2 ก.ย. 2566 ศ.ดร.ณัฐวุฒิ เผ่าทวี อาจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ ประจำมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยาง ประเทศสิงคโปร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Nattavudh Powdthavee - ณัฐวุฒิ เผ่าทวี” ระบุว่า เคยสงสัยไหมครับว่าทำไมนักการเมืองถึงรวย
ในปี 2004 ได้มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งของสี่นักวิจัยทางได้ไฟแนนซ์ที่ได้ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ Journal of Financial and Quantitative Analysis ซึ่งในงานวิจัยชิ้นนี้ได้นำข้อมูลการลงทุนหุ้นธรรมดา (common stock investment) ของ U.S. Senators หรือวุฒิสมาชิกในสหรัฐอเมริกาในปี 1993-1998 มาวิเคราะห์ดู
นักวิจัยทั้งสี่คนพบว่าการซื้อหุ้นของวุฒิสมาชิกในสหรัฐอเมริกาชนะตลาดประมาณ 85 จุดในแต่ละเดือน ส่วนการขายหุ้นนั้นมักจะขายก่อนที่ตลาดจะอยู่ในช่วงขาลงประมาณ 12 จุดในแต่ละเดือน
โดยเฉลี่ยแล้วงานวิจัยนี้พบว่า return to investment ในตลาดหุ้นของวุฒิสมาชิกในสหรัฐอเมริกาในปี 1990-1999 อยู่ที่ประมาณ 25% ต่อปี ซึ่งชนะตลาด (beat the market) ประมาณ 12% ซึ่งดีกว่า Warren Buffett ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วชนะตลาดแค่ 2.5% เท่านั้น (ส่วนคนธรรมดาทั่วไปแพ้ตลาดประมาณ 1.5%)
มันเป็นเพราะว่า วุฒิสมาชิกในสหรัฐอเมริกาเล่นหุ้นเก่งกันทุกคนเหรอ หรือมันเป็นเพราะว่าวุฒิสมาชิกในสหรัฐอเมริกามีข้อมูลว่าตลาดจะ move up หรือ down จากการออกนโยบายรัฐต่างๆนานาก่อนคนธรรมดาทั่วไป
จากผลการสรุปของเปเปอร์ มันดูน่าจะเป็นอย่างที่สองมากกว่า
ยกตัวอย่าง Majorie Taylor Greene สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ปี 2022 เธอลงทุนซื้อหุ้นของ Lockheed Martin Corp และ Chevron Corp พอวันถัดไปเธอได้ทำการทวีตว่า "สงครามเป็นอะไรที่สร้างกำไรให้กับคนเป็นจำนวนมาก..." และเพียงแค่หนึ่งวันหลังจากนั้น รัสเซียก็เริ่มบุกโจมตียูเครน ซึ่งทำให้ราคาหุ้นของ a defense contractor (Lockheed Martin) และน้ำมัน (Chevron) พุ่งกระฉูด มันเป็นเพราะเหตุบังเอิญ? หรือมันเป็นเพราะว่าเธอรู้ประมาณหนึ่งหรือสองวันก่อนว่าจะมีสงครามเกิดขึ้นในยูเครน? ไม่มีใครสามารถพิสูจน์ได้ ยกเว้นแค่คนในรัฐบาลเท่านั้น
(สำหรับคนที่อยากได้ตัวอย่างที่มากกว่านี้ ผมขอแนะนำให้คุณไปดูวีดีโอของ Johnny Harris ที่มีชื่อว่า "Why are politicians so DAMN rich?")
และถึงแม้ว่านักการเมืองจะไม่ได้เป็นคนที่ลงทุนด้วยตัวเอง แต่ถ้าเขาเล่าเรื่องในสิ่งที่เขาทราบก่อนคนอื่นจากการเป็นนักการเมืองให้สามีหรือภรรยาฟัง โอกาสที่สามีหรือภรรยาของเขาจะนำข้อมูลนั้นไปใช้ในตลาดหุ้นก็จะมากกว่าศูนย์แน่ๆ
คำถามที่สำคัญก็คือเราสามารถแก้ปัญหานี้ได้ไหม และเคยมีใครนำ return to investment ของนักการเมืองและวุฒิสมาชิกในไทยมาวิเคราะห์บ้างไหม แล้วถ้าเคย เราพบ abnormal returns ของนักการเมืองและวุฒิสมาชิกในไทยด้วยหรือเปล่า
อ่านเพิ่มเติม
Ziobrowski, A. J., Cheng, P., Boyd, J. W., & Ziobrowski, B. J. (2004). Abnormal returns from the common stock investments of the US Senate. Journal of financial and quantitative analysis, 39(4), 661-676.
ขอบคุณเรื่องจาก
https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid0CBNjBTn4Bv6DtGzrP7WGpQTydYeDbXQphS1JYfwBMyXKWRYX34jKmSj5GgeRrpoNl&id=111314085103386&eav=AfaPMItZJJYKQQt4n1UxaaA20CfANYaWKef2YkbKpWyO_43S1sE6ti6tnOb7MeE3w18&m_entstream_source=timeline&paipv=0
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี