9 มิ.ย.66 จากกรณี กกต. มีมติเป็นเอกฉันท์ 6 เสียง ไม่รับคำร้องกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี มีคุณสมบัติลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญในการสมัครรับเลือกตั้ง กรณีถือหุ้นไอทีวี 42,000 หุ้น เหตุคำร้องยื่นเกินระยะเวลาตามกฎหมายกำหนด แต่มีมติรับเรื่องไว้พิจารณาตามมาตรา 151 เหตุรู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งแต่ยังฝืน โดยจะมีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนไต่สวนต่อไปนั้น (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ด่วนที่สุด!!! กกต.มติเอกฉันท์ไม่รับ 3 คำร้อง ปม'พิธา'ถือหุ้นไอทีวี แต่ไม่รอดมาตรา 151)
ล่าสุด นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง( กกต.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กกต. ไม่รับคำร้องหุ้นสื่อของ 3 นักร้อง แต่รับไว้เองในฐานะความปรากฏ เพื่อดำเนินคดี ตามมาตรา 151 ของ พ.ร.ป.ส.ส.
1. ไม่รับคำร้องของผู้ร้อง แต่รับเป็นความปรากฏ แปลว่า กกต.รับเป็นเจ้าภาพเอง
2. ดำเนินคดีอาญา ม. 151 คือ หาก กกต. พบว่า พิธา สมัครโดยขาดคุณสมบัติ กกต. แจ้งความดำเนินคดีผ่าน ตำรวจ อัยการ ไปศาลอาญาได้เลย ไม่ต้องพึ่งศาลรัฐธรรมนูญ โทษจำคุก 1-10 ปี ปรับ 20,000-200,000 บาท ตัดสิทธิการเมือง 20 ปี
3. การร้องคดีถือหุ้นสื่อยังร้องได้หลังมีการรับรอง ส.ส.แล้ว ตามมาตรา 82 ของรัฐธรรมนูญ โดย ส.ส. 50 คน หรือ ส.ว. 25 คน หรือ กกต.ร้องเองในฐานะความปรากฏเพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเพิกถอนการเป็น ส.ส. และตัดการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ได้อีกรอบ
4. สรุป หนักกว่าเดิมครับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี