18 ต.ค.56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊คเกี่ยวกับข่าวนายเสริม สาครราษฎร์ อดีตนักโทษคดีฆ่าฟั่นศพที่สำเร็จการศึกษาจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช โดยเปลี่ยนชื่อนามสกุลใหม่เป็น “ไชยา ตันทกานนท์” ที่มาสมัครเป็นสมาชิกวิสามัญ เนติบัณฑิตยสภา
แต่ปรากฏว่า คณะกรรมการเนติบัณฑิตยสภา ที่มีนายดิเรก อิงคนินันท์ ประธานศาลฎีกา เป็น นายกเนติบัณฑิตยสภา มีมติเอกฉันท์ไม่รับนายเสริม หรือ ไชยา เข้าเป็นสมาชิกวิสามัญ ว่า เป็นมติที่ถูกต้องเพราะคนที่ใช้อาวุธปืนยิงคนรักตายแล้วยังใช้มีดที่เตรียมไว้ก่อนแล่เนื้อในห้องพักของตนเองใส่ชักโครกนั้น ถ้าไม่ใช่คนที่มีจิตใจเหี้ยมโหดผิดปกติจากคนธรรมดาคงไม่อาจกระทำได้ ขืนรับเป็นสมาชิกและเขาได้ประกอบอาชีพทนายความอาจเกิดเหตุการณ์ที่ร้ายแรงกับลูกความของเขาอีกก็ได้
“คนที่มีสมองดี เฉลียวฉลาด เรียนหนังสือเก่ง ทำงานเก่ง แต่ส่วนลึกของจิตใจหรือที่เรียกว่า จิตใต้สำนึกผิดปกติ นี่แหละคือ สาเหตุแห่งความสับสนวุ่นวุ่นวาย ก่อความเสียหายอย่างรุนแรงให้แก่มนุษยชาติตลอดมา ประเทศไทยในปัจจุบันมีผู้มีนำที่นอกจากไม่ฉลาดแล้วยังมีจิตใจผิดปกติด้วย ประชาชนจึงเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้าและประเทศชาติจึงใกล้จะล้มละลายแล้ว”
ข้อความที่นายชูชาติโพสต์ลงเฟซบุ๊ค
เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2556 นายดิเรก อิงคนินันท์ ประธานศาลฎีกา ในฐานะนายกสภาเนติบัณฑิต ได้เรียกประชุมคณะกรรมการบริหารเนติบัณฑิต รวม 26 คน เพื่อพิจารณาคุณสมบัติบัณฑิตนิติศาสาตร์จากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ หลายร้อยคน ที่มาสมัครเป็นวิสามัญสมาชิกเนติฯ เพื่อมีสิทธิสวมเสื้อครุยทนายความ และเป็นส่วนหนึ่งของการมีคุณสมบัติสอบเป็นผู้พิพากษา ในจำนวนนี้มีนายเสริม สาครราษฎร์ อายุ 37 ปี อดีตผู้ต้องขังเด็ดขาด โทษประหารชีวิต แต่ลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิตในคดีฆ่าหั่นศพ น.ส.เจนจิรา พลอยองุ่นศรี นักเรียนแพทย์วชิรพยาบาล เมื่อปี 2544 และพ้นโทษเดือน ธ.ค. 2555 โดยนายเสริมสำเร็จการศึกษาจากคณะนิติศาสตร์ ม.สุโขทัยธรรมาธิราช และได้เปลี่ยนชื่อนามสกุลใหม่เป็น นายไชยา ตันทกานนท์ แต่ไม่สามารถเล็ดลอดผ่านสายตาคณะกรรมการกล่ันกรองไปได้ ที่ประชุมจึงมีมติเป็นเอกฉันท์ ไม่รับนายเสริม เป็นวิสามัญสมาชิกเนติฯ เนื่องด้วยนายเสริมเคยมีคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญเป็นที่ทราบกันอยู่ทั่วไป ถือว่ามีความมัวหมอง ทั้งนี้ก่อนหน้านี้นายเสริมได้ไปสมัครสอบใบอนุญาตว่าความของสภาทนายความ แต่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการ
.....ข่าวดังกล่าวมีข้อความคลาดเคลื่อนหลายประการ ใคร่ขอชี้แจงเพื่อให้รู้ข้อมูลที่ถูกต้องดังนี้
..........1 ชื่อขององค์กรคือ เนติบัณฑิตยสภา ไม่ใช่ สภาเนติบัณฑิต
..........2 ชื่อของคณะกรรมการ คือ คณะกรรมการเนติบัณฑิตยสภา ไม่ใช่ คณะกรรมการบริหารเนติบัณฑิต
..........3 เนติบัณฑิตยสภา มีสมาชิก 3 ประเภท คือ
...............3.1 สมาชิกสามัญ คือผู้ที่สำเร็จการศึกษาจากสำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา ได้เป็นเนติบัญฑิต
...............3.2 สมาชิกวิสามัญ คือผู้ที่สำเร็จปริญญาตรีนิติศาสตร์
...............3.3 สมาชิกสมทบ คือผู้สำเร็จปริญญาตรีนิติศาสตร์และต้องการเข้าศึกษาต่อที่สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา
..........4 ผู้ที่จะสมัครคัดเลือกเป็นผู้ช่วยผู้พิพากษาได้ อย่างน้อยต้องจบปริญาตรีนิติศาสตร์และต้องสำเร็จเนติบัณฑิต ทั้งต้องเป็นสามัญสมาชิกแห่งเนติบัณฑิตยสภา
..........เสื้อครุยที่ทนายความใส่กันอยู่นั้น ไม่ใช่เสื้อครุยของทนายความ แต่เป็นเสื้อครุยของเนติบัณฑิตยสภา ผู้ที่เป็นสมาชิกของเนติบัณฑิตยสภา ทั้งผู้พิพากษา อัยการ ทนายความ และผู้ประกอบอาชีพอื่น ๆ ก็มีสิทธิใส่กัน สมัยก่อนทั้งผู้พิพากษา อัยการ และทนายความ ต่างก็ใส่เสื้อครุยของเนติบัณฑิตยสภาเหมือนกัน แต่มาผู้พิพากษาได้เปลี่ยนไปใส่เสื้อครุยของผู้พิพากษาโดยเฉพาะ
..........นายเสริม สาครราษฎร์ จบปริญาตรีวิศวกรรมศาสตร์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไปสอบเข้าเรียนแพทย์ที่คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี แต่ไม่ผ่านวิชาการทดสอบทัศนคติ พูดกันง่าย ๆ ก็คืิอ จิตใจผิดปกติ จึงไปสอบเข้าเรียนที่คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลวชิระ ที่นั่นไม่มีการทดสอบเช่นที่รามาธิบดี นายเสริมสอบได้ ขณะเกิดเหตุฆ่าหั่นศพนั้น นายเสริมเป็นนักศึกษาปีที่ 2 ส่วนนางสาวเจนจิรา พลอยองุ่นศรี เป็นนักศึกษาแพทย์ ปีที่ 5 คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี (ไม่ใช่ที่วชิระพยาบาล)
..........การที่คณะกรรมการเนติบัณฑิตยสภามีมติไม่รับนายเสริมเป็นสมาชิกของเนติบัณฑิตยสภา ก็มีผลให้นายเสริมไม่อาจเป็นทนายความได้ เพราะตาม พรบ.ทนายความ 2528 มาตรา 35 (3) กำหนดไว้ว่า ผู้ขอจดทะเบียนและรับใบอนุญาตต้องเป็นสมาชิกแห่งเนติบัณฑิตยสภา
..........เห็นว่า เป็นเรื่องที่ถูกต้อง เพราะคนที่ใช้อาวุธปืนยิงคนรักตายแล้วยังใช้มีดที่เตรียมไว้ก่อนแล่เนื้อในห้องพักของตนเองใส่ชักโครกนั้น ถ้าไม่ใช่คนที่มีจิตใจเหี้ยมโหดผิดปกติจากคนธรรมดาคงไม่อาจกระทำได้ ขืนรับเป็นสมาชิกและเขาได้ประกอบอาชีพทนายความอาจเกิดเหตุการณ์ที่ร้ายแรงกับลูกความของเขาอีกก็ได้
.....คนที่มีสมองดี เฉลียวฉลาด เรียนหนังสือเก่ง ทำงานเก่ง แต่ส่วนลึกของจิตใจหรือที่ีเรียกว่า "จิตใต้สำนึกผิดปกติ" นี่แหละคือ สาหตุแห่งความสับสนวุ่นวุ่นวาย ก่อความเสียหายอย่างรุนแรงให้แก่มนุษยชาติตลอดมา
.....ประเทศไทยในปัจจุบันมีผู้มีนำที่นอกจากไม่ฉลาดแล้วยังมีจิตใจผิดปกติด้วย ประชาชนจึงเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้าและประเทศชาติจึงใกล้จะล้มละลายแล้ว ครับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี