‘ชาติพัฒนากล้า’ย้ำจุดยืน ร่วมรัฐบาลเสียงข้างมากไม่อาศัยเสียง ส.ว. แต่ถ้าผลักดันนโยบายพรรคที่หาเสียงไว้ไม่ได้ ขอเป็นฝ่ายค้าน

12 พฤษภาคม 2566 นายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวในการประชันวิสัยทัศน์และนโยบายโค้งสุดท้ายเลือกตั้ง 66 จัดโดย กลุ่มปฏิรูปประเทศไทยสู่ความยั่งยืน (ภาคประชาสังคม) โดยตอบคำถามในประเด็น สิ่งแรกที่พรรคชาติพัฒนากล้าจะทำหากได้เป็นรัฐบาล คือ การยกเลิกค่าเอฟทีสามเดือนแรก เพื่อทำให้ค่าไฟถูกลง และสิ่งที่จะทำต่อมาคือ การปรับโครงสร้างพลังงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่เราสู้แน่ ๆ เพราะตอนนี้ ค่าการกลั่น ค่าการตลาด เป็นราคาสมมุติ ไม่ใช่ราคาที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งถ้าเราแก้ตรงนี้ได้ ค่าพลังงานถูกลงแน่นอน นอกจากนี้ การเจรจาเรื่องการทำสัญญากับภาคเอกชนที่ทำให้เกิดความมั่นคงทางพลังงานที่รัฐบาลชอบอ้าง วันนี้ชัดแล้วว่ามันเป็นความมั่นคงของนายทุนพลังงานที่ทำให้เกิดมหาเศรษฐี ร่ำรวยขึ้นมาอีกหลายคน ในเวลาเพียงแค่ไม่กี่ปี และผลของมันคือ ทำให้ประชาชนต้องจ่ายค่าไฟ ค่าน้ำมัน ให้กับนายทุน

นายวรวุฒิ กล่าวว่า สิ่งที่พรรคชาติพัฒนากล้าพยายามผลักดัน คือ เราจะทำให้เอกชน หรือประชาชน เป็นโรงผลิตไฟฟ้าเสียเอง โดยผลิตจากแสงแดด โครงการโซลาร์รูฟท็อป เราพร้อมที่จะให้ประชาชน สามารถกู้ไม่เสียดอกเบี้ย โดยเป็นผู้ลงทุน และค่าไฟฟ้าที่เกิดจากการประหยัดการใช้ไฟฟ้าเป็นค่าผ่อน ซึ่งเราคำนวณแล้วว่าประมาณ 5 ปี เหมือนได้ใช้แผงโซลาร์ฟรี และเมื่อเกินปีที่ 5 ไปแล้ว ประชาชนจะได้กำไร จากการขายไฟฟ้าคืนรัฐ และจะทำให้กระบวนการโครงสร้างราคาพลังงานประเทศนี้เปลี่ยนแปลงโดยสิ้นเชิง อีกสิ่งหนึ่งคือ โครงการเปิดเสรีในเรื่องของสายไฟ หรือโรงที่จะส่งไฟ ซึ่งเวลานี้การเดินสายไฟไปตามบ้านต่าง ๆ การไฟฟ้าผูกขาดอยู่ ตรงนี้ต้องเปิดให้มีการแข่งขันเสรี ราคาพลังงานจะถูกลงอัตโนมัติ

ส่วนเงื่อนไขการเข้าร่วมรัฐบาลนั้น นายวรวุฒิ กล่าวว่า พรรคชาติพัฒนากล้า มีจุดยืนคือนะเข้าร่วมรัฐบาลที่รวมเสียง ส.ส.จากสภาล่าง ได้มากโดยไม่เอาเสียงส.ว.มาสนับสนุนเพื่อให้โหวตเลือกนายก และในเงื่อนไขต่อไป คือถ้าเราได้ร่วมรัฐบาล แล้วเราก็ต้องดูด้วยว่า การเข้าร่วมนั้นเราสามารถผลักดันนโยบายหรือสิ่งที่พรรคอยากจะทำได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าเกิดเราเข้าไปแล้วไม่สามารถแก้ปัญหา โครงสร้างเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศนี้และหมักหมมมาหลายสิบปี เราก็จะไม่สามารถทำในสิ่งที่เราอยากทำ ซึ่งโครงสร้างดังกล่าวประกอบด้วย 1. โครงสร้างพลังงาน ต้องทำให้ ค่าไฟ ค่าน้ำมัน ซึ่งเป็นสิ่งที่พรรคเราต่อสู้มาตลอดปีกว่า และเป็นพรรคแรกที่ออกมาพูดเรื่องพลังงาน จะต้องถูกลง 2. การเข้าถึงแหล่งเงินทุนมากขึ้น ของคนตัวเล็ก เอสเอ็มอี เพื่อไม่ให้เป็นหนี้นอกระบบด้วยการยกเลิกแบล็กลิสต์ และมาใช้ระบบเครดิตสกอร์แทน  3. ปรับโครงสร้างภาษี คนที่มีรายได้ไม่ถึง 40,000 บาท ไม่ต้องเสียภาษี เพราะไม่ได้ปรับมาเป็นสิบปีแล้ว 4. โครงสรางระบบราชการ ล้าหลัง เป็นอุปสรรค ไม่โปร่งใส ทำให้เกิดการคอรัปชั่น เรื่องแบบนี้ต้องทำ

“เรื่องต่อไปคือเรื่องของการหารายได้ พรรคชาติพัฒนากล้า มีโครงการ หารายได้ เข้าประเทศ 5.5 ล้านล้านบาทใน 4 ปีข้างหน้า ถ้าเรื่องพวกนี้ถ้าเราไม่มีโอกาสได้ทำ เป็นฝ่ายค้านดีกว่า ครับ” รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าว 

นายวรวุฒิ กล่าวด้วยว่า กล่าวว่า เวลาที่เราจะรักใคร ชอบใคร หรือ ไม่ชอบใคร ยึดหลักกาลามาสูตร ฟังเขาเล่าว่าไม่เท่ากับเราค้นคว้าหาข้อมูลด้วยตัวเอง ยกตัวอย่าง นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า มักจะโดนโจมตีมาก ในเรื่องที่โหวต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี  ซึ่งถ้าถามกลับไป วันนี้พรรคก้าวไกล รวมเสียงข้างมากได้ แล้วเสนอนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกฯ โดยไม่มีเสียง ส.ว.มา แล้วถ้านายกรณ์ ไปโหวตให้นายพิธา  เป็นนายก นายกรณ์จะเป็นเผด็จการ หรือ เป็นพวกทรราชย์ไหม คำตอบคือ ไม่ใช่ เพราะคราวที่แล้วโหวต พล.อ.ประยุทธ์ เขาก็รวมเสียง สส.กันได้มากที่สุด โดยที่ไม่ได้รวมเสียง ส.ว. มา แล้วก็โหวต ตามกติกาประชาธิปไตยเหมือนกันทุกประการ เรื่องแบบนี้ พอมันปั่นเป็นกระแส โจมตีกันไปโจมตีกันมา หลายคนก็บอกว่า ว่าโหวต พล.อ.ประยุทธ์ เป็นสิ่งเลวร้าย ซึ่งถ้าบอกว่าเลวร้าย และอีกเสียงเกินครึ่งของรัฐบาลทำไมไม่โดนโจมตีเหมือนนายกรณ์ นี่คือเกมการเมือง  ที่บางครั้งสร้างภาพให้คนเป็นผู้ร้ายโดยที่ฟังแบบต่อ ๆ กันมา แล้วแชร์กัน ด่ากันมันปาก

“เราอยากเห็นการเมืองใหม่  ที่ใช้เหตุผล ข้อมูล วิจารณญาณ ถ้าเป็นแบบนี้แล้ว การเลือกที่จะชอบหรือไม่ชอบพรรคไหน ผมว่าเป็นสิทธิของท่านโดยชอบธรรม แต่ขออย่างเดียว อย่าเลือกเพราะกระแส อย่าเลือกเพราะคนอื่นบอก แต่ท่านต้องตัดสินใจ ว่าท่านพิจารณาดีแล้วพรรคนี้มีนโยบายถูกใจท่านจริง ๆ คุณภาพผู้สมัครถูกใจท่านจริง ๆ แต่ถ้าท่านไม่รู้อะไรเลย รู้แต่ว่ากาพรรคนี้เถอะ นั่นท่านเลือกเพราะกระแส และท่านไม่ได้ใช้ความเป็นตัวของตัวเองอย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งประเทศเรา ก่อนที่ประชาธิปไตยจะแข็งแรงได้ ท่านมีความรักษาสิทธิของท่าน การเลือกตั้งเป็นโอกาสในรอบหลายปี ก่อนจะเลือกตั้งใคร ท่านต้องศึกษาให้ละเอียด นโยบายพรรค คุณภาพบุคลากรของพรรคเป็นอย่างไร แล้วท่านตัดสินใจ ผมว่านักการเมืองจะยอมรับการตัดสินใจของท่าน” รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าว