‘ณัฐวุฒิ’ประกาศยุติบทบาทกับ‘เพื่อไทย’ หลังจัดตั้งรัฐบาลมี‘พรรค 2 ลุง’ ลั่นเข้าใจจุดยืน แต่ไม่สามารถไปต่อร่วมกันได้

21 สิงหาคม 2566 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวผ่าวรายการ “กรรมกรข่าวคุยนอกจอ กับสรยุทธ สุทัศนะจินดา” ว่า วันนี้ตนเองขอยุติบทบาทผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย และไม่เข้าร่วมกิจกรรมใดๆกับรัฐบาล โดยได้แจ้งบอกกล่าวผู้ใหญ่ในพรรคแล้ว ทั้ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร , นายเศรษฐา ทวีสิน , นายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เคลื่อนไหวแล้ว!‘ณัฐวุฒิ’โพสต์ทิ้งปริศนา ‘ข้าพเจ้าเพียงรอเวลา และเวลาของข้าพเจ้ามาถึงแล้ว’)

นายณัฐวุฒิ ระบุว่า สำหรับเหตุผลเนื่องจากกรณีการจับมือจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคการเมืองบางพรรค โดยตนก็รอให้มั่นใจ ให้พรรคผ่านสถานการณ์ยากลำบากในช่วงก่อนหน้านี้ เพราะตนไม่เคยจากที่ไหนในช่วงที่เขาลำบาก โดยขณะนี้มั่นใจว่านายเศรษฐาจะได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา

เมื่อถามว่านี่คือผลจากการที่พรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาลโดยมีพรรค 2 ลุงหรือพรรครวมไทยสร้างชาติกับพรรคพลังประชารัฐ ร่วมด้วยใช่หรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า “เหตุผลนั้นเป็นเหตุผลสำคัญ” ซึ่งยืนยันว่าเข้าใจจุดยืนของพรรคเพื่อไทย เพราะกติกามันจำกัด แต่ส่วนตัวไม่สามารถไปต่อร่วมกันได้

“การตัดสินใจยุติบทบาทผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทยสำหรับผม มันเป็นเรื่องมีรอยในใจผมนะครับ ที่นี่บ้านผม ผมเกิดที่นี่ โตที่นี่ สู้ที่นี่ คนในบ้านพี่น้องผมทั้งนั้น แต่ว่า ถึงเวลามันก็ต้องตัดสินใจ” นายณัฐวุฒิ กล่าว

ทั้งนี้การยุติบทบาทครั้งนี้ ขอบอกกับกองเชียร์พรรคเพื่อไทยหรือคนเสื้อแดงได้เลยว่า ตนเองเมื่อพ้นจากบทบาทนี้แล้วจะไม่มีทางทำให้พรรคเสียหาย หรือออกมาเขวี้ยงก้อนหินใส่หลังคาบ้านตัวเองอย่างแน่นอน  ส่วนสาเหตุตนเองเพิ่งมาตัดสินใจยุติบทบาทครั้งนี้  ก็เนื่องจากเพียงแต่ตนเองต้องการรอเวลาให้ทางพรรคการเมืองที่ตนรักสามารถเดินทางต่อไปได้และอยู่ได้อย่างปลอดภัย    หลังจากที่เดินทางมาถึงจุดที่ยากลำบากที่ผ่านมา  ซึ่งจากการได้เช็คกับภายในพรรคเพื่อไทยแล้ว ได้รับการยืนยันจากคนในพรรคว่า คุณเศรษฐาปลอดภัยแล้ว สามารถรวบรวมคะแนนโหวตนายกฯได้เพียงพอ ซึ่งตนเองก็สบายใจ ออกไปได้​ และขอส่งเพียงเท่านี้

“สิ่งที่ผมอยากจะฝากให้เพื่อน สส.ในพรรคทั้ง 141 คน เพื่อผลักดันการร่างกฎหมายรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ และผลักดันให้คดีสลายการชุมนุมที่ผ่านมาที่มีการล้มเจ็บล้มตาย ญาติของพวกผู้เสียชีวิตสามารถฟ้องศาลได้ทันที หากทั้ง 141 คน ไม่ทำ เป็นเรื่องแน่ ผมก็จะประสานกับพรรคก้าวไกล 151 คนให้ช่วยผลักดันเรื่องนี้ด้วย”     

-005