ม็อบส้มจุดพลุป้อง‘พิธา’

บกกดดันกกต.

จี้รับรองผลสส.ก่อน20มิ.ย.

บีบยกคำร้องปมหุ้นสื่อ

อย่าเตะถ่วงตั้งรบ.ใหม่

วิษณุยัน‘แม้ว’กลับไทย

ต้องติดคุก/กักกันไม่ได้

ศูนย์ราชการฯเข้ม! รับม็อบบุกกกต.“กลุ่ม 24 มิถุนาฯ”มาตามนัดบุกกดดันกกต.จี้รับรองผลสส.ก่อน 20 มิถุนายน-ให้ยกคำร้อง“พิธา”สอบปมหุ้นไอทีวี ขออย่าเตะถ่วงกระบวนการตั้งรัฐบาลใหม่ ลั่น 20 มิถุนายนนี้ จะกลับมาติดตามผลคืบหน้า“วิษณุ”แจงระเบียบราชทัณฑ์ ไม่ได้เอื้อ
“ทักษิณ”ถ้าศาลสั่งจำคุกใช้กักกันไม่ได้ ย้ำไม่โยงปม “แม้ว” จะกลับบ้าน เชื่อกกต.นับคะแนนใหม่ 47 หน่วย ไม่กระทบไทม์ไลน์การเมือง ชี้มีกรอบเวลา 60 วันต้องประกาศรับรองสส.ไม่เกิน 13 กรกฎาคม

หลังจากที่ กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย นำโดยนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข พร้อมด้วยแนวร่วม ประกาศจะเดินทางมาช่วงบ่ายเพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องให้กกต.เร่งประกาศรับรองผลการเลือกตั้งทันที และไม่รับคำร้องให้ตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตของพรรคก้าวไกล กรณีถือหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ไว้พิจารณาวินิจฉัยวินิจฉัย

ศูนย์ราชการฯเข้ม!เตรียมรับม็อบ

เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)อาคารรัฐประศาสนภักดี(อาคารบี) ศูนย์ราชการฯ ถ.แจ้งวัฒนะ เวลา 10.00น.ทางเจ้าหน้าที่ได้นำแผงเหล็กสีแดงมาตั้งเป็นแนวก่อนทางเข้าอาคาร โดยประชาชนมาติดต่อหน่วยงานราชการต่างๆโดยยังต้องมีการแลกบัตรเข้าออกอากาศตามขั้นตอน ผ่านจุดตรวจแสดงบัตรประชาชน สแกนใบหน้าและตรวจสัมภาระก่อนเข้าอาคารด้วย

สำหรับบรรยากาศ โดยรอบสำนักงานกกต.มีกำลังตำรวจกองบังคับการตำรวจนครบาล2หรือบกน.2 เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ทุ่งสองห้อง ทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบเข้ามารักษาความปลอดภัยและ คอยสังเกตการณ์ 50 นาย และกองร้อยน้ำหวานเกือบ20คน

รองผบก.น.2ตรวจรับมือม็อบบุกกกต.

เวลา12.00น.พ.ต.อ.ภัทรภณ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รองผบก.น.2เดินทางมาตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ทุ่งสองห้องที่ปฎิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต)ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะโดยกล่าวกับกำลังพล36นายว่าฝากดูแลความเรียบร้อยบริเวณศูนย์ราชการ ทั้งด้านในด้านนอกโดยวันนี้กลุ่มผู้ชุมนุมจะมายื่นหนังสือเรียกร้องกับกกต.โดยจะส่งผู้แทนเข้าไปยื่นด้านใน ขอให้ทุกคนดูแล ไม่ให้มีปัญหาหรืออันตรายเกิดขึ้น ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนทำงานต่อไป

ทั้งนี้ พ.ต.อ.ภัทรภณให้สัมภาษณ์ว่าการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่วันนี้เป็นเรื่องปกติ รักษาความสงบเรียบร้อยให้กับประชาชนและไม่ได้จัดกำลังเข้มข้นแต่อย่างใด

ม็อบบุกจี้กกต.รับรองสส.-ตีตกคำร้องพิธา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา13.00น.ที่หน้าอาคารบี ศูนย์ราชการฯแจ้งวัฒนะ กลุ่ม 24 มิถุนา ประชาธิปไตย นำโดย นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข พร้อมคณะได้เดินทางมาตามนัด ยื่นหนังสือต่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)เพื่อเรียกร้องขอให้กกต.รับรองผลการเลือกตั้งทันทีและยุติการขัดขวางประชาธิปไตย

โดยนายสมยศกล่าวว่ากกต.ยังไม่ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งทั้งแบบแบ่งเขต และแบบบัญชีรายชื่อ ขณะนี้มี 8 พรรคการเมืองได้เสียงข้างมากในสภาฯถึง 312 เสียงเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลโดยมีการเสนอให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกลเป็นนายกรัฐมนตรีดังนั้น การที่ กกต.ยังไม่รับรองผลการเลือกตั้งส.ส.ร้อยละ95ทำให้กระบวนการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรล่าช้าและไม่สามารถจัดการประชุมรัฐสภาในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้โดยเร็ว

ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชารักษาการนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ต้องรักษาการรัฐบาลอยู่ในอำนาจต่อไป และเปิดโอกาสให้อำนาจนอกระบบประชาธิปไตยและผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญเข้าแทรกแซงกระบวนการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ไม่ยอมให้นายพิธาและพรรคการเมืองที่ได้รับเสียงสนับสนุนท่วมท้นจากประชาชนจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ จนเป็นเหตุวิกฤตการเมืองในขณะนี้

ค้านรับคำร้องขู่อาจนำสู่ชุมนุมใหญ่

นายสมยศกล่าวต่อว่ากกต.ควรเร่งรีบในการพิจารณาเรื่องร้องเรียนกรณีนายพิธาถือหุ้นสื่อไอทีวีอันอาจนำไปสู่การขาดคุณสมบัติการเป็นนายกรัฐมนตรีกระทั่งอาจไปถึงการยุบพรรคก้าวไกลหรือต้องจัดการเลือกตั้งซ่อมและไม่ได้ส่งผลต่อการได้รับคะแนนนิยมท่วมท้นจากประชาชนที่ใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ดังนั้น ทางกลุ่มฯมองว่าไม่ควรรับคำร้องในกรณีนี้ไว้พิจารณาวินิจฉัย เพราะเป็นการใช้ข้อกำหนดรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตยและอาจจะนำไปสู่การออกมาชุมนุมประท้วงกันขนาดใหญ่ได้

ป้อง‘พิธา’ซัดร้องปมหุ้นหวังโค่นปชต.

“ถ้ากกต.รับเรื่องของนักร้องมาวินิจฉัยแสดงให้เห็นว่ากกต.มีความเชื่อมโยงกับคณะรัฐประหารตั้งแต่ปี2557เพราะมาจากการแต่งตั้งจากส.ว.ซึ่งส.ว.มาจากการคณะรัฐประหาร หากมีการหยิบยกคำร้องที่มีการดำเนินการเพื่อกลั่นแกล้งไม่ให้นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี วันนี้ไม่ได้เอาหลักฐานใดๆมามอบกกต.เพราะสังคมรับรู้ว่าไอทีวี ไม่มีอยู่จริง นายพิธาไม่ได้ถือหุ้นตั้งแต่ มีสื่อไอทีวี แต่เป็นการได้รับมรดกและวันนี้ได้โอนไปให้ทายาทเรียบร้อยแล้ว ซึ่งการถือหุ้นเป็นหุ้นที่น้อยมาก ไม่สามารถสั่งการใดๆในไอทีวีได้ การร้องเรียนและการรับเรื่องเป็นไปในทิศทางที่มีเจตนาร้ายและเป็นการโค่นล้มประชาธิปไตย”นายสมยศย้ำ

ขีดเส้นรับรองสส.95%ก่อน20มิ.ย.

นายสมยศ กล่าวอีกว่าดังนั้นจึงขอให้กกต.อย่าเตะถ่วงหน่วงเหนี่ยวการรับรองผลการเลือกตั้งทันทีและ ขอให้ประกาศการรับรองผลการเลือกตั้งให้ได้มากกว่าร้อยละ95ภายในวันที่ 20 มิ.ย.หรือโดยเร็วที่สุด เพื่อจัดตั้งรัฐบาล เปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรและประชุมรัฐสภาโหวตนายกรัฐมนตรี

พร้อมย้ำว่าในวันที่ 20 มิ.ย.นี้ ตนจะเดินทางมา กกต.อีกครั้ง เพื่อสอบถามความคืบหน้าในการรับรอง ส.ส. ที่ควรมีการรับรองได้แล้วบางส่วน ส่วนพื้นที่ใดที่ต้องนับคะแนนใหม่ ก็สามารถทำต่อไปได้

กกต.แจงยังไม่มีคำสั่งยุบ‘ก้าวไกล’

เพจสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)โพสต์เฟซบุ๊คชี้แจงที่ผู้โพสต์ในแอปพลิเคชันติ๊กต๊อกใช้ชื่อบัญชีว่า“arfanpppppp”ว่า“ด่วนที่สุดกกต.ส่งหนังสือยุบพรรคก้าวไกล?”นั้น กกต.ชี้แจงว่าหนังสือฉบับดังกล่าวเป็นหนังสือที่ออกโดยคณะกรรมการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานของนายทะเบียนพรรคการเมืองคณะที่3และเมื่อได้ตรวจพบข้อผิดพลาดที่ได้กล่าวอ้างพาดพิงไปถึงพรรคเพื่อไทย คณะกรรมการฯจึงได้แก้ไขข้อความให้ถูกต้องและส่งหนังสือฉบับแก้ไขไปให้หัวหน้าพรรคก้าวไกลเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

สำหรับข้อความที่ปรากฏในสื่อต่างๆว่า“กกต.ส่งหนังสือยุบพรรคก้าวไกล?”นั้นไม่เป็นความจริง ปัจจุบัน เรื่องดังกล่าวอยู่ในระหว่างการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานของนายทะเบียนพรรคการเมือง ให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบกกต.ว่าด้วยการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานของนายทะเบียนพรรคการเมือง พ.ศ.2566 เพื่อรวบรวมข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย เสนอให้กกต.พิจารณาวินิจฉัยสั่งการ ต่อไป

ทสท.โหนจี้กกต.เร่งรับรองส.ส.โดยเร็ว

น.ส.ธิดารัตน์ ยิ่งเจริญ โฆษกพรรคไทยสร้างไทย เรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)เร่งประกาศรับรองผลการเลือกตั้งโดยเร็วและทำหน้าที่โดยยึดถือผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ รวมทั้งกรณีที่ต้องนับคะแนนใหม่อีก47หน่วย ควรให้มีการเร่งดำเนินการสรุปผลโดยเร็ว เพื่อให้การตั้งรัฐบาลดำเนินการได้ทันที กระบวนการสภาเกิดขึ้น จะเป็นผลดีต่อการบริหาร จัดการงบประมาณเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยดูแลพี่น้องประชาชนได้เร็วยิ่งขึ้นสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ผลประโยชน์ย่อมอยู่ในมือของประชาชน

‘วิษณุ’แจงระเบียบราชทัณฑ์ไม่เอื้อ‘ทักษิณ’

วันเดียวกัน ที่โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ แพลทินัม ประตูน้ำ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแล และรักษาการ รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการปฏิบัติต่อผู้ถูกกักกัน พ.ศ.2566 ซึ่งถูกตั้งข้อสังเกตว่าเอื้อให้กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ว่าการกักกันไม่ใช่โทษตามกฎหมายไทย เพราะโทษตามกฎหมายไทยมีอยู่ 5 อย่าง คือ ประหารชีวิต จำคุก กักขัง ปรับ และริบทรัพย์สิน ซึ่งกักกันไม่ได้อยู่ใน 5 อย่างดังกล่าว แต่เป็นสิ่งที่เรียกว่าวิธีการเพื่อความปลอดภัยดังนั้นปัญหาคือการกักกันจะทำที่ไหนอย่างไร ทางกรมราชทัณฑ์จึงต้องออกระเบียบว่าถ้าคนที่จะต้องถูกกักกันจะต้องถูกกักกันที่ไหนเช่นที่บ้านหรือที่ไหนอย่างไรก็ได้ เป็นคนละอย่างกับเรื่องโทษ

ถ้าศาลสั่งจำคุกใช้การกักกันไม่ได้

“หากศาลสั่งจำคุกจะไปเปลี่ยนเป็นกักกันไม่ได้ สมมุติว่าเด็กและเยาวชนทำผิด ศาลบอกให้กักกันก็ส่งไปอยู่กับบ้าน กับผู้ปกครองได้ แต่คนบางส่วนเข้าใจว่าการกักกันสามารถรวมกับโทษได้แล้วไปคิดถึงเคสนักโทษกลับมาเข้ามามอบตัวและไปกักกันที่บ้านอย่างนั้นก็ไม่ใช่ จะใช้ในเรื่องนี้ไม่ได้เพราะคุณต้องโดนโทษไม่ได้โดนกักกัน”นายวิษณุ กล่าว

อย่าไปโยงปม‘ทักษิณ’จะกลับบ้าน

เมื่อถามว่า ขณะนี้ระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการปฏิบัติต่อผู้ถูกกักกัน พ.ศ.2566 ถูกนำไปโยงเรื่องการกลับมาประเทศไทยของนายทักษิณ นายวิษณุ กล่าวว่าคงไม่โยงเพราะเคยให้สัมภาษณ์ไปก่อนหน้านี้นานแล้วว่านโยบายของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตรมว.ยุติธรรมที่บอกว่าหากมีโทษและให้ไปรับโทษโดยไปกักตัวไว้ที่บ้านได้นั้นยังไม่ออกมา ขณะนี้ที่ออกมาแล้วคือกฎกระทรวงปี2552 สมัยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นรมว.ยุติธรรม

“โดยออกมาว่าสำหรับคนที่จะต้องถูกขัง3ประเภท ให้เปลี่ยนเป็นไปขังที่บ้านได้คือ 1.คนที่อยู่ระหว่างการสอบสวน เช่น แบม ตะวัน 2.คนที่ศาลสั่งให้ลงโทษจำคุก และรับโทษจำคุกมาแล้ว 1 ใน 3 และ 3.หญิงมีครรภ์ที่ถูกศาลสั่งประหารชีวิต แต่ยังไม่คลอด บุคคลเหล่านี้จะต้องนำไปขังไว้ก่อน เช่น ที่บ้านหรือที่โรงพยาบาล มีแค่ 3 ข้อนี้เท่านั้น ไม่มีข้อที่ 4 ซึ่งระเบียบดังกล่าวเป็นคนละเรื่องกัน และควรจะออกมาตั้งแต่ 2-3 เดือนที่แล้ว แต่เพิ่งตรวจกันเสร็จและเพิ่งออกมาตอนนี้”รองนายกฯย้ำ

ปมขออภัยโทษชัดย้ำต้องติดคุกก่อน

เมื่อถามถึงกรณีนักโทษทางการเมือง มีความเป็นไปได้ที่จะขออภัยโทษหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า จะเป็นนักโทษทางการเมืองหรือไม่ใช่นักโทษทางการเมืองก็ตามใช้หลักเกณฑ์เดียวกันทั้งหมดคือ1.ขอเมื่อไหร่ก็ได้แต่ปัญหาคือเมื่อขอไปแล้ว ถ้าหากถูกยก ถ้าจะขออีกต้องใช้เวลาอีกประมาณ2 ปี อันนี้หมายถึงการขอพระราชทานอภัยโทษเป็นการส่วนตัว แต่ถ้าเป็นการขอพระราชทานอภัยโทษแบบครอบจักรวาลคือ การออกมาพระราชกฤษฎีกามาเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ ใครอยู่ในเกณฑ์เหล่านั้นให้ว่ากันไปแต่ในขณะนี้ยังไม่มีพระราชกฤษฎีกานั้นแต่อาจจะมีในปีหน้าในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา6รอบหรือ72 พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

เมื่อถามว่าแม้ว่าจะไม่ได้มารับโทษก็อยู่ในเกณฑ์ที่จะขอพระราชทานอภัยโทษหรือไม่นายวิษณุ กล่าวว่าถึงอย่างไรก็ต้องรับโทษก่อนถึงจะขอพระราชทานอภัยโทษได้ ส่วนการขอนั้นจะต้องใช้เวลาเท่าไหร่ก็แล้วแต่กระบวนการ เมื่อถามว่าการจะขอพระราชทานอภัยโทษจะต้องรับโทษไปแล้วกี่ปี นายวิษณุ กล่าวว่าไม่มีเพราะการขอพระราชทานอภัยโทษเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นพระราชอำนาจ ไม่มีกำหนดในเรื่องดังกล่าว แต่ถ้าการอภัยโทษตามพระราชกฤษฎีกาซึ่งออกมาคราวหนึ่งเพื่อคน3หมื่นคนก็มีเกณฑ์ของเขาอยู่ว่าจะต้องรับโทษมาแล้ว1ใน3หรือจำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่า 8 ปี ขณะนี้กฎหมายนี้ยังไม่มี

เชื่อนับคะแนน47หน่วยไม่กระทบไทม์ไลน์

นายวิษณุ ยังกล่าวถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติสั่งให้มีการนับคะแนน ส.ส.บัญชีรายชื่อใน 31 หน่วยเลือกตั้ง และนับคะแนน ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ใน 16 หน่วยเลือกตั้ง เนื่องจากพบว่ามีปัญหาบัตรออกเสียงเลือกตั้งและจำนวนผู้มาใช้สิทธิตรงกัน แต่ผลคะแนนที่ออกมากลับไม่ตรงกับจํานวนดังกล่าว ว่าเป็นเรื่องที่ กกต.ดำเนินการของเขาไป และคิดว่าไม่กระทบกับไทม์ไลน์ทางการเมืองในขณะนี้ เพราะ กกต.จะต้องประกาศรับรองผลการเลือกตั้งและรับรองส.ส.ภายใน60วันคือวันที่13กรกฎาคม 2566 ซึ่งในส่วนที่มีการพูดกันว่าจะมีการประกาศเร็วขึ้น 2 สัปดาห์นั้น ตนไม่ทราบ

ระบุรัฐบาลใหม่จ้องรื้องบฯปี67ทำได้

นายวิษณุยังกล่าวงกระแสข่าวว่ารัฐบาลชุดใหม่เตรียมรื้องบประมาณรายจ่ายประจำปี2567 วงเงิน 3.35 ล้านล้านบาทว่า เป็นธรรมดา และเป็นอำนาจของผู้ที่เข้ามาทำหน้าที่เป็นรัฐบาล ซึ่งในเมื่อเขามีนโยบายของเขาต่างหากก็จะต้องมาจัดลำดับงบประมาณใหม่ สําหรับงบประมาณดังกล่าวเป็นสิ่งที่รัฐบาลชุดปัจจุบันได้จัดทำเตรียมไว้ โดยรัฐบาลชุดใหม่สามารถมารื้อได้ แต่ถ้ารัฐบาลปัจจุบันไม่ได้จะทำเอาไว้ให้ รัฐบาลชุดใหม่ จะเข้ามาจัดไม่ถูก

“ผมเห็นข่าวที่ผู้ที่จะมาเป็นรัฐบาลชุดใหม่จะใช้วิธีการจัดงบประมาณแบบฐานศูนย์ซึ่งไม่ใช่วิธีที่รัฐบาลปัจจุบันใช้ ดังนั้น เขามีสิทธิ์มารื้อได้ ถูกต้องแล้ว ใครมาเป็นรัฐบาลก็มารื้อหรือเปลี่ยนแปลง เป็นเรื่องธรรมดา เพราะแม้แต่ยุครัฐบาลประยุทธ์1จัดงบประมาณไว้ให้ พอเมื่อรัฐบาลประยุทธ์2 เข้ามาก็ได้รื้องบประมาณที่รัฐบาลประยุทธ์1ทําไว้ “รองนายกฯ กล่าว

แนะกกต.ไม่ควรรับรองสส.ครบ60วัน

ทางด้าน นายปริญญา เทวานฤมิตกุล อาจารย์ประจำภาควิชากฎหมายมหาชนและผู้อำนวยการศูนย์นิติศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์กล่าวถึงการทำหน้าที่ของ กกต.ในการรับรองผล ส.ส.ว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ปี 2560ให้เวลากกต.ทำงานถึง 60วัน จากเดิมที่รัฐธรรมนูญปี50 ให้เวลาเพียง 30 วัน หากเป็นรัฐธรรมนูญปี 50, 40กกต. ใช้เวลาเพียง 10กว่าวัน ไม่เกิน 20วันก็ประกาศแล้ว แต่เมื่อรัฐธรรมนูญยืดเวลาให้ 60วัน กกต.เลยไม่รีบ ตนมองว่าไม่จำเป็นต้องใช้เวลาจนครบ เพราะหากเลือกตั้งเสร็จแล้ว ไม่มีปัญหา ควรประกาศผลการเลือกตั้ง

“ถ้าพบว่า ส.ส.คนไหน มีพฤติกรรมที่เข้าข่ายทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ซื้อเสียง ทุจริต สามารถส่งศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งได้ ไม่ควรต้องใช้เวลาเนิ่นนาน หวังว่าจะไม่ช้ากว่าการเลือกตั้งปี 2562” นายปริญญา กล่าวและว่ายิ่งช้าคนยิ่งสงสัยว่าเลือกตั้งเสร็จทำไมถึงไม่ประกาศรับรอง ส.ส. เพราะยิ่งช้าคนยิ่งเคลือบแคลง ออกมาตั้งคำถามด้วยความสงสัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบเป็นระบบที่แปลกอยู่แล้ว นอกจาก จะให้เวลา 60 วันแล้ว การประกาศยังประกาศไม่ครบให้ 95% ก็ประกาศได้ ให้สภาฯ ประชุมได้ในจำนวน 475 คน ดังนั้น ควรจะประกาศผลรับรอง ส.ส. ให้เร็วที่สุด ไม่ควรจะช้า ยืดเยื้อไปถึง 60 วัน

ควรประกาศรับรองส.ส.ให้ครบ100%

“กกต.จึงควรประกาศรับรองผลส.ส.ให้ครบ100%ไปเลย นอกจากจะมีส.ส.คนใดที่มีหลักฐานชัดเจนเกี่ยวข้องกับการทุจริต ให้เป็นข้อยกเว้น และหากใครที่มีข้อสงสัย ข้อร้องเรียน ก็ทำความเห็นส่งศาลฏีกาแผนกคดีเลือกตั้ง วิธีการนี้จะเป็นธรรมที่สุดต่อ ส.ส.ทุกพรรคทุกคนและเป็นธรรมที่สุดต่อประชาชนด้วย ตอนนี้เลือกตั้งเสร็จไปแล้วแต่ยังไม่มีส.ส.สักทีกกต.ก็ประกาศรับรองผลอย่างเป็นทางการแล้วว่าส.ส.เขต ส.ส.บัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคได้จำนวนเท่าไรแต่ยังไม่ประกาศว่าเป็นส.ส.สักทีแบบนี้ถือว่าช้าเกินไป” นายปริญญา กล่าว

เมื่อถามย้ำว่าท่ามกลางการกดดันจากภาคประชาชน กกต.จะรับรองผลภายในเมื่อใดนายปริญญากล่าวว่ากกต.เคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ว่าภายในเดือนมิถุนายน หากเปรียบเทียบกับปี2562ก็ภายใน30วัน ขณะนี้ต้องรอดูว่าหลังการนับคะแนนใหม่วันที่11มิ.ย.จะเป็นอย่างไร คาดว่าน่าจะหลังจากนั้นไปอีก2สัปดาห์จึงจะประกาศรับรอง ส.ส.เหตุผลที่จะล่าช้าไปกว่านี้ก็ไม่ควรแล้วเพราะยิ่งช้ากกต.ยิ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์เชื่อว่ากกต.ตระหนักเรื่องนี้อยู่แล้ว

ฝากกกต.ทำหน้าที่เที่ยงตรง-รวดเร็ว

นายปริญญายังฝากไปถึงการทำหน้าที่ของกกต.ว่าขอให้ดำเนินการด้วยความเที่ยงธรรม ตามความจริง ในอำนาจความรับผิดชอบตามกฎหมาย คนไม่ได้คาดหวังอะไรมากไปกว่านี้ และเข้าใจว่ากกต.ถูกกดดัน มีภาระหน้าที่มาก ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่สังคมย่อมอยากเห็นการปฏิบัติหน้าที่ที่เป็นไปตามกฎหมายอย่างเที่ยงธรรม ข้อสำคัญคือความรวดเร็วดังนั้น ดีที่สุด คือ ประกาศให้ครบให้หมด 500 คน เว้นแต่มีคนที่มีหลักฐานชัดเจนว่าโกงการเลือกตั้งเมื่อประกาศแล้ว พบข้อร้องเรียนที่มีมูลอันควรต่อการพิจารณาให้ส่งศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง จะรวดเร็วและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ย้ำปมคุณสมบัติต้องห้ามส่งศาลตีความ

ส่วนที่ประธาน กกต.ระบุว่ายังไม่ได้รับพิจารณาเรื่องร้องเรียนกรณีหุ้นไอทีวีของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นายปริญญากล่าวว่าในแง่ข้อกฎหมายหากผู้สมัครคนไหนมีคุณลักษณะ คุณสมบัติต้องห้ามก็ต้องรับเรื่อง ตั้งแต่ตอนสมัคร หากจะร้องควรจะไปร้องตั้งแต่เวลานั้นและไปร้องศาลฎีกาให้จบไป หากเลือกตั้งเสร็จแล้วโดยหลักแล้วต้องเป็นเรื่องการทุจริตทำผิดกฎหมายเลือกตั้งเท่านั้น

“ยิ่งเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อเปิดดูข้อกฎหมายยังไม่เจอว่ากกต.จะสั่งหรือไม่ประกาศเป็นส.ส.ด้วยข้อกฎหมายตัวไหนเพราะโดยหลักแล้ว หากไม่ได้โกงการเลือกตั้งทุจริตเลือกตั้ง ต้องประกาศให้เป็นส.ส.และหากเป็นคุณสมบัติต้องห้าม ต้องไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญตามมาตรา82 เหมือนกรณีนายธนาธร”นายปริญญากล่าว

‘ศรีฯ’ย่องมอบตัวคดีกล่าวหา‘พท.’

ที่ สน.ทุ่งสองห้อง นายวิญญัติ ชาติมนตรี เลขาธิการ สกสส.เดินทางเข้าพบพ.ต.อ.มารุต สุดหนองบัว ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง พ.ต.ต.อนุชิต ชาติชูเหลี่ยม สว.(สอบสวน)พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ติดตามผลความคืบหน้ากรณีแจ้งความดำเนินคดีกับนายศรีสุวรรณ จรรยา ข้อหาแจ้งความเท็จกรณีนายศรีสุวรรณยื่นร้องกกต.เมื่อวันที่13ธ.ค.65กล่าวหาพรรคเพื่อไทยและบุคคลอื่น ขอให้มีการยื่นยุบพรรคเพื่อไทย จากการแถลงนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 600บาทต่อวันว่านายศรีสุวรรณได้กระทำเข้าข่าย รู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น แต่แจ้งแก่เจ้าพนักงานว่าได้กระทำความผิดอันน่าจะเป็นการแจ้งความเท็จโดยจะเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้บุคคลรับโทษด้วยหรือไม่หลังเข้าแจ้งความไว้เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.65เป็นเวลากว่า 5 เดือนแล้ว

นายวิญญัติกล่าวว่าคำร้องที่นายศรีสุวรรณร้องกกต.กรณีดังกล่าวถูกกกต.สอบสวนพิจารณาตีตกไปพนักงานสอบสวนสน.ทุ่งสองห้องรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับนายศรีสุวรรณข้อหาแจ้งความเท็จ โดยนายศรีสุวรรณได้เดินทางเข้ารับทราบข้อหาแจ้งความเท็จไปตั้งแต่เมื่อวานนี้(7มิ.ย.)โดยปฏิเสธข้อกล่าวหา เป็นที่สังเกตว่านายศรีสุวรรณเดินทางมามอบตัวอย่างเงียบๆไม่แจ้งสื่อทั้งนี้ การกลั้นแกล้งให้ผู้อื่นรับโทษคดีอาญา มีโทษติดคุกมีผลให้ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองถ้าศาลตัดสินว่ากระทำผิดจริง สุดท้ายตนต้องขอขอบคุณ ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง พนักงานสอบสวนที่ดำเนินการตามที่ตนร้องเรียนเป็นไปตามกรอบกำหนดเวลากฎหมาย