"ก้าวไกล" ส่งไม้ต่อ"เพื่อไทย" เข็น 8 พรรค จัดตั้งรบ. พร้อมเสนอแคนดิเดตพท. เป็นนายกฯคนที่ 30 เปิดทางให้ประเทศไทยกลับสู่ประชาธิปไตย ซัดองคาพยพขั้วอำนาจเก่า จ้องสกัด"พิธา" ทำลายหลักการรธน.ย้ำจุดยืน ไม่มีสองลุงร่วมขบวน
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 ก.ค. 66 ที่อาคารอนาคตใหม่ ที่ทำการพรรคก้าวไกล นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล แถลงความคืบหน้าการเจรจาจัดตั้งรัฐบาล โดยระบุว่า การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 66 เป็นการประกาศเจตจำนงของประชาชนที่ชัดเจนว่าต้องการเปลี่ยนขั้วรัฐบาล ด้วยการลงคะแนนเสียงเลือกพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย(พท.)จนชนะเป็นอันดับ 1 และอันดับ 2 ดังนั้น เป้าหมายสูงสุดของเราในฐานะพรรคอันดับ 1 คือการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ให้สำเร็จ เพื่อหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของรัฐบาลเดิม แต่ตลอดสองเดือนที่ผ่านมา สถานการณ์ชี้ชัดว่าทุกองคาพยพของฝ่ายอนุรักษ์นิยม ทั้งการเมืองจารีต ทุนผูกขาด และสถาบันองค์กรต่างๆ ที่เป็นบริวารแวดล้อมทั้งหมด ไม่ยอมให้พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยเอาเรื่องมาตรา 112 มาบังหน้า และอ้างความจงรักภักดีมาปะทะกับการเลือกตั้งของประชาชน นอกจากนี้ ยังมีการเคลื่อนไหวผ่านคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) และศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อหวังตัดสิทธิ์ทางการเมืองของแกนนำพรรค และยุบพรรคก้าวไกลให้ได้
นายชัยธวัช กล่าวต่อว่า ด้วยเหตุนี้เราจึงเห็นว่า สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.)ฝืนมติมหาชน ไม่โหวตเลือกนายกรัฐมนตรีตามเสียงส่วนใหญ่ของสภาผู้แทนราษฎร มิหนำซ้ำ ยังกล้าทำลายหลักการตีความข้อบังคับของรัฐสภาให้ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เปรียบเสมือนการล้มล้างการปกครอง หรือฉีกรัฐธรรมนูญผ่านกฎหมู่ เพียงเพื่อต้องการขัดขวางไม่ให้เสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เป็นนายกรัฐมนตรีในครั้งที่ 2 พรรคก้าวไกลไม่ยอมรับการตีความข้อบังคับดังกล่าว แต่ภายใต้การทำงานที่สอดประสานกันทั้งองคาพยพของฝ่ายอนุรักษ์นิยมเช่นนี้ เราจำเป็นต้องขอโทษต่อพี่น้องประชาชน และยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า พวกเขาไม่ยอมให้พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล
นายชัยธวัช กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ดี การที่นายพิธา ไม่สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ไม่ได้หมายความว่า ภารกิจในการจัดตั้งรัฐบาล เพื่อพลิกขั้วอำนาจรัฐบาลจะไม่สำเร็จไปด้วย เป้าหมายสูงสุดของเราในฐานะพรรคอันดับ 1 ยังคงอยู่ นั่นคือการจัดตั้งรัฐบาล เพื่อหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของรัฐบาลเดิมให้สำเร็จ สิ่งสำคัญในวันนี้จึงไม่ใช่เรื่องนายพิธาจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ แต่คือเรื่องประเทศไทยจะกลับสู่ประชาธิปไตยได้หรือไม่ หยุดการสืบทอดอำนาจได้หรือไม่ เมื่อเป็นเช่นนี้ พรรคก้าวไกลจะเปิดโอกาสให้ประเทศ ให้พรรคอันดับ 2 คือพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลของพันธมิตร 8 พรรค ที่เราได้เคยทำเอ็มโอยูร่วมกันเอาไว้ ดังนั้น ในการประชุมรัฐสภาครั้งต่อไป พรรคก้าวไกลจะเสนอชื่อแคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 เช่นเดียวกับที่พรรคเพื่อไทยเคยสนับสนุนพรรคก้าวไกล
เมื่อถามว่า เงื่อนไขเรื่องการแก้มาตรา 112 จะทำให้ 8 พรรค ไม่อยากเข้าร่วมกับก้าวไกลต่อได้หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่มีการพูดคุยกันกับพท.ซึ่งจากนี้คงเป็นบทบาทหลักของพท.ในการพูดกันเพื่อจัดตั้งรัฐบาล ทั้งนี้ จากการหารือเบื้องต้นเมื่อวานที่ผ่านมา ยังไม่มีการสรุปว่าพท.จะส่งชื่อแคนดิเดตคนไหน ถือเป็นมติของพท.ที่เราต้องเคารพ
เมื่อถามว่า พท.ยืนยันใช่หรือไม่ว่าจะจับมือกับก้าวไกลต่อไป นายชัยธวัช กล่าวว่าเจตจำนงค์ของประชาชนผ่านการเลือกตั้งนั้นชัดเจน เมื่อวันนี้ไม่สามารถผลักดันนายพิธาเป็นนายกฯได้สำเร็จ ภารกิจสำคัญที่เหลือคือการจัดตั้งรัฐบาลตามเจตจำนงค์ของประชาชนที่หวังจะเห็นการยุติการสืบทอดอำนาจของขั้วรัฐบาลเดิม
ถามว่า ไม่ติดชัดใช่หรือไม่ ถ้าพท.จะไม่ชูนโยบาย แก้ไขมาตรา 112 นายชัยธวัช กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน ตอนนี้ตามมารยาทเมื่อพรรคก้าวไกลเปิดให้พท.เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแล้ว การพูดคุยกันหลังจากนี้คงต้องเป็นบทบาทหลักของพท. ซึ่งจะมีเงื่อนไขอะไร แล้วยอมรับได้หรือไม่ต้องรอพท.ก่อน
เมื่อถามว่า ที่เคยประกาศว่าจะไม่เอาสองลุง ถ้ามีพรรคของสองลุง มาร่วมเราไม่สามารถร่วมได้ใช่หรือไม่ นาชัยธวัช กล่าวว่า อันนี้ชัดเจนโดยไม่ต้องพูดคุยกันเลย
เมื่อถามต่อว่า ตอนนี้พรรคก้าวไกลพร้อมจะเป็นฝ่ายค้านหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า สิ่งที่เราสัญญากับประชาชนทั่วประะเทศ เราคงไม่สามารถเสียสัจจะเรื่องนี้ได้ และต้องรอดูอย่าเพิ่งรีบสรุป และก้าวไกลจะต้องพูดคุยกับพท.หลังจากนี้
เมื่อถามว่า เห็นอย่างไรกับบทบาทการทำหน้าที่ประธานรัฐสภาของนายวันมูหะมัดนอร์ ในครั้งที่ผ่านมา มะทา นายชัยธวัช กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นข้อถกเถียงกันในสมาชิกรัฐสภา เราเองก็เห็นว่าประธานสภายังคงวินิจฉัยได้ แต่เมื่อมีความเห็นแตกต่างกันเยอะ ประธานสภาจึงให้มีการอภิปรายกันอย่างเต็มที่และมีมติร่วมกัน แต่เหตุการณ์มันผ่านไปแล้ว ก็หวังว่ารัฐสภาชุดนี้จะไม่มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก
เมื่อถามว่า จากกรณีที่เคยถอยในตำแหน่งประธานสภา ได้คาดการณ์จากสถานการณ์ที่ถอยเก้าอี้นายกฯ หรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า ไม่ได้คำนวนอะไรทั้งนั้น เป้าหมายสำคัญที่ยึดไว้ตลอด คือพยายามอย่างถึงที่สุดในการจัดตั้งรัฐบาลตามเจตจำนงประชาชน อย่างที่ย้ำ ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่นายพิธาจะเป็นนายกฯ ได้หรือไม่ แต่ต้องผลักดันให้เกิดการรจัดตั้งรัฐบาล เพื่อหยุดการสืบทอดขั้วอำนาจเดิมให้ได้
เมื่อถามว่า หากมองย้อนกลับไป พรรค ก.ก.จะยังเสนอแคนดิเดตนายกฯ 1 คนหรือไม่ นายชัยธวัชกล่าว ว่ามองย้อนกลับไป ก.ก. ตัดสินใจเหมือนเดิม เราต้องการคืนความปกติให้กับประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา เป็นเรื่องปกติทั่วไปที่แคนดิเดตนายกฯ จะมาจากส.ส. ที่เป็นหัวหน้าพรรค เราไม่ได้ยอมรับกติกาที่ออกแบบไว้สำหรับการสืบทอดอำนาจภายหลังการรัฐประหาร และยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการที่พรรค ก.ก. มีแคนดิเดตนายกฯ 1 คนหรือมากกว่า 1 คน แต่ทุกองคาพยพได้แสดงออกชัดเจนแล้วว่า พวกเขามีความต้องการอย่างเด่นชัด ว่าไม่อยากเห็นพรรค ก.ก. จัดตั้งรัฐบาล จะด้วยความไม่ต้องการสูญเสียอำนาจทางการเมือง หรือผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ หรือไม่ว่าเป็นความต้องการที่ไม่อยากเห็นนโยบายที่พรรค ก.ก. ผลักดัน เพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้าง แต่เราจะพยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อทำภารกิจตามที่สัญญากับประชาชนให้สำเร็จ
เมื่อถามว่า นายพิธายังมีกำลังใจดีหรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า ยังใจยังดี พรุ่งนี้จะกลับมาทำงานแล้ว
เมื่อถามว่า กังวลในความเชื่อมั่นของผู้สนับสนุนพรรค ก.ก.หรือไม่ เพราะถอยจนไม่รู้จะถอยอย่างไรแล้ว นายชัยธวัชกล่าวว่า คิดว่าไม่ใช่แค่คนที่ลงคะแนนให้พรรค ก.ก. ผู้ลงคะแนนเสียงส่วนใหญ่ที่ลงให้พรรค พท. และ ก.ก.มีส่วนสำคัญ และตนเชื่อว่าแม้ว่าวันนี้พรรค ก.ก. ยากที่จะเป็นนายกฯ แต่ปประชาชนทั้งสองส่วน อยากเห็นรัฐบาลที่มี ก.ก.และ พท. เป็นแกนนำ
เมื่อถามว่า พรรค ก.ก.พร้อมที่จะเป็นฝ่ายค้านหรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า เราพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจัดตั้งรัฐบาลใหม่เพื่อยุติขั้วอำนาจเดิมให้สำเร็จ นี่เป็นเป้าหมายสำคัญที่สุด
เมื่อถามว่า คิดอย่างไรกับคำว่า “ก้าวไกลต้องเสียสละ” นายชัยธวัชกล่าวว่า คิดว่าเป็นคำถามที่ผิดฝาผิดตัว คนที่ไม่ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลง ไม่ยอมรับหลักการพื้นฐานหลักการของประชาธิปไตยต่างหากที่ควรมีสำนึก ว่าการกระทำเช่นนี้จะไม่เป็นผลดีต่อบ้านเมืองในระยะยาว
เมื่อถามว่า ในการประชุมรัฐสภาวันที่ 27 กรกฎาคม ใครจะเป็นผู้เสนอแคนดิเดตนายกฯ นายชัยธวัชกล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกัน วันนี้เราแถลงแล้วว่า พท. และ ก.ก. ส่งไม้ต่อเปิดโอกาสให้พรรคอันดับสองเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และพร้อมส่งแคนดิเดตนายกฯ จากพรรค พท.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี