่น ในเมืองแม่กลอง เบื่อนักการเมืองรุ่นเก่า และนักการเมืองภาพใหญ่ ที่เป็นรัฐบาล ในขณะนี้ อยากได้คนรุ่นใหม่ ไฟแรง มาพัฒนาเมือง งานนี้ เหมือนประลองพลังกันระหว่างวัยรุ่น กับวัยโรย เลือก สส. สมุทรสงคราม หากวัยไม่รุ่น นอนหลับทับสิทธิ์ วัยรุ่นก็มีความหวัง ที่นั่งเก้าอี้ สส.สมุทรสงครา ในนามพรรคก้าวไกล
มาถึง นางสาวญานิชา หรือ รองรัก ผู้สมัครส.ส.พรรคเพื่อไทย เดิมเริ่มเล่นการเมืองโดยการเป็นรองนายก อบต. สวนหลวง อ.อัมพวา ก็เรียกกันติดปากว่า รองรัก ต่อมาลาออก มาสมัครสมาชิกสภา อบจ.เขตอัมพวา ได้เป็น สจ.เขตอัมพวาสมใจ แล้วก็มาลาออกลงสมัคร นายก อบจ. แต่ผิดหวังเพราะสอบตกเพราะเธอเดินแต้มตามนักการเมืองด้วยกันไม่ทัน ถูกหลอก ให้ลงสมัครให้ลงทุนแต่โดนหักหลัง ทำให้เสียความรู้สึกมาก แต่แทนที่ รองรัก จะเข็ดขยาดเลิกเล่นการเมือง แต่ รองรัก กับลงสมัคร ส.ส.สมุทรสงคราม ในนามพรรคเพื่อไทย พิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง
รองรัก เป็นคนเด็ดเดี่ยว กล้าพูด กล้าทำ กล้าคิด ดีกรีจบปริญญาโท กำลังจะเรียนต่อปริญญาเอก แต่ชีวิตมาหักเห เข้ามาเล่นการเมืองเสียก่อน เธอเป็นเจ้าของบ้านพักทอแสงรีสอร์ท อัมพวา ฐานะค่อนข้างดีมาก จึงไม่กลัวว่าจะไปไม่ถึงดวงดาว และคล้ายๆกับก้าวไกลคือ เข้ามาในขณะที่คนเบื่อนักการเมืองในยุคปัจจุบัน ที่บริหารโดย 2 ลุง ดังนั้น รองรัก จึงเสนอตัวขึ้นมาในนามพรรคเพื่อไทย แบบถูกจังหวะ
นายณรงค์ ญานศิริ หรือ เสี่ยช่อน ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคภูมิใจไทย เป็นเจ้าของร้านอาหารในดอนหอยหลอด เล่นการเมืองมานานพอสมควร เริ่มต้นด้วย สมาชิกสภา อบต.บางจะเกร็ง หลายสมัย เคยสมัคร ลงนายก อบจ.ในครั้งที่ผ่านมา แต่ไปไม่ถึงดวงดาว คราวนี้ ลงสมัคร ส.ส. สมุทรสงคราม ในพรรคการเมืองที่กำลังมีปัญหา เรื่องกัญชาเสรี นี่อาจส่งผลต่อผู้ที่สมัคร ส.ส.ในนามพรรคภูมิใจไทยที่อาจจะเหนื่อยหน่อย คาดว่าคะแนนเสียงส่วนหนึ่งคงจะได้มาจากแฟนพันธุ์แท้ของผู้ที่สมัคร มากกว่าที่จะได้จากกระแสนิยมของพรรคในพื้นที่
ส่วนอีกคนคือ นายธนพล ธนิกุล ผู้สมัครส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ลูกชายนายนุกูล ธนิกุล อดีต ส.ส.สมุทรสงครามหลายสมัย และเป็นบุตรชายของนางสาวสุกานดา ปานะสุทธะ (ธนิกุล) ลูกไม่หล่นไม่ไกลต้น ฉันใด ลูกชายของ ป๋านุกูล และ สุกานดา ธนิกุล คงไม่ต่างกันมากนัก เดิม อดีต สส.นุกูล จะมีคะแนน จัดตั้งประมาณ 15,000 คะแนน ส่วนผู้เป็นแม่มีคะแนน จัดตั้งประมาณ 20,000 กว่าคะแนน เมื่อเอาคะแนนมาบวกรวมกันประมาณ 35,000 คะแนน อาจได้คะแนนส่วนตัวผู้สมัครประมาณ 5,000 กว่าคะแนน เบ็ดเสร็จอาจได้เกิน 40,000 คะแนน จึงน่าจับตาเช่นกัน
โค้งสุดท้ายในการเลือกตั้ง ส.ส.สมุทรสงคราม ถ้าไม่ฝันกลางวัน ชาวสมุทรสงครามอาจเปลี่ยนใจเลือกผู้สมัคร ส.ส.สมุทรสงครามที่เป็นคนใหม่ ในนามพรรคที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับรัฐบาล ไม่เลือกผู้สมัครที่มีโอกาสเป็นรัฐบาลร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เลือกผู้สมัครพรรคตรงกันข้ามเป็นรัฐบาล เช่นพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคเสรีรวมไทย หรือพรรคไทยสร้างไทย คุณหญิงสุดารัตน์ และอีกหลายพรรค ที่ไม่เอาลุงตู่ ลุงป้อม เนื่องจากว่ากันตามกระแสอยากได้รัฐบาลใหม่ นายกรัฐมนตรีใหม่
ลักษณะการศึกสงคราม เลือกตั้ง ส.ส.สมุทรสงคราม ในครั้งนี้ มี 2 ลักษณะคือเดินแนวแบบเอาป่าล้อมเมือง และอีกฝ่ายเอาเมืองล้อมป่า หาเสียงในนอกเขตเมือง แล้วค่อยเข้ามาตีเมืองขึ้นภายหลัง ในขณะอีกฝ่ายตีเมืองหลวงให้ได้ก่อน แล้วค่อยขี่ม้ารอบเมือง ยุทธการ 2 แบบ นี้ จะประสบความสำเร็จหรือไม่ วันที่ 14 พฤษภาคม 2566 จะได้ทราบกันยุทธการรูปแบบไหนไปถึงดวงดาว!!!
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี