โวคุมสถานการณ์ได้ไม่เกินมือ

‘อิ๊งค์’งงข่าวยุบสภา

ย้ำสัมพันธ์พรรคร่วมแน่นปึ้ก

‘สส.กฤษฎิ์’ทิ้งปชน.ซบ‘กธ.’

แฟนคลับตะเพิดสวมบทงูเห่า

“นายกฯอิ๊งค์” งงข่าวยุบสภา ยืนกรานไม่มีอะไร ยันสัมพันธ์พรรคร่วมฯยังแน่นปึ้กเหมือนเดิม โบ้ยสื่อโยงนั่นโยงนี่ ลั่น!คุมสถานการณ์ได้ไม่เกินมือ“วิสุทธิ์’มั่นใจงบ’69 ไร้ปัญหาถูกคว่ำ เชื่อมารยาทพรรคร่วมต้องโหวตรับวาระแรก

วางกรอบถกงบ’69ไม่เกิน 4 วัน 28-31 พ.ค.นี้เดือดพลั่กกลางสภาฯ‘กฤษฎิ์’แถลงแตกหัก‘ปชน.’ย้ายซบ‘กล้าธรรม’ไม่ลาออกสส.ขอให้ขับออก โอดเจอสารพัดแรงกดดัน อุดมการณ์ไม่ตรง รับย้ายซบ‘กธ.’อ้างเคยร่วมงาน‘ธรรมนัส’เจอ‘ด้อมส้ม’บุกรุมด่าไล่สาปแช่ง‘เท้ง’หน.ปชน. โต้ทันควัน ยันไม่ขับพ้นพรรคจ่อ‘ดองงูเห่า’ส่งตีความหนังสือ‘สส.กฤษฎิ์’เข้าข่ายทิ้งปชน.หรือไม่ด้าน2อดีตสส.กทม.’อนุดิษฐ์-การุณ’เตรียมเปิดตัวร่วมงาน‘กล้าธรรม’เร็วๆนี้

เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ถึงกรณีกระแสข่าวจะมีการยุบสภาฯช่วงสุดสัปดาห์

นายกฯ’อิ๊งค์’งงข่าว’ยุบสภาฯ’

โดยนายกฯตอบว่าจริงๆได้สอบถามคนในพรรค เพราะงงกับข่าวที่ออกมาว่าทำไมถึงยุบสภาฯ พร้อมย้อนถามสื่อว่า จะยุบเพราะอะไร สื่อจึงตอบไปว่าพรรคภูมิใจไทย(ภท.)จะคว่ำร่างกฎหมายงบประมาณปี 69 เพราะไม่พอใจคดีฮั้ว สว.ซึ่งน.ส.แพทองธาร กล่าวว่า“ไม่มีเลย จริงๆ การทำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ เป็นความรับผิดชอบร่วมกันของพรรคร่วม ซึ่งไม่มีเรื่องของการยุบสภาฯอะไรเลย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ผ่าตัดตาอยู่ ซึ่งตนไม่ได้พูดคุยเรื่องนี้กับนายอนุทิน เพียงแต่อวยพรให้หายเร็วๆ และความจริงสื่อช่วยกันคิดก็ได้ว่าทำไมถึงมีข่าวแบบนี้ออกมา

ยันสัมพันธ์พรรคร่วมเหมือนเดิม

เมื่อถามว่าขณะนี้รัฐบาลยังเหนียวแน่นเหมือนเดิมใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า“เหมือนเดิมไม่มีอะไร”เมื่อถามว่าสถานการณ์ตอนนี้ที่ผู้นำทางจิตวิญญาณสองคน คือ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และนายเนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่ภูมิใจไทย กำลังสู้รบกันอยู่ เกินมือนายกฯที่จะจัดการปัญหาแล้วหรือไม่น.ส.แพทองธาร หัวเราะก่อนตอบว่า สื่อชอบโยง โยงนั้นโยงนี้ โยงจนบางทีงงว่าบางเรื่องมันเกี่ยวข้องกันจริงๆ หรือไม่ แต่ไม่มีอะไร ทั้งสองท่านคิดว่าคุยกันนอกรอบได้อยู่แล้ว

ลั่นคุมสถานการณ์ได้ไม่เกินมือ

“แต่เรื่องปัญหาของรัฐบาลเรามีหน้าที่รักษาเสถียรภาพอยู่แล้ว ถามว่าเกินมือหรือไม่ที่ตัวดิฉันเองจะเข้าไปเกี่ยวข้อง จะเกินมือได้อย่างไร ในเมื่อดิฉันเป็นนายกฯอยู่”

เมื่อถามย้ำว่า มั่นใจจะคุมเสถียรภาพรัฐบาลได้ใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร ตอบว่า เรื่องเสถียรภาพรัฐบาลต้องมั่นใจอยู่แล้ว ต้องคุมให้ได้ อีกเรื่องถ้ามันจะเกิดอะไรขึ้นผู้นำทางจิตวิญญาณหรืออะไรต้องเกิดขึ้นนอกระบบ แต่ถ้าอยู่ในระบบอยู่ในการจัดตั้งรัฐบาล มันคงเกิดขึ้นไม่ได้ เพราะทั้งสองท่านไม่มีตำแหน่งในรัฐบาล

โทรคุยพรรคร่วมนอกรอบตลอด

เมื่อถามว่า หากพรรคร่วมรัฐบาลพรรคไหนดื้อจะจัดการอย่างไร น.ส.แพทองธาร หัวเราะ ก่อนตอบว่า “พูดเหมือนเป็นลูก ไม่ใช่นะคะ บอกแล้วว่าการมีพรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรค มีความคิดเห็นไม่ตรงกันอยู่แล้ว ในพรรคยังคิดไม่ตรงกันเลย แต่ต้องหาข้อสรุปจนได้ อะไรที่ติดขัดต้องช่วยกันพูดคุยกันเท่านั้น พอมันถึงเรื่องใหญ่พรรคร่วมรัฐบาลก็โทรหากันอยู่แล้ว ต้องคุยกันนอกรอบก่อน”

เมื่อถามว่า เวลามีกฎหมายสำคัญเข้าสภาฯ เช่น เรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หรือกฎหมายงบ ต้องมีประเด็นเพื่อไทยและภูมิใจไทยตลอด น.ส.แพทองธาร ตอบว่า นั่นสิ สื่อมวลชนช่วยตอบให้หน่อยทำไมเป็นข่าวทุกทีเลย เป็นเพราะสื่อหรือไม่

พท.ยันภท.การันตีไม่คว่ำงบฯ 69

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว และกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ว่า ทางพรรคภูมิใจไทยออกมาชี้แจงชัดเจนแล้วว่าจะไม่มีการคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ เนื่องจากเป็นการพิจารณาร่วมกัน โดยในวาระที่ 1 ทุกพรรคการเมืองควรจะเห็นไปในแนวทางเดียวกัน เพราะทุกสิ่งทุกอย่างจะเข้าไปสู่ขั้นตอนของคณะกรรมาธิการวิสามัญ ส่วนการพูดคุยกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลนั้น ได้มีการพูดคุยกันมาตลอด และเท่าที่ตนติดตามข่าว พรรคภูมิใจไทยมีการชี้แจงแล้วว่าจะไม่มีการคว่ำงบอย่างแน่นอน

วิปรบ.วางกรอบถกงบไม่เกิน4วัน

ที่รัฐสภา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปรัฐบาลกล่าวถึงการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 จากกรอบเวลาที่วางไว้คือเริ่มในวันที่ 28-30 พ.ค.นี้ และเป็นไปได้อาจจะถึงวันที่ 31 พ.ค. ไม่เกิน 4 วัน เนื่องจากมีพระราชกำหนดเพิ่มเติม 2 ฉบับเกี่ยวกับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และการบริหารสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเทคโนโลยี

ส่วนการจัดสรรเวลาอภิปรายอาจจะยึดกรอบเดิมที่ฝ่ายค้านได้เวลา 20 ชั่วโมงและครม.กับฝ่ายรัฐบาลได้เวลา 20 ชั่วโมง ในการประชุมพรรคเพื่อไทยวันนี้จะกำชับ สส. ให้เข้าร่วมประชุมพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณในช่วงปลายเดือนนี้

มั่นใจงบ69วาระแรกไร้ปัญหา

นายวิสุทธิ์ กล่าวถึงกระแสคว่ำร่างกฎหมายงบประมาณฯ ว่าเป็นกระแสที่มีการพูดกัน แต่เสียงรัฐบาลยังเข้มแข็ง มีการเจรจาในระดับหัวหน้าพรรค ส่วนรัฐบาลมีการประชุมร่วมกันในวันนี้ โดยไม่มีใครพูดถึงเรื่องจะไม่ผ่านร่างงบประมาณดังนั้นเป็นหน้าที่ของพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด เราเป็นรัฐบาลมีหน้าที่ต้องผ่านงบประมาณ เพื่อจะนำไปใช้ในการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาต่างๆ หากงบประมาณช้า เศรษฐกิจก็จะถดถอยไปกว่านี้ โดยหน้าที่และมารยาทพรรคร่วมรัฐบาล ทุกคนจะต้องรับหลักการในวาระแรกอยู่แล้ว

พร้อมมั่นใจว่าร่างกฎหมายงบประมาณไม่มีปัญหาในวาระแรก เป็นเพียงการวิพากษ์วิจารณ์ทั่วไปตามกระแสข่าว พร้อมอ้างอิงการให้ข่าวจากพรรคภูมิใจไทยที่ยืนยันมาว่าให้การสนับสนุน เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาเรื่องการโหวตร่างกฎหมายงบประมาณในช่วงปลายเดือนนี้

“กฤษฎิ์”แถลงทิ้งปชน.ซบ‘กล้าธรรม’

เวลา10.00น.ที่รัฐสภา น.ส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส.ชลบุรี เขต 6 พรรคประชาชน(ปชน.)แถลงประกาศแยกทางกับพรรคประชาชน เตรียมย้ายเข้าร่วมงานทางการเมืองกับพรรคกล้าธรรมโดยยืนยันว่าจะไม่ลาออก แต่ขอให้พรรคปชน.ขับออกจาก

โดยก่อนการแถลงมีประชาชนผู้สนับสนุนพรรคประชาชน(ปชน.)เข้ามาฟังแถลงได้มาต่อว่า น.ส.กฤษฎิ์อย่างรุนแรงจนเกิดชุลมุนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภาต้องเข้ามาปรามให้ประชาชนอยู่ในความสงบ

น.ส.กฤษฎิ์ยืนยันว่าเป็นคนตรงไปตรงมาเมื่ออยากทำงานร่วมกับพรรคอื่นแต่ยังสังกัดพรรคเดิมจึงเป็นงูเห่าชัดเจนแต่วันนี้ที่ทำงานไม่ได้เพราะอุดมการณ์ต่างกัน แนวทางการทำงานต่างกัน กล้าพูดว่าขอให้พรรคขับออก โดยยื่นหนังสือไปตั้งแต่เดือนเม.ย. 68 แต่ที่มาแถลงวันนี้เพราะสนับสนุนทีมเลือกตั้งเทศบาล ไม่อยากให้เรื่องส่วนตัวมากระทบกับพรรค

โอดสารพัดกดดัน/อุดมการณ์ไม่ตรง

“สาเหตุที่ยุติบทบาทในวันนี้เนื่องจากพรรคมีเป้าหมายเน้นสร้างพรรคไม่เน้นสร้างคน เรื่องที่พรรคให้ความสนใจแก้ปัญหาและทำงาน เป็นประเด็นสร้างกระแสและสร้างความนิยมให้พรรคเป็นหลัก ไม่ได้มุ่งเน้นประโยชน์ของประชาชน ทำให้กฤษฎิ์ไม่สามารถแก้ปัญหาให้กับพี่น้องได้ แต่การเป็นสส.เขต มีเป้าหมายที่สำคัญที่สุดก็คือการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนในพื้นที่ การผลักดันเรื่องในพื้นที่เข้าสู่พรรค การแก้ปัญหาไม่เคยได้รับการสนับสนุนอย่างที่ควรจะเป็น ทำให้ไม่สามารถร่วมงานกับพรรคได้ อีกทั้งมีเรื่องการไม่ให้เกียรติ ไม่เคารพ พูดจาลับหลังในทางที่ไม่ดีในสถานะทางเพศและยังมีการปล่อยข่าวอยู่เรื่อยๆว่าเป็นงูเห่าทุกครั้งที่จะมีการเปลี่ยนแปลงของพรรคไม่ว่าจะเป็นการยุบพรรคหรือจะอะไรก็แล้วแต่ประชาชนในเขตกฤษฎิ์จะต้องโทรมาหาทุกครั้งว่าเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า เป็นงูเห่าอย่างที่เขาว่าหรือเปล่า แต่เวลาก็พิสูจน์ว่าที่ผ่านมากฤษฎิ์ไม่ได้เป็นแบบนั้น” น.ส.กฤษฎิ์ กล่าว

ยันไม่ลาออกอ้างเปลืองงบลต.

น.ส.กฤษฎิ์ระบุว่าเสียใจกับการยุติบทบาทในวันนี้แต่เป้าหมายการทำงานไม่เคยเปลี่ยนแปลง พฤติกรรมไม่เคยเปลี่ยน แต่ไม่ขอลาออกจากสส.เพราะจะทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณ ต้องเลือกตั้งใหม่ แม้จะทำให้ดูเท่มาก แต่ไร้สาระ ขอทำงานต่อตามที่ประชาชนคาดหวัง

ขณะนั้นประชาชนที่สนับสนุนพรรคปชน.ที่ร่วมฟังแถลงข่าวได้ตะโกนขับไล่ให้น.ส.กฤษฎิ์ลาออก พร้อมต่อว่าว่าเป็นงูเห่าเกิดความชุลมุนจนเจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภาเข้ามาควบคุมและขอความร่วมมือให้อยู่ในความสงบ โดยผู้สนับสนุนพรรคปชน.ได้ตะโกนแทรกตลอดการแถลงข่าวของน.ส.กฤษฎิ์เป็นระยะ

ส่วนในประเด็นแตกหัก น.ส.กฤษฎิ์ กล่าวว่า การทำงานในพรรคที่มีปัญหามาโดยตลอด ร้องเรียนไปที่พรรค แต่ไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาตามกระบวนการ อีกประเด็นแตกหัก คือ การอภิปรายเกี่ยวกับการสร้างอ่างเก็บน้ำบนเกาะสีชัง ขอเป็นตัวแทนราษฎรในการเข้าเฝ้าฯและขอให้กระทรวงมหาดไทยทำงบประมาณเพื่อวางท่อประปาต่อน้ำไปยังเกาะสีชังเพื่อไปยังอ่างเก็บน้ำ แต่ถูกต่อว่าจากสส.และพรรคว่าไม่เหมาะสม

แจงซบ‘กธ.’เคยร่วมงาน‘ธรรมนัส’

เมื่อถามว่าทำไมเลือกย้ายไปพรรคกล้าธรรม น.ส.กฤษฎิ์ กล่าวว่า ได้ประสานงานกับรัฐมนตรีหลายคนที่ขอให้ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ แต่ได้รับการตอบรับจากร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ในการช่วยแก้ปัญหาให้มาถึง 2ครั้งจึงต้องการเลือกพรรคที่สนับสนุนการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนอย่างแท้จริง หลังจบการแถลงจะไปขอใบสมัครพรรคกล้าธรรมเพื่อทำงานร่วมกับพรรคหลังจากที่พรรคประชาชนขับออก และยืนยันมีอุดมการณ์เสมอว่า จะไม่เป็นงูเห่า ยืนยันมาตลอด

ส่วนการตัดสินใจเลือกทางเดินครั้งนี้ จะถือเป็นการจบชีวิตสส. หรือไม่ น.ส.กฤษฎิ์ กล่าวว่า ทีแรกตั้งใจจะลาออก แต่จากสถานการณ์หลาย ๆอย่าง จะทำให้เสียงบประมาณในการเลือกตั้ง เร็ววันนี้ จะยุบสภาหรือไม่ก็ยังไม่รู้ ยังอยากทำงานให้กับประชาชน เมื่อถามว่าจะไปขอใบสมัครถามคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หรือยังว่าทำได้หรือไม่ น.ส.กฤษฎิ์ กล่าวว่า ไปเอาใบสมัครไว้เฉยๆ

ตะโกนแช่งสาปส่งระวังถูกหักหลัง

ช่วงท้ายการแถลงข่าวน.ส.กฤษฎิ์ได้เลี่ยงการเผชิญหน้ากับกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคประชาชน โดยการหลบเดินออกทางประตูข้างห้องแถลงเชื่อมขึ้นไปยังบนอาคารรัฐสภาทันที โดยมีเสียงตะโกนต่อว่าด่าทอว่า“หนีทำไม หน้าด้าน ขายตัว เสียงบประมาณภาษีประชาชน ไสหัวออกไป ลาออกไป ประชาชนแค้น วางแผนไปกับธรรมนัสมานานแล้ว พูดอะไรชงธรรมนัสตลอด ขอฝากไปถึงร.อ.ธรรมนัส คุณคิดดีแล้วหรอ คุณจะรับ สส.ที่ไม่ซื่อไม่ตรง เขาหักหลังประชาชนได้ เขาก็หักหลังคุณได้

ขณะที่ผู้สนับสนุนพรรคประชาชนรายหนึ่ง ถึงขั้น ยกมือพนมสาปแช่ง ใครที่นำเงินซื้อ สส.ขอให้มีอันเป็นไป สส.คนไหนที่รับจ้างได้สินบน ขอให้ฉิบหาย ฟ้าผ่าตายจาก ประชาชนสู้แทบตาย แต่พอส่งขึ้นสภาแล้วมาทำแบบนี้ เลว ชั่ว สารเลว

ปชน.แถลงโต้‘สส.กฤษฎิ์’ทันควัน

ที่รัฐสภา นายณัฐพงศ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) พร้อมนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล รองหัวหน้าพรรค ร่วมแถลงตอบโต้ น.ส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ พรรคประชาชน เขต 6 ชลบุรี หลังแถลงขอยุติบทบาทภายในพรรคและขอให้พรรคประชาชนขับออกจากพรรค เนื่องจากไม่ได้รับความเป็นธรรมและไม่ได้รับการผลักดันนโยบายจึงต้องการขับเคลื่อนงานในพื้นที่ และอ้างว่าไม่เคยได้รับงบประมาณจากพรรคในการทำกิจกรรม โดยยืนยันว่าพรรคได้สนับสนุนการทำงานในพื้นที่มาโดยตลอด ฝ่ายนโยบายพรรคเคยอนุมัติงบในส่วนกลางเพื่อให้ไปทำกิจกรรมรับฟังความเห็นต่อการพัฒนานโยบายของพื้นที่ศรีราชาตามที่ได้ร้องขอเข้ามา ซึ่งสส.คนอื่นก็ทำงานได้อย่างราบรื่น และได้รับการสนับสนุน

ส่วนที่บอกการทำงานในคณะกรรมาธิการการคมนาคมไม่ได้รับการสนับสนุนนั้นนับตั้งแต่เริ่มเปิดสภา เราจะให้สส.ทุกคนได้เสนอมาว่าอยากทำงานในกรรมาธิการในคณะใด แต่เป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะได้เป็นกรรมาธิการในอันดับหนึ่งที่เลือก แต่นส.กฤษฎิ์ก็ได้ตามที่ต้องการและยังได้เป็นรองประธานอนุกรรมาธิการฯ ส่วนเรื่องงานก่อสร้างท่าเรือ และยังมีมติให้ศึกษาดูงานเพื่อรับฟังปัญหาทางต่าง ๆ จากประชาชนที่อยู่ในเขตท่าเรือแหลมฉบัง

สวนปชน.ไม่เคยขวางทำงาน

นายณัฐพงศ์ กล่าวอีกว่า เมื่อคืนมีการประชุมสส.และกรรมการบริหารพรรค ขอยืนยันว่าที่ผ่านมาพรรคไม่มีกระบวนการใดๆที่ใช้อำนาจในพรรคใดที่จะทำให้น.ส.กฤษฎิ์ อึดอัดใจหรือเป็นอุปสรรคในการทำงานตามที่ได้มีการแถลงไปเมื่อเช้า ดังนั้นขอใช้เวทีนี้ในการสื่อสารข้อเท็จจริง และขอยืนยันว่าเหตุผลที่น.ส.กฤษฎิ์นั้นฟังไม่ขึ้น ดังนั้นจึงจะดำเนินทุกมาตรการที่ทำให้ประชาชนได้รับความเป็นธรรมมากที่สุด เพราะต้องยอมรับว่าการที่ประชาชนมาใช้สิทธิ์เลือกน.ส.กฤษฎิ์เพราะเป็นตัวแทนของพรรค จึงต้องให้ความเป็นธรรมให้กับประชาชนเขตเลือกตั้งที่ 6โดยการที่ทำให้น.ส.กฤษฎิ์ไม่ได้เจตนารมณ์ตามหนังสือที่ยื่นมากับตน และกรรมการบริหารพรรค

จ่อ‘ดองงูเห่า’ยังไม่ขับพ้นพรรค

นายณัฐวุฒิกล่าวว่านายทะเบียนสมาชิกพรรคที่ขอยุติบทบาทกับพรรคและร้องขอให้พรรคขับออกจากการเป็นสมาชิกซึ่งเรื่องนี้ตนขอเชิญชวนประชาชนทุกคนคิดตาม เชื่อว่าทุกคนมีข้อสรุปตรงการว่า นส.กฤษฎิ์แสดงเจตนาไม่ต้องการเป็นสมาชิกพรรคประชาชนอีกต่อไปและการจะให้ขับออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ต้องมีเงื่อนไขเดียวคือ ต้องทำผิดทางวินัยและในอดีตพรรคไม่เคยถือว่าการกระทำใดๆของเขาเป็นการทำความผิดที่เข้าสู่กระบวนการวินัยของพรรค การที่ยื่นหนังสือขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค พวกเรามีความเห็นว่าฉบับนี้ได้แสดงเจตจำนงเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าคุณเป็นต้องการยุติการเป็นสมาชิกของพรรคประชาชน และเพื่อให้ความชัดเจนในข้อกฎหมายว่าต้องการยุติการเป็นสมาชิกพรรคจึงขอใช้อำนาจตามกฎหมาย โดยยื่นพรรคจะไปหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตีความว่าหนังสือฉบับนี้ถือเป็นหนังสือในการลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาชนหรือไม่

“โดยพรรคประชาชนจะไม่ทำการขับกฤษฎิ์ออกจากพรรคแต่จะใช้มาตรการในการ“ดองงูเห่า”รวมถึงการนำเรื่องเข้ากรรมการวินัยของพรรคเพื่อตัดสิทธิพึงมีทุกอย่างในสถานะสมาชิกพรรคที่กฤษฎิ์มีอยู่”นายณัฐวุฒิย้ำ

‘อนุดิษฐ์-การุณ’จ่อเปิดตัวร่วม‘กธ.’

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกรณีมีกระแสข่าวสส.จะย้ายเข้าร่วมกับพรรคกล้าธรรม ซึ่งก่อนหน้านี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรมระบุว่าจะทยอยเปิดตัว สส.ที่จะย้ายเข้ามาร่วมกับพรรคกล้าธรรมนั้น ล่าสุดมีรายงานว่า ในเร็วๆนี้ทางพรรคกล้าธรรมเตรียมจะมีการเปิดตัวอดีตสส.กทม.2รายได้แก่ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีตสส.กทม.และอดีตรมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อมาเป็นกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กับนายการุณโหสกุล อดีต สส.กทม. ซึ่งทั้ง 2 คน ได้มีการลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคไทยสร้างไทยแล้ว

‘อุตตม-สนธิรัตน์’ลา‘บิ๊กป้อม’ทิ้งพปชร.

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า นายอุตตม สาวนายน อดีตรมว.คลัง และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตรมว.พาณิชย์ และพลังงาน ได้ตัดสินใจลาออกจากสมาชิกพรรค พปชร. และไปยื่นใบลาออกต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยทั้งนายอุตตม และสนธิรัตน์ ได้เข้าไปลา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว โดยพล.อ.ประวิตร ได้ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันมา ไม่ได้ไปไหนยามที่พรรควิกฤติ แต่อยู่จนพรรคตั้งหลักได้ ส่วนการลาออกครั้งนี้ของทั้งสองคนนั้น พล.อ.ประวิตรมองว่าเป็นวิถีทางการเมือง และอวยพรขอให้ทั้ง 2 คนโชคดีมีรายงานว่า นายอุตตมาจะกลับไปทำงานที่สถาบันอนาคตไทยศึกษา ขณะที่นายสนธิรัตน์จะกลับไปตั้งหลักก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอุตตม และนายสนธิรัตน์ ถือเป็นหัวหน้าและเลขาฯ พรรค พปชร. คู่แรกในการนำพรรคลงเลือกตั้ง เมื่อปี 62 และได้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยตำแหน่งสุดท้ายของนายอุตตม ในพรรค พปชร. คือ รองหัวหน้าพรรค และประธานกรรมการนโยบาย ส่วนนายสนธิรัตน์ เป็นรองหัวหน้าพรรค และหัวหน้าศูนย์นโยบายและวิชาการพรรค