'ทั่นโรม'ออกหน้าเคลียร์ปมร้อนให้'โย ก้าวไกล'กรณีไม่ยื่นเสียภาษี อ้างมีรายได้จากตำแหน่งผู้ชำนาญการ สส.เท่านั้น ไม่ถึงเกณฑ์เสียภาษี ส่วนกรณีขายเบียร์เป็นลังๆ เป็นธุรกิจที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้จนนำไปสู่การปันผล ขณะที่คดียักยอกทรัพย์ก็จบแล้ว ตร.สั่งไม่ฟ้องถือว่าไม่ขาดคุณสมบัติ เชื่อมีขบวนการดิสเครดิต ขอให้มาสู้กันเอาชนะใจประชาชนจะดีกว่า ด้าน'พงศธร'อ้างแต่ก่อนรายได้ดี แต่หลังมาทำงานการเมืองใช้ชีวิตสมถะ พร้อมให้สรรพากรเข้ามาตรวจสอบ
29 ส.ค.66 จากกรณีกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดระยอง ประกาศเรื่อง บัญชีหลักฐานแสดงการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นเวลาติดต่อกันสามปีนับถึงปีที่สมัครรับเลือกตั้ง ตามความในมาตรา 45 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.พ.ศ.2561 ประกอบข้อ 91 ของระเบียบ กกต.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.พ.ศ.2566 พบว่า นายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ ผู้สมัคร ส.ส.ก้าวไกล พบว่าแสดงหนังสือยืนยันการไม่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า การไม่เสียภาษีนั้นสามารถสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ได้หรือไม่
ล่าสุด นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล และนายโย พงศธร ศรเพชรนรินทร์ ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม สส. พรรคก้าวไกล ระยอง เขต 3 ร่วมแถลงชี้แจงข้อกล่าวหาทั้งเรื่องภาษีและคดียักยอกทรัพย์ โดยนายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2562 นายพงศธร ทำหน้าที่เป็นผู้ชำนาญการประจำตัว น.ส. เบญจา แสงจันทร์ สส.บัญชีรายชื่อของพรรค มีเงินรายได้ประมาณ 15,000 บาท/เดือน เมื่อคำนวณตลอดทั้งปี จึงมีรายได้ไม่เกิน 180,000 บาท ซึ่งเป็นตัวเลขไม่เกินที่กฎหมายกำหนดให้จ่ายภาษี ดังนั้นเมื่อตลอด 3 ปีที่ผ่านมา นายพงศธร ไม่ได้ยื่นแบบฟอร์มภาษี ทั้งที่ก็โดนหักภาษี ณ ที่จ่าย และนายพงศธรได้ทำแบบฟอร์ม สส.4/7 เพื่อยืนยันว่ามีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์เสียภาษี
สำหรับกรณีที่มีการเผยแพร่ว่านายพงศธรมีชีวิตหรูหราฟู่ฟ่า ขายเบียร์ใส่รถกันเป็นลังๆ นั้นนายพงศธร ได้ร่วมหุ้นกับเพื่อนเพื่อดำเนินธุรกิจนี้จริง แต่การประกอบธุรกิจดังกล่าวไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่นำไปสู่การปันผลจนถึงปัจจุบัน นายพงศธรจึงไม่เคยต้องไปยื่นเสียภาษี เพราะรายได้ของนายพงศธร ช่วงที่ผ่านมามาจากตำแหน่งผู้ชำนาญการ สส. เท่านั้น
นายโรม กล่าวว่า ประเด็นต่อมากรณีที่นายพงศธร เคยถูกแจ้งความในคดียักยอกทรัพย์ ข้อเท็จจริงปรากฏอยู่ชัดเจนว่าสุดท้ายตำรวจมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง นายพงศธร จึงยังมีคุณสมบัติครบถ้วนลงสมัครรับเลือกตั้งได้
“ขอยืนยันต่อสื่อมวลชนว่าเราเข้าใจดีในการตรวจสอบ และเราก็ยินดีที่พี่น้องสื่อมวลชน พี่น้องประชาชนจะตรวจสอบพวกเรา เพราะถือเป็นมาตรฐานขั้นต่ำที่สำคัญที่จะทำให้เกิดการเมืองที่มีความโปร่งใส แต่เมื่อพิจารณาจากพาดหัวข่าวและประเด็นที่มีการโจมตี ต้องเรียนว่าเกินเลยจากข้อเท็จจริงไปมาก สุดท้ายก็คงคิดเป็นอื่นไม่ได้ว่าคงจะมีกลุ่มบุคคล ใครบางคนหวังใช้ข้อเท็จจริงเหล่านี้หวังประโยชน์ทางการเมืองจากการดิสเครดิตนี้ ผมขอฝากว่าอย่าเลยครับ เรามาสู้กันเพื่อเอาชนะใจประชาชนมากกว่าจะมาใช้การสาดโคลนดิสเครดิตทางการเมือง จะดีกว่า” รังสิมันต์ โรม กล่าว
ขณะที่นายพงศธร ยืนยันตามข้อเท็จจริงที่นายรังสิมันต์แถลง โดยมีพี่น้องประชาชนติดต่อสอบถามเข้ามาจำนวนมาก โดยตนเองยังมีกำลังใจดี ไม่หวั่นไหวหรือกังวลต่อกรณีดังกล่าว และเชื่อว่าทุกวันนี้พ่อแม่พี่น้องทุกคนมีวุฒิภาวะแยกแยะข้อเท็จจริงได้ ตอนนี้กำลังใจยังดี ต้องการทำงานอย่างสร้างสรรค์และไม่ตอบโต้อะไร หากสรรพากรเข้ามาตรวจสอบ ก็ยินดีให้ตรวจสอบเช่นกัน
เมื่อถามว่า สังคมตั้งคำถามว่า เงินเดือน 15,000 บาท นายพงศธรใช้ชีวิตอย่างไร นายพงศธร ระบุว่า ก่อนมาทำงานการเมืองมีรายได้ที่ดีกว่านี้ แต่พอมาทำงานการเมืองก็ใช้ชีวิตสมถะ แต่มีแรงบันดาลใจในการทำงานจากเหตุการณ์ที่ชาวบ้าน เขาชะเมาถูกยิงเสียชีวิต จึงยินดีที่มีรายได้ลดลง แต่ช่วยเหลือชีวิตสังคมและประชาชนได้ เชื่อว่าพี่น้องชาวแกลง เขาชะเมา แข็งแรงพอที่จะแยกแยะข้อเท็จจริง และทุกคนให้กำลังใจต่อเนื่อง เลยคิดว่าคงจะไม่กระทบมากนักกับการเลือกตั้งซ่อมและการหาเสียงในโค้งสุดท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี