วันจันทร์ ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ถูกปชช.25ล้านเสียงมัดกับก.ก.
พท.หวานเจี๊ยบ
คลุมถุงชน-อยากออกแต่ไม่ได้
เก้าอี้ปธ.สภาฯแค่ขอไม่ใช่แย่ง
‘ชลน่าน’ลั่นต้องจบก่อนโหวต
‘วิษณุ’เตือน2พรรคยังยืดเยื้อ
ขั้วที่3มีสิทธิ์เสนอแข่งคู่ขนาน
“บิ๊กตู่”ลั่นต้องทำงานจนกว่า ครม.ชุดใหม่ถวายสัตย์ อยากให้ได้รัฐบาลที่ดี-ไม่อยากให้ตั้งล่าช้ามีผลเสีย “วิษณุ”เชื่อได้“ประมุขนิติบัญญัติ”ไม่เกิน 13 กรกฎาคม ยึดมติเสียงข้างมาก ชี้ปธ.สภาฯไม่มีอำนาจชี้เป็นชี้ตาย แย้มเปิดช่องขั้วที่ 3เสนอแข่งคู่ขนาน หากพรรคเบอร์ 1-2 ไม่ลงตัว ส่วนโหวตนายกฯ ยึดเยื้อได้ ต้องได้เสียงเกิน 376 ยุติแล้ว!“พท.”ยอมถอย ปธ.สภาฯให้“ก้าวไกล”ภายใต้เงื่อนไข ไม่แยกตัวทิ้งกันไปไหน หาก “พิธา”
ฝ่าด่านส.ว.ไม่ได้‘พท.’เป็นแกนนำตั้งรบ.เอง สั่งห้าม2พรรคพูด ก่อนถก8พรรค2 ก.ค.นี้‘ชลน่าน’ย้ำใช้สูตร14+1 เจรจา ปม ปธ.สภาฯกับ ก.ก. เราขอ-ไม่แข่ง เมื่อไม่ให้ ก็ต้องกลับมาพิจารณา ถูกมัดด้วยเสียง25 ล้าน แม้อยากออก ก็ออกไม่ได้ ลั่นทุกอย่างต้องจบภายใน2ก.ค.ก่อนโหวต เชื่อต้องตกลงกันได้ป้องกันฟรีโหวต สรุปส.ส.รายงานตัวแล้ว498 คน เหลือ‘พีระพันธุ์’คนเดียว
เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงความคาดหวังว่ารัฐบาลชุดใหม่จะมาเร็วหรือไม่ว่าตนคาดหวังไม่ได้ เป็นเรื่องของกระบวนการทางการเมือง อย่างวันนี้ที่เดินมาได้แล้ว ตนก็ทำหน้าที่ของตนจนกระทั่งถึงวันที่3ก.ค.ในการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดสมัยประชุมรัฐสภาจากนั้นเป็นการหารือร่วมกันในการคัดเลือกประธานสภาฯภายในตามกรอบกฎหมาย
‘บิ๊กตู่’ลั่นทำงานจนครม.ใหม่ถวายสัตย์ฯ
เมื่อถามว่าหลังพิธีเปิดสมัยประชุมรัฐสภาวันที่ 3 ก.ค.นายกฯจะไม่เข้าทำเนียบฯแล้วหรือ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า“พูดไปหลายครั้งแล้วว่า ผมรักษาการจะต้องทำงานไปถึงเมื่อไหร่ถึงวันที่คณะรัฐมนตรี (ครม.)ชุดใหม่ถวายสัตย์ปฏิญาณ โน้น เดือนหน้าโน้นแหละ เขามีกำหนดอยู่แล้ว ถ้าอะไรๆมันเลื่อนไปเรื่อยๆ ผมก็ยังคงรักษาอาการอยู่ เข้าใจไหม ในระหว่างนี้ถ้ามันเรียบร้อย ผมก็ไปตามโน้นมันมีกำหนดอยู่แล้วว่าจะไปเมื่อไหร่จะคิดเอาเองได้อย่างไร แล้วใครจะรักษาการ ใครจะรับผิดชอบ”
หวังได้รบ.ที่ดี/หากล่าช้าจะส่งผลเสีย
“ผมก็ยินดีกับทุกคน ทุกพรรคก็ขอช่วยกันทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อยและปลอดภัยแล้วกัน ขอให้ยึดมั่นในหลักการของเรา คือ ชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ เพราะเราคือประเทศไทยซึ่งมีหลายอย่างที่แตกต่างจากต่างประเทศอยู่เหมือนกัน จึงต้องทบทวนกันเอาเองแล้วกัน ผมไม่อยากให้เกิดปัญหาและไม่อยากให้ล่าช้าจนนานเกินไปเพราะมีผลเสีย เรากำลังมีโอกาส เราก็จะทำให้เกิดวิกฤตซึ่งก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรทั้งสิ้น ขอให้ปรึกษาหารือกันให้ดี และ ให้ได้รัฐบาลที่ดีมา”พล.อ.ประยุทธ์ย้ำ
‘วิษณุ’เชื่อได้ปธ.สภาฯไม่เกิน13ก.ค.
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์กรอบการเลือกประธานสภาฯว่า การเลือกประธานสภาฯต้องประชุมเลือกให้ได้ภายใน10วันนับแต่วันเสด็จฯเปิดรัฐสภาในวันที่3ก.ค.หรือไม่เกินวันที่13 ก.ค.และไม่มีเหตุที่จะเลือกกันไม่ได้เพราะไม่เหมือนการเลือกนายกรัฐมนตรีที่ต้องใช้คะแนนเสียงเกิน 376 ของสองสภา แต่การเลือกประธานสภาฯใช้สภาเดียว และใช้เสียงข้างมากของส.ส.ก็สามารถทำได้
แย้มขั้วที่3แข่งคู่ขนาน/ถ้า1-2ไม่ลงตัว
เมื่อถามว่าการเสนอชื่อประธานสภาฯสามารถเสนอชื่อแข่งขันมากกว่า2คนได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า จะเสนอแข่ง 5 คนก็ได้และใช้เสียงข้างมากของส.ส.ในการตัดสินจึงขอย้ำว่าโอกาสที่จะเลือกไม่ได้จึงไม่น่าจะเกิดขึ้น หาก 2 พรรค คะแนนเสียงต่างกัน ใครชนะก็ได้ ส่วนหากพรรคอันดับ 1และอันดับ 2 เสนอชื่อแข่งกันและหากมีกลุ่มพรรคขั้วที่3 ที่มี188 เสียง เสนอแข่งมีโอกาสส้มหล่นได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่าไม่เห็นเหตุที่จะเกิดขึ้น เพราะตอนนั้นต้องเสนอไปพร้อมกัน พรรค1ก็เสนอ พรรค2ก็เสนอ และกลุ่มพรรคขั้วที่3อยากจะเสนอก็เสนอไป 3 คน แล้วก็โหวตแข่งกันเพราะอาจต้องมีการแสดงวิสัยทัศน์หรือไม่ต้องก็ได้ ขึ้นอยู่กับมติสภา แต่หากมีแล้วฟังไม่หมด ก็เลื่อนไปโหวตต่อในวันถัดไปก็ได้
โหวตนายกฯยึดเยื้อได้/ต้องได้เกิน376
เมื่อถามว่าตามหลักการประธานสภาฯในฐานะประธานรัฐสภาเป็นผู้มีอำนาจควบคุมการเลือกนายกฯ หรือเป็นเรื่องของมติที่ประชุมรัฐสภานายวิษณุ กล่าวว่าประธานสภาฯมีหน้าที่กำหนดวันโหวตนายกฯ ถึงเวลาจะเลือกกันอย่างไรมีกี่ชื่อก็เป็นเรื่องของสมาชิกรัฐสภา ส่วนหากโหวตนายกฯไม่ถึง 376 เสียง จะทำยังไงนายวิษณุตอบว่าเป็นเรื่องของประธานสภาฯที่ต้องดำเนินการและไม่มีกรอบเวลา จะวันรุ่งขึ้นหรือ 7 วันหรือ 15 วันก็ได้ โดยให้สมาชิกกลับไปคิด ส่วนดูจากสถานการณ์การเมืองขณะนี้จะเลือกนายกฯได้ช้าหรือเร็ว นายวิษณุตอบว่า ไม่ทราบ
ชี้แย่งกันเพราะเหตุอื่นปัดปมนายกฯ
เมื่อถามว่าส่วนใหญ่หากนัดโหวตนายกฯเพื่อเปิดทางมีการล็อบบี้กันใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เรื่องล็อบบี้สื่อเป็นคนพูด การนัดใหม่อาจจะมีเหตุหลายอย่างก็ได้เหมือนการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ไม่ให้ลงมติในวันเดียวกัน เพราะต้องการให้กลับไปคิดกันใหม่ อาจจะมาด้วยขอเสนอที่ดีกว่าเดิมก็ได้เช่นเปลี่ยนคน เมื่อถามย้ำว่าสุดท้ายคือใช้มติเสียงข้างมากในการตัดสินใช่หรือไม่นายวิษณุพยักหน้าตอบว่า”ใช่”
เมื่อถามย้ำว่าสุดท้ายอำนาจประธานสภาฯแค่กำหนดวันในการเลือกนายกฯใช่หรือไม่นายวิษณุ กล่าวว่าสำหรับตอนช่วงเลือกนายกฯแต่เขาไม่ได้แย่งตำแหน่งกันเกี่ยวกับการเรื่องนายกฯแต่เขาต้องการเอาตำแหน่งประธานสภาฯเพื่อทำหน้าที่อื่นๆต่อไปด้วยทั้งเรื่องกฎหมายกระบวนการต่างๆการนัดวันประชุม
ย้ำปธ.สภาไม่มีอำนาจชี้เป็นชี้ตาย
“จบเรื่องการเลือกนายกฯแล้ว ได้นายกฯแล้ว ประธานก็ยังไม่อำนาจและไม่ได้มีอำนาจยิ่งใหญ่ไพศาลอย่างที่นายชวน หลีกภัย อดีตประธานรัฐสภาพูด ชี้เป็นชี้ตายอะไรไม่ได้ บางอย่างประธานสภาตัดสินใจเองได้ บางอย่างก็ต้องอยู่ภายใต้เสียงข้างมากและอำนาจอีกอย่างของประธานสภาคือเปิดและปิดประชุม”รองนายกฯระบุ
ไม่รู้ก.ก.จองปธ.หวังดันแก้ม.112
เมื่อถามว่าในเรื่องกฎหมายประธานสภาฯมีอำนาจตัดตอนได้ทุกกฎหมายหรือไม่ โดยเฉพาะ ม.112 นายวิษณุ กล่าวว่า จะเป็นอำนาจประธาน ในการชี้ขาดตอนแรกว่าจะรับหรือไม่รับ หากมองว่าเป็นการเสนอญัตติที่ผิดกฎหมาย ก็ไม่รับได้ ส่วนเรื่องนี้เป็นเหตุผลที่พรรคก้าวไกลอยากได้ตำแหน่งนี้ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบว่ าเขาอยากได้ เพราะอะไร แต่ใครได้ก็ดีทั้งนั้นที่สุดแล้ว หากได้ตัวประธานสภาฯแล้วพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการแต่ขณะเดียวกัน หากได้นายกฯคนใหม่ ประธานสภาฯต้องเป็นผู้รับสนองฯ
จับตาก.ก.ถกลับสรุปปมปธ.สภา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจาก 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล นัดจะประชุมช่วงเช้าวันที่ 2 ก.ค.ที่พรรคก้าวไกล(ก.ก.)จึงทำให้เหลือเวลาอีก3วัน ก่อนที่จะมีรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภา ในวันที่ 3 ก.ค.และวันที่ 4 ก.ค.จะการเลือกประธานสภาผู้แทนฯต่อไป โดยคาดว่า พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย(พท.)จะหาข้อสรุปตำแหน่งประธานสภาฯให้เป็นที่พอใจกันทั้งสองฝ่าย โดยยึดผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก หลังจากเลื่อนประชุมออกไปนั้น
ส่วนความเคลื่อนไหว ที่พรรคก้าวไกล ผู้สื่อข่าวรายงานว่าแม้จะมีรายงานว่ารถยนต์ส่วนตัวของ นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกลขับเข้ามาจอดอยู่บริเวณลานจอดรถ แต่แกนนำพรรคส่วนใหญ่หลบเข้าไปทางด้านหลังของตึก จึงเป็นที่น่าจับตาว่าในวันนี้พรรคก้าวไกลจะประชุมลับเพื่อหาข้อสรุปเรื่องตำแหน่งเก้าอี้ประธานสภาฯกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ เนื่องจากการหารือถูกยกเลิกไปก่อนหน้านี้
พท.ยอมถอย-ปธ.สภาให้ปธ.สภา
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทย(พท.)ว่าประเด็นการหารือระหว่างพรรคพท.กับพรรคก้าวไกล ในเรื่องตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรได้ข้อยุติแล้ว พรรคก้าวไกลจะได้ตำแหน่งประธานสภาฯ ส่วนพรรค พท.ได้ตำแหน่งรองประธานสภาฯ 2 ตำแหน่ง บนเงื่อนไขที่ว่าทั้ง 8 พรรคร่วมฝ่ายค้านเดิม จะชูนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล เป็นนายกฯ
‘พิธา’ฝ่าด่านสว.ไม่ได้/พท.ลุยตั้งรบ.
แต่ถ้านายพิธาไม่สามารถฝ่าด่าน ส.ว. ได้ พรรค พท. จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยมีพรรคก้าวไกลจะอยู่ช่วยพรรค พท. ในการจัดตั้งรัฐบาลไม่แยกตัวออกไปไหน ซึ่งแนวทางนี้เมื่อ ส.ส. รับทราบก็มีบางส่วนยอมรับว่าขัดความรู้สึกบ้าง แต่เมื่อได้รับฟังการชี้แจงถึงเป้าหมายในการจัดตั้งรัฐบาลที่พรรคก้าวไกลจะยืนข้างพรรค พท. ไม่แยกตัวไปไหนกรณีที่เพื่อไทยเป็นแกนนำ ทำให้ส.ส. รับฟังเหตุผลดังกล่าว
สั่งห้ามสองพรรคแสดงความเห็น
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าในประเด็นประธานสภาฯ ทางพรรคก้าวไกล และพรรค พท. ยังได้มีความเห็นร่วมกันว่า จะไม่ให้สมาชิกของทั้งสองพรรคออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าว เพราะเกรงจะกระทบต่อการหารือแกนนำ 8 พรรคร่วมวันที่ 2 ก.ค.นี้
พท.ย้ำสูตร14+1คุยปมปธ.สภาฯกับก.ก.
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวถึงความคืบหน้าการหารือตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรว่า พรรคก้าวไกลแจ้งนัดหมายหารือในวันที่ 2 ก.ค.และเห็นชัดเจนว่าไม่เลื่อนอีกแล้ว ซึ่งจะมีการประชุม 8 หัวหน้าพรรคฯในวันเดียวกัน โดยคณะทำงานจะนำข้อหารือภายในของพรรคไปพูดคุย และมั่นใจว่าทั้งสองฝ่ายจะพูดคุยและสรุปกันด้วยดี
นพ.ชลน่าน กล่าวเสริมว่า เราเป็นพรรคอันดับสอง เข้าใจตัวเราเองดี หลักในการเจรจา เราเคารพพรรคอันดับ 1 ตลอดเวลา เราใช้คำว่าข้อเสนอ เพื่อให้พรรคอันดับ 1 พิจารณา ซึ่ง14+1 ก็คือ เราร้องขอไปว่าท่านจะพิจารณาหรือไม่ ไม่ใช่การยื้อแย่ง ไม่ใช่การบีบบังคับ วงเจรจาแต่ละฝ่ายต่างก็รู้ดี เราเข้าใจว่า โดยหลักพรรคที่ได้อันดับ1ก็ควรได้รับสิทธิ์เป็นประธาน เราก็ถือสิทธิ์นั้นเราจึงขอว่ามาเป็นของอันดับ2 ได้หรือไม่ ที่เราจะทำงานร่วมกัน เพื่อดุลยภาพในการทำงาน ท่านเป็นประมุขฝ่ายบริหารแล้ว เราเป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ นี่คือข้อเสนอเท่านั้น ไม่ได้เป็นการยื้อแย่ง ไม่ได้เป็นการหักหลัง พี่น้องประชาชน ส่วนเขาจะให้ หรือไม่ให้เรา เราต้องการคำตอบเป็นหลักการ
ยึดเสียงของประชาชนเป็นตัวตั้ง
“ในการเจรจายึดเสียงของประชาชนเป็นตัวตั้ง ที่เลือกก้าวไกล และเพื่อไทยกว่า 25 ล้านเสียง ถ้าก้าวไกล อันดับ 1 ยืนยัน ไม่ให้เก้าอี้ประธานสภาฯ เพื่อไทยเป็นพรรคอันดับที่ 2 ก็ต้องกลับมาทบทวนว่าจะพิจารณาอย่างไรต่อไป แต่ยืนยันว่าอยู่บนพื้นฐานการตั้งรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตย”
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ย้ำว่าเราอยากรักษาเจตนารมณ์ อารมณ์ความรู้สึกแฟนคลับของทั้งสองฝ่ายว่าเราสามารถพูดคุยกันได้และทำงานร่วมกันต่อไปได้ เพราะเราเสนอให้มีการพูดคุยกัน แต่เรายังไม่ได้รับคำตอบ แต่สิ่งที่ออกมาข้างนอก ล้วนเป็นคำตอบของรายบุคคล ยังไม่มีคำตอบอย่างเป็นทางการ
ชี้บุคคลเหมาะนั่งปธ.หลายคน
ส่วนกรณีที่พรรคก้าวไกล แจ้งเลื่อนการประชุมคณะเจรจาตำแหน่งประธานสภาฯพร้อมให้นายปดิพัทธ์ สันติภาดา เดินสายโชว์วิสัยทัศน์การชิงเก้าอี้นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังคงอยู่ในการพูดคุยและพรรคเพื่อไทยยังไม่มีการเสนอชื่อบุคคลเพราะยังเคารพการปรึกษาหารือและการตัดสินใจร่วมกันและเพื่อไทยหากยังไม่ชัดเจน จะยังไม่เสนออะไรเพื่อไม่ให้เกิดความไม่พอใจจากผู้สนับสนุนขณะเดียวกัน ยังแสดงความมั่นใจถึงบุคลากรที่มีความพร้อมในการนั่งเก้าอี้ประธานสภาฯมีหลายคนที่มีประสบการณ์และมีความรู้ความเข้าใจ
ส่วนที่มีชื่อนพ.ชลน่าน ชิงเก้าอี้ประธานสภาฯด้วยเหตุผลว่าให้มีความสมดุลและให้กองเชียร์ทั้งสองฝ่ายรู้สึกดีคือให้หัวหน้าพรรคทั้งสอง พรรคควรได้ตำแหน่งที่สมดุลกันมีเหตุผลเพื่อทำงานร่วมกันและประสานได้อย่างดี ไม่ได้ชี้ชัดว่าคือข้อสรุป โดยอยู่ที่การเจรจาและกรรมการบริหารพรรคเป็นผู้พิจารณา
มั่นใจถก2ก.ค.จบเดินหน้าตั้งรบ
นายภูมิธรรม กล่าวถึงการพูดคุยในวันที่ 2 ก.ค.นี้จะคุยกันลงตัวหรือไม่ว่ายังไม่ทราบว่าจะมีการเลื่อนประชุมสภาฯจากวันที่ 4 ก.ค.ออกไป แล้วกระทบการประชุม 8 พรรคในวันที่ 2 ก.ค.นี้หรือไม่ซึ่งเบื้องต้น ทราบข้อมูลมาว่าจะมีการประชุมในวันที่ 4-6 ก.ค.และยังคงมั่นใจว่าข้อสรุปที่จะออกมาจากทั้งสองฝ่ายจะเป็นข้อสรุปที่ดี ทุกฝ่ายยอมรับและนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรคได้
ชี้เป็นสิทธิ์ ก.ก.ชงปดิพัทธ์นั่งปธ.
นพ.ชลน่านกล่าวถึงการเสนอชื่อนายปดิพัทธ์ เป็นแคนดิเดตประธานสภาฯว่าสิทธิของพรรคก้าวไกล ในการจะเสนอตำแหน่งอะไรในฐานะที่เป็นพรรคอันดับ1 ทำได้โดยชอบ เราในฐานะพรรคร่วมก็แถลงการณ์ให้สิทธิ์ว่าก้าวไกล จะต้องเป็นแกนนำในทุกประเด็นที่จะเป็นข้อเจรจาจัดตั้งรัฐบาลและเราค่อนข้างระมัดระวังในการที่จะเสนออะไรไปในฐานะพรรคอันดับ2
ยืนกราน‘พท.’ขอไป-ไม่ได้แข่ง
หัวหน้าพรรคเพื่อไทยระบุว่าแม้แต่เสนอขอตำแหน่งประธานสภา ไม่ใช่เฉพาะทัวร์ แต่ทุกอย่างมาลงที่พรรคเพื่อไทยหมดเลยโดยความไม่เข้าใจเป็นเพียงขั้นตอนที่เราเสนอไปเท่านั้น การเสนอชื่อตำแหน่งประธานสภาฯของพรรคเพื่อไทย ในภาวการณ์ที่เรากำลังเสนอขอตำแหน่งโดยที่เรายังไม่ได้รับคำตอบ ถ้าเราเอาชื่อใครคนใดคนหนึ่งไปเสนอประกบกับก้าวไกล เพื่อไทย จะถูกประณามมากกว่านี้และจะถูกมองว่าเป็นการแข่งทันที
“เราบอกว่าเราไม่ได้แข่ง เราขอนะครับ ขอกับแข่ง ความหมายต่างกันเยอะเราขอให้คุณอนุญาตให้เราหรือไม่ ไม่ได้ขอตกลงนะครับ ขอไปเลยว่า คุณจะให้เราหรือเปล่า”นพ.ชลน่าน ย้ำ
ถอยย้ำ25ล้านเสียงมัด/แม้อยากออก
เมื่อถามว่าหากเขายืนกรานไม่ให้จะทำอย่างไรนพ.ชลน่านตอบว่าก็เป็นสิทธิ์ของเขา เพราะเป็นพรรคอันดับ 1เราจะได้กลับมาพิจารณาว่าถ้าเขาไม่ให้ เพื่อไทย เป็นพรรคอันดับ 2เราจะพิจารณาอย่างไรในการร่วมทำงานกับเขา เราจะทำงานแบบไหน
“เราถูกมัดด้วยอาณัติของประชาชนซึ่งตนเคยพูดมาหลายครั้ง แม้เราอยากออกไป แต่เราออกไปไม่ได้ เน้นนะครับ แม้เราอยากออกไป และเรามีสิทธิ์โดยที่จะออกไป แต่มันไม่ชอบธรรม เราถูกพี่น้อง 25 ล้านเสียง มัดเรากับก้าวไกลให้ติดกัน เสมือนพ่อแม่เรา เราเป็นลูก เขาจับคลุมถุงชน ให้มาแต่งงานกัน เราไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธจริงๆ เพราะฉะนั้นเจตจำนงของประชาชน25ล้านคน เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด เราคำนึงถึงตรงนี้ในการเจรจาพูดคุยและนำเสนอทุกเรื่องเพื่อให้สมประโยชน์ตรงนี้ เมื่อก้าวไกลเขาไม่ให้ เราก็ไม่ควรจะต้องรับ”นพ.ชลน่าน
เชื่อตกลงกันได้ป้องกันฟรีโหวต
นพ.ชลน่านยังกล่าวถึงแนวทางการโหวตว่าจะมีการปล่อยให้ฟรีโหวตหรือไม่ว่าจะต้องมีข้อตกลงที่ชัดเจน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการฟรีโหวต และยังไม่ได้รับแจ้งว่าจะมีการเลื่อนโหวตประธานสภาฯ จากวันที่ 4 ก.ค.ออกไป โดยไม่เกี่ยวกับไทม์ไลน์การพูดคุยของ 8 พรรคร่วมฯหากได้ข้อยุติในวันที่ 2 ก.ค.นี้ วันที่ 3 ก.ค.ก็มีรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภา แล้ววันที่ 4 ก.ค.เชื่อว่าจะเข้าสู่การโหวตได้ หากเลื่อนช้าไป ก็จะทำให้ยิ่งเสียประโยชน์ ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าในวันที่ 2 ก.ค.นี้จะต้องจบ ก่อนทิ้งท้ายว่า“ในฐานะเป็นคู่เจรจาจะต้องมีวัตถุประสงค์ร่วมกันทั้งสองฝ่ายต้องทำให้ทุกอย่างได้ข้อยุติ”
ปธ.สส.เพื่อไทยเชื่อไม่มีแตกแถว
ด้านนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานส.ส.ของพรรคเพื่อไทย เชื่อว่า แนวทางการลงมติของ ส.ส.พรรคเพื่อไทยไปในแนวทางเดียวกัน โดยพรรคอาจต้องมีการประชุมภายในก่อนวันลงมติเพื่อทำความเข้าใจตรงกันอีกครั้ง พร้อมเชื่อมั่นว่าไม่มีปัญหาอะไร ตอนนี้ก็ยังไม่ทราบผลของการเจรจาว่าจบลงแบบไหน รวมถึงยังไม่มีการนัดประชุมส.ส.เร็วๆนี้
สภาฯแจ้งสมาชิกร่วมรัฐพิธี3ก.ค.
ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่านางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้ลงนามในหนังสือแจ้งสมาชิกรัฐสภาทั้งส.ส.และส.ว.ขอเชิญเข้าร่วมพิธีเปิดประชุมรัฐสภาวันที่ 3 ก.ค.เวลา 17.00น. ณ ห้องโถง พิธีชั้น11อาคารรัฐสภาซึ่งตามกำหนดการพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี จะเสด็จพระราชดำเนินทรงรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภาและจะมีนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี คณะทูต ทูตานุทูตประเทศต่างๆประธานศาลฎีกา และประธานองค์กรอิสระเข้าร่วมกว่า1,000 คน ทั้งนี้ ได้แนบคำแนะนำสำหรับสมาชิกรัฐสภาในพิธีเปิดประชุมทั้งขั้นตอนต่างๆและเครื่องแบบการแต่งกายด้วย
ยังไม่แจ้งวันเลือกประธานสภาฯ
ส่วนวันที่ 4 ก.ค.เดิมที่วางไว้เป็นกำหนดวันประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดแรก เพื่อเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานสภาฯทั้ง 2 คน จนถึงขณะนี้ทางสำนักงานเลขาฯยังไม่มีการทำหนังสือเชิญสมาชิกเข้าร่วมประชุม โดยสภาฯจะขอประเมินสถานการณ์ความพร้อมในการเลือกประธานสภาฯอีกครั้งก่อนเนื่องจากขณะนี้ทั้ง2พรรคที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลทั้งพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยยังไม่ลงตัวในตำแหน่งนี้คาดว่า ต้องรอการหารือ8พรรคการเมืองในวันที่2ก.ค.นี้ ตามขั้นตอนทางสภาฯจะต้องทำหนังสือแจ้งสมาชิกให้รับทราบล่วงหน้า 3 วัน ก่อนที่จะมีการประชุม และตามกรอบเวลาตามระเบียบวันประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดแรก จะต้องเปิดประชุมภายใน10 วันนับตั้งแต่มีพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภา ซึ่งจะตรงกับวันที่ 12 ก.ค.นี้
สรุปส.ส.รายงานตัวแล้ว498 คน
วันเดียวกัน ที่รัฐสภา สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดให้ ส.ส.มารายงานตัว เป็นวันที่ 10 โดยในเวลา 11.45 น.นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ และ ม.ล.ชโยทิต กฤดากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เข้ารายงาตัวต่อสำนักงานฯรวมถึงขณะที่มีส.ส.มารายงานตัวแล้ว 498 คน น จึงเหลือเพียง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ยังไม่เข้ารายงานตัวและไม่ได้แจ้งนัดหมายกับสำนักงานฯว่าจะเดินทางเข้ารายงานตัวเมื่อใด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี