‘อุเทน’เปิด 3 สูตรตั้งรัฐบาลที่ไม่มี‘ก้าวไกล’ แต่ขอเสียงช่วยโหวตนายกฯ

30 กรกฎาคม 2566 นายอุเทน ชาติภิญโญ อดีตหัวหน้าพรรคคนไทย กล่าวถึงกระแสนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะยังไม่เดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 10 สิงหาคม ตามที่ น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร บุตรสาว ประกาศไว้ ว่า ประเด็นนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเกี่ยวข้องกับกระแสข่าวดีลลับลังกาวีหรือไม่ ซึ่งสาเหตุที่นายทักษิณจะยังไม่กลับมาช่วงนี้ เพราะเกรงว่าการขออภัยโทษอาจมีการติดขัด เนื่องจากในข้อเท็จจริงนายทักษิณ ยังคงมีสุขภาพแข็งแรงดี  จึงจำเป็นต้องเลื่อนการกลับไทยในช่วงนี้ออกไปก่อน

นายอุเทน กล่าวต่อว่า ทั้งนี้การดีลลับที่ผ่านมา นายทักษิณมีการเสนอสูตรการตั้งรัฐบาล 3 สูตร โดยทุกสูตรจะไม่มีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาล แต่จะขอให้พรรคดังกล่าวช่วยโหวตให้กับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของเพื่อไทย และสิ่งที่ก้าวไกลจะได้คือ มีการรับปากช่วยผลักดันแก้รัฐธรรมนูญให้สำเร็จภายในปีแรก

สูตรแรกคือ จะดึงพรรคภูมิใจไทย ชาติไทยพัฒนา และชาติพัฒนากล้า รวมทั้งหมด 83 เสียง เมื่อรวมกับ 312 เสียงเดิมก็ไม่จำเป็นต้องใช้เสียงสมาชิกวุฒิสภา(สว.)

สูตรที่สอง มีพรรคภูมิใจไทย ชาติไทยพัฒนา ชาติพัฒนากล้า และมีพลังประชารัฐ แต่ไม่เอารวมไทยสร้างชาติ กับประชาธิปัตย์  ซึ่งสูตรนี้พรรคเพื่อไทย น.ส.แพรทองธาร และนายเศรษฐา ทวีสิน ไม่เห็นด้วยเพราะต้องนำพลังประชารัฐเข้ามา

สูตรที่สาม มีทั้งพลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ ชาติไทยพัฒนา ชาติพัฒนากล้า ประชาธิปัตย์ แต่ไม่มีภูมิใจไทย เนื่องจากมองว่าภูมิใจไทยอาจเรียกร้องเก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงใหญ่ๆมากไป   

“แต่การเลื่อนกลับบ้านของนายทักษิณครั้งนี้ อาจไม่มีผลต่อการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย แต่จะขาดความเชื่อมั่น เพราะนายทักษิณไปชี้ว่าจะไม่เอาพรรคนั้น พรรคนี้ โดยไม่คำนึงถึงศักดิ์ศรี เอาศัตรูเข้ามา ซึ่งเป็นศัตรูที่เคยล้มล้าง และทำร้ายประชาชน ล้มล้างรัฐบาลของน้องสาวตัวเอง  แล้วยังจะไปร่วมรัฐบาลโดยไม่คำนึงจิตใจของเหล่าประชาชน คนเสื้อแดงเลยหรือ ซึ่งทำไมนายทักษิณยังอยากจะร่วมรัฐบาลกับ 2 ป. เพียงต้องการให้ได้นายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย  แล้วหวังจะได้กลับบ้านเท่านั้น หรือมีอะไรซ่อนในกอไผ่ หรือว่านายทักษิณต้องการทำอะไรบางอย่างให้ต่างชาติได้เห็นว่าเขายังมีบทบาท เพื่อสานความยิ่งใหญ่เพราะนายทักษิณมีธุรกรรมอยู่ในระดับโลก เพื่อให้เห็นว่าเขาสามารถเป็นเจ้าของรัฐบาลได้ สามารถจัดการและควบคุมได้” นายอุเทน กล่าว