‘ก้าวไกล’แซะ‘เศรษฐา-เพื่อไทย’

นายกฯส้มหล่น

สภาเดือดซัดกันนัว/จี้ถอนคำพูด

‘เศรษฐา’เบรกขอให้ใจเย็น

‘ชวน’สับต้องซื่อสัตย์สุจริต

แย้มประชุมครม.นัดแรก

ลดค่าไฟฟ้า-ดีเซล-พักหนี้

นายกฯ“เศรษฐา”แย้มข่าวดี หลังถก ครม.นัดแรก13 กันยายนนี้ ให้จับตาลดค่าไฟ-ดีเซล-ฟรีวีซ่า เตรียมกฎเหล็ก“เงินดิจิทัล”เขียนข้อบังคับสกัดพวกหักหัวคิว-ใช้จ่ายทิพย์ขณะที่รัฐสภาถกแถลงนโยบาย รบ.วันที่ 2 นายกฯยันลุยแก้ปัญหายาเสพติดคอนเฟิร์มชงด่วน “พักหนี้อุ้มเกษตรกร”ทันที ทั้งต้นทั้งดอก รับปากช่วยรายได้ “ขรก.-ครู”ยึดเหมาะสมกับวินัยเงินคลัง สภาเดือด! ซัดกันนัว“ก้าวไกล” ประเดิมยั่วป่วน‘เศรษฐา’อย่าให้เป็นนายกฯส้มหล่น อย่างที่ใครเขาว่ากัน’ทำสส.พท.ลุกประท้วงวุ่นหลังด้อยค่ารุมจี้ให้ถอนคำพูด-ขอแบบรุ่นพี่ขอรุ่นน้องถูก’วิโรจน’สวนแรง‘ไม่มีพี่สันดานแบบนี้’ร้อนถึง‘พรเพชร’ห้ามศึก นายกฯขอให้ใจเย็นๆ

เมื่อวันที่ 12กันยายน 2566 ที่รัฐสภา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลังให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการอภิปรายของสมาชิกรัฐสภาในการแถลงนโยบายของรัฐบาลว่า ภาพรวมในการอภิปราย คิดว่าเป็นบรรยากาศที่ดี สร้างสรรค์และมีการแบ่งสรรเวลาได้ดี มีข้อเสนอบางข้อที่เรานำกลับไปพิจารณาได้ อันนี้เป็นการแถลงนโยบายที่มีข้อคิดบางข้อที่เราจะนำกลับไปพิจารณา

นายกฯลั่นลุยหลังแถลงนโยบายทันที

ผู้สื่อข่าวถามว่าคิดว่ารัฐบาลชี้แจงได้เคลียร์หรือไม่ ซึ่งสมาชิกบางส่วนอาจจะตั้งข้อสังเกตในเรื่องของนโยบาย นายกฯ กล่าวว่า ก็พยายามให้เคลียร์ที่สุด เรายังไม่ได้เข้าบริหารเลย ซึ่งต้องไปดูรายละเอียดของแต่ละกระทรวงอีกทีในเรื่องงบประมาณ วิธีการทำงาน กรอบเวลาและข้อบทกฎหมายซึ่งต้องเห็นใจนิดนึงเพราะเรายังไม่ได้เข้าไปบริหารเลย จริงแล้วการสั่งการสามารถสั่งการได้หลังแถลงนโยบาย ซึ่งนโยบายคือนโยบายหลักโดยรวม นโยบายทางด้านคมนาคม ด้านการยกระดับความเป็นอยู่พี่น้องประชาชน สิทธิเสรีภาพเราพูดครอบคลุม ส่วนแผนการปฏิบัติการจะต้องไปดูอีกทีหลังจากที่ได้เข้าไปบริหารจัดการแล้ว

ครม.นัดแรกลดค่าไฟ-ดีเซล-ฟรีวีซ่า

เมื่อถามว่าการประชุมครม.นัดแรกวันที่13 ก.ย.จะมีประเด็นอะไรสำคัญที่เกี่ยวกับนโยบายรัฐบาลที่จะพิจารณาเลยหรือไม่ นายกฯยอมรับว่าจะมีเยอะมากในการประชุมครม.วันที่13ก.ย.นี้ตอนบ่ายขอให้สื่อมวลชนเตรียมทำข่าวไว้ได้เกี่ยวกับนโยบายหลักไม่ว่าจะเป็นเรื่องการลดค่าไฟ ค่าน้ำมัน วีซ่าฟรีและอีกหลายๆเรื่องซึ่งมีเรื่องเยอะมากจะเป็นการตอบโจทย์สิ่งที่แถลงนโยบายไปบ้างในเบื้องต้นหลายๆพรรคการเมืองที่มาร่วมในรัฐบาลของประชาชนนี้ที่เสนอนโยบายให้กับพี่น้องประชาชนก็จะพยายามนำมาทำให้ได้เร็วที่สุด

“เดี๋ยวคอยฟังดีกว่า ไม่อยากพูดไปก่อน ใจเย็นนิดนึง วันที่ 13ก.ย.ตอนบ่ายทราบแน่นอน”นายกฯย้ำ

กฎเหล็ก‘เงินดิจิทัล’สกัดหักหัวคิว

ส่วนที่มาแหล่งเงินทุนโดยเฉพาะโครงการดิจิทัลวอลเล็ต10,000บาทนั้นนายกฯกล่าวว่าหลังจากที่เข้าไปกระทรวงแล้วคงจะมีการนำรายละเอียดมาเสนอกันอีกที

เมื่อถามว่าการใช้จ่ายบล็อกเชนเรื่องเงินดิจิทัล จะสามารถแก้ปัญหาเรื่องการทุจริตการใช้จ่ายทิพย์ได้ใช่หรือไม่ อย่างกรณี 10,000 บาท แต่ร้านค้าให้เงินสด 9,000 บาทเหมือนเป็นการหักหัวคิว นายเศรษฐา กล่าวว่า เข้าใจถึงปัญหาก็ต้องไปเขียนเป็นข้อบังคับไป

รัฐสภาถกแถลงนโยบายวันที่สอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อให้คณะรัฐมนตรี(ครม.) แถลงนโยบายต่อรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญมาตรา162ต่อเป็นวันที่สองได้เริ่มขึ้นเวลา 09.00น.โดยมีนายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม

ทั้งนี้ น.ส.ชนก จันทาทอง สส.หนองคาย พรรคเพื่อไทยได้อภิปรายประเด็นปัญหายาเสพติดว่าสถานการณ์ยาเสพติดทั่วโลก ในปี2563มีประชากรโลก 284 ล้านคน ที่ใช้สารเสพติด ส่วนสถานการณ์ระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียตะวันออก ในปี2654จับกุมยาบ้าได้1,000 ล้านเม็ด ยาไอซ์ 79 ตัน ขณะที่ประเทศไทย ปี2564 จับกุมยาบ้าได้ 592 ล้านเม็ด ยาไอซ์ 2.2 หมื่นล้านกิโลกรัม สูงสุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียตะวันออกวันนี้ยาเสพติดเข้าไปถึงระดับครอบครัว ระดับชุมชน เนื่องจากประเทศไทยล้มเหลวในการปราบปรามจับกุม และบำบัดยาเสพติด

ทั้งนี้ จากคำแถลงนโยบายรัฐบาลต่อการแก้ปัญหาเรื่องนี้จะใช้แนวทางป้องกัน ปราบปราม และบำบัด ซึ่งตนขอให้ดำเนินการอย่างกระชับ ยึดหลักการผู้เสพเป็นผู้ป่วยต้องได้รับการบำบัดรักษาจนสามารถออกมาประกอบอาชีพได้ ที่ผ่านมามีอดีตผู้นำประเทศเคยปราบปรามกระชับเด็ดขาดใช้เวลาเพียง 3 เดือนเท่านั้นก็แก้ปัญหาได้ วันนี้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง จึงเป็นความหวังขอให้แก้ปัญหาเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

สว.แนะเร่งแก้ระยะสั้นทำได้ทันที

ด้าน นายวีระศักดิ์ ภูครองหิน สว.อภิปรายเสนอแนะให้รัฐบาลปรับกรอบเวลาแก้ปัญหายาเสพติดจากที่กำหนดไว้ในกรอบระยะกลางและระยะยาว เป็นกรอบระยะสั้น เพื่อให้ทำได้ทันที โดยเฉพาะการกำหนดนิยาม ผู้เสพคือ ผู้ป่วย ต้องทำความเข้าใจที่ชัดเจน ระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้องรวมถึงระดับนโยบาย ปัจจุบันมีคณะกรรมการดำเนินการทั้งส่วนกลาง และพื้นที่ ทั้งนี้ องค์กรที่สำคัญและมีบทบาทมากคือคณะกรรมการหมู่บ้านที่จะช่วยคัดกรองผู้เสพว่าเป็นอย่างไร นอกจากนี้ผู้ที่เสพยา และได้รับการบำบัดแล้วจะทำอย่างไรเพื่อให้ใช้ชีวิตหรือคุณภาพชีวิตที่ดี อยู่ร่วมสังคมได้ไม่เป็นปัญหาสังคม

นายกฯยันให้ลุยสางแก้ยาเสพติด

จากนั้นเวลา09.35น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรมว.คลัง ชี้แจงว่าเรื่องปัญหายาเสพติด ถือว่าสำคัญมาก ตั้งแต่ลงพื้นที่ไปตามจังหวัดต่างๆมีการเรียกร้องจากประชาชนอย่างมากไม่ด้อยไปกว่าปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง เรื่องผู้เสพเป็นผู้ป่วยเราดำเนินการแน่นอน เมื่อหายแล้วจะทำอย่างไรที่จะส่งเขากลับคืนอ้อมกอดของครอบครัวสามารถออกไปประกอบอาชีพได้โดยไม่กลับมาเสพอีกส่วนการดำเนินการกับผู้กระทำผิดเรื่องการยึดทรัพย์ยังเป็นปัญหาอยู่ เราตระหนักถึงเรื่องการยึดทรัพย์โดยเร็ว การทำลายล้างยาเสพติดที่ยึดจับได้ แต่กระบวนการเผาหรือทำลายล่าช้า เราก็ตระหนักถึงปัญหานี้ดีจึงอาจจะมีแผนระยะสั้นเพื่อเร่งรัด ยืนยันว่าเราให้ความสำคัญสูงสุดให้สถาบันครอบครัวกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง เรื่องยาเสพติดมีความสำคัญ แต่ต้องใช้เวลาพอสมควร ในอาทิตย์นี้จะประชุมคณะกรรมการทั้งหมด และจะวางแผนระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว และจะแถลงต่อประชาชนอีกครั้ง

สส.ก้าวไกลใส่แจ็คเก๊ตไรเดอร์ในสภา

เวลา10.20น.ระหว่าง ที่นายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภาทำหน้าที่ประธาน นายศิริโรจน์ ธนิกกุล สส.สมุทรสาคร พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นอภิปรายในนโยบายแรงงานโดยไม่เชื่อว่าจะสามารถแก้ปัญหาให้กับผู้ใช้แรงงานเช่นกลุ่มไรเดอร์ กลุ่มชาวประมงรวมถึงการนำเข้าแรงงานต่างด้าวได้จริงระหว่างอภิปรายในประเด็นแรงงานกลุ่มไรเดอร์ นายศิริโรจน์ ได้นำเสื้อแจ็คเก็ตไรเดอร์สีเขียวสวมทับสูทเพื่อประกอบการอภิปราย

เหน็บพาดพิง‘ไม่ใช่นายกฯส้มหล่น’

ช่วงท้ายพาดพิงไปยังนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯโดยหวังว่า“สิ่งที่ถามไปยังรัฐสภาไปถึงนายกฯจะมีคำตอบชัดเจนเพื่อคลายความกังวลของบรรดาผู้ใช้แรงงาน นโยบายที่ใช้หาเสียงจะไม่ใช่เพื่อโฆษณาเพื่อให้ได้คะแนนเสียงแต่ต้องมุ่งมั่นให้คนไทยอยู่ดีกินดี มีเกียรติมีศักดิ์ศรี ให้สมกับการเป็นนายกฯของประชาชน ไม่ใช่นายกฯส้มหล่น เหมือนที่ใครเขาว่ากัน”

สภาเดือด!รทสช.-พท.ประท้วงวุ่น

สิ้นเสียงทำให้นายวิทยา แก้วภราดัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ลุกขึ้นประท้วงประธานว่าขอให้กำกับการประชุมให้เป็นไปตามข้อบังคับ เพราะรู้สึกว่า จะไปกันมาก บางเรื่อง ไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของประธานที่ประชุม รวมถึงการประพฤติตัวในสภาฯจะไปกันใหญ่ ที่นี่ไม่ใช่โรงแสดง ตนไม่อยากขัดผู้อภิปราย ที่เอาโน่นนี่มาสวมใส่กันทุกอย่าง ที่เอาเข้ามาในห้องประชุม ต้องได้รับการอนุญาตจากประธาน ที่สำคัญสภาฯปัจจุบันเปลี่ยนไปมาก ขอให้ประธานเคร่งครัดในการใช้ข้อบังคับการประชุม เพื่อสร้างกฎระเบียบวินัยให้ผู้แทนฯอย่าผ่อนปรนจนสภาฯไร้ระเบียบวินัยโดยเฉพาะนักอ่านเก่งๆในสภาฯมากมาย ที่นำเอกสารขึ้นมาวางอ่านแล้วแอ็คชั่นมันผิดข้อบังคับฯยังทำให้เป็นตัวอย่างในการสร้างนิสัยไร้ระเบียบวินัยออกไปยังประชาชน เยาวชนภายนอกด้วย

พท.จี้ถอนคำพูดนายกฯส้มหล่น

ขณะที่น.ส.สรัสนันท์ อรรณนพพร สส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงนายศิริโรจน์ขอให้ถอนคำพูดเนื่องจากใส่ร้ายเสียดสีด้วยข้อความ”รัฐบาลส้มหล่น ซึ่งไม่เป็นความจริง พรรคก้าวไกลยื่นไม้มาให้เรา เราสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ตามกฎหมาย และขอให้ไปบอกกำชับสมาชิกพรรคท่านคำว่ารัฐบาลส้มหล่นพูดหลายครั้ง พรรคท่านไม่เคารพกฎหมายกับรัฐบาลที่ได้รับโปรดเกล้าฯมา

แต่นายพรเพชรพยายามที่จะให้นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลลุกขึ้นชี้แจง แต่ น.ส.สรัสนันท์ ลุกขึ้นสวนว่าขอให้ประธานวินิจฉัยให้ผู้อภิปรายถอนคำพูดก่อนแต่นายพรเพชรยังพยายามจะให้นายวิโรจน์อภิปรายจึงเริ่มเกิดการโต้เถียงที่วุ่นวายขึ้น

คนตึง‘วิโรจน์’กระทุ้งตอกย้ำอีก

นายพรเพชรชี้แจงว่าจะวินิจฉัยให้ทั้งหมด พร้อมให้นายวิโรจน์ อภิปราย โดยนายวิโรจน์ ใช้สิทธิ์ประท้วงนายวิทยาว่าการเป็นไรเดอร์มันผิดตรงไหน การที่สส.จะสะท้อนความทุกข์ร้อนของไรเดอร์มันมีข้อจำกัดว่าห้ามใส่เสื้อด้วยหรือ ตอนหาเสียงก็พูดขอคะแนนเสียงไรเดอร์ทุกคน

ขณะเดียวกันยังประท้วงน.ส.สรัสนันท์ว่านายกฯก็นั่งอยู่ตรงนี้ สามารถใช้สิทธิ์พาดพิงได้ แล้วเกี่ยวอะไร และนายศิริโรจน์พูดว่านายกฯส้มหล่นคือนายเศรษฐา นายกฯส้มหล่น ไม่ใช่รัฐบาลส้มหล่น พร้อมย้ำคำว่านายกฯเศรษฐาเป็นนายกฯส้มหล่น อยู่หลายครั้งเพื่อเป็นการตอกย้ำในประเด็นที่น.ส.สรัสนันท์ ทักท้วงให้ถอนคำพูด

อย่างไรก็ดีนายพรเพชรชี้แจงโดยยอมรับความผิดพลาดของตนเอง เพราะจำที่สส.อภิปรายไม่ได้ทั้งหมด นอกจาก ทำหน้าที่ประธานที่ประชุมแล้วต้องเซ็นแฟ้มเอกสารด้วย ส่วนการนำเครื่องแต่งกายของไรด์เดอร์มาสวมใส่นั้น ตอนแรกจะห้ามแต่เห็นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ต่อไปตนจะพิจารณาให้เคร่งครัด ส่วนที่มีผู้อภิปรายนำไอแพด ขึ้นมาอ่าน ตนมองว่าขณะนี้โลกเปลี่ยนไปแล้ว แต่ก็อย่าให้ถึงก้มหน้าก้มตาอ่าน

‘วิโรจน์’หลุด‘สันดาน’กลางสภา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการประท้วงตอบโต้กันของสส.ทั้ง3พรรค ยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง เพราะนายศิริโรจน์ ยังไม่ยอมถอนคำพูด ทำให้นายพัฒนา สัพโส สส.สกลนคร พรรคเพื่อไทยลุกขึ้นประท้วง นายวิโรจน์ว่า“ผมได้ยินข่าวว่าจะอภิปรายสร้างสรรค์ ผมให้เกียรติทางน้องๆประเด็นนี้อยากให้ถอนและจบ เพื่อเดินต่อ”

ทำให้ นายวิโรจน์ ลุกสวนกลับทันทีว่า“เรียกผมว่าน้องๆผมไม่มีพี่ชายสันดานแบบเขา” นายพรเพชรต้องยกมือเพื่อห้ามศึก พร้อมปิดไมโครโฟนทั้ง 2 ฝั่ง ก่อนวินิจฉัยให้สส.พรรคก้าวไกลทั้งนายวิโรจน์และนายศิริโรจน์ ถอนคำพูดที่ไม่เหมาะสม ตามที่ถูกประท้วง โดยนายศิริโรจน์ ยอมถอน พร้อมกล่าวว่านายกฯส้มทั้งแผ่นดิน จากนั้นให้การอภิปรายนโยบายรัฐบาลดำเนินต่อไปซึ่งการประท้วงดังกล่าวกินเวลาประชุมไปประมาณ 15นาที

นายกฯลั่นขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเร็วที่สุด

ต่อมานายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯชี้แจงถึงปัญหาแรงงานในภาพรวมว่า“นั่งฟังอยู่ขอให้ใจเย็นๆกันนิดหนึ่ง ยังเช้าอยู่เลยวันนี้ต้องอยู่กันดึกยิ้มแย้มบ้างท่านวิโรจน์สมาชิกบ้างท่านยังนั่งขำขำเลย“

นายกฯชี้แจงนโยบายเกี่ยวกับแรงงานว่าประเทศเราโชคดีเป็นที่ต้องการของแรงงานมากอัดตรางานว่างงานต่ำกว่า1% ดังนั้นการพึ่งแรงงานต่างชาติเป็นเรื่องจำเป็นดูแลเรื่องสิทธิมนุษยชน ความปลอดภัย ศักดิ์ศรี ความมั่นคง รัฐบาลเราตระหนักเรื่องวันสต็อปเซอวิสจะพยายามให้ดีขึ้น โดยคำนึงหนึ่งผู้ประกอบการและแรงงานต่างด้าวด้วย โดยหลังแถลงนโยบายเสร็จ ตนได้ให้แนวทางรมว.แรงงาน ส่วนเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ เป็นเรื่องสำคัญ เรื่องนี้เราจะเจรจากันทั้ง 3 ฝ่าย ระหว่างแรงงาน ผู้ว่าจ้างและรัฐบาล เพื่อปรับค่าแรงขั้นต่ำให้เหมาะสมโดยมีเป้าหมายที่ 400บาท โดยเร็วที่สุด

ยันช่วย‘ไรเดอร์-วินจยย.-แท็กซี่’ทุกมิติ

เวลา 11.20 น.นายกฯได้ชี้แจงว่าตนไม่ลืมแน่นอนว่ารัฐบาลนี้มาจากประชาชน ไม่หลงลืมถึงความยากแค้นของประชาชน ขนาดยังไม่ได้รับอำนาจเต็มที่ ตนก็ลงพื้นที่ไปฟังความคิดเห็นและดูแลพี่น้องประชาชน มีความตั้งใจอย่างจริงจัง ขอกราบขอบคุณคำเตือนให้มามีการพูดถึงกลุ่มผู้ประกอบการไรเดอร์ ขอชี้แจงว่ารัฐบาลเรามอง Gig Economy หรือระบบเศรษฐกิจแบบตลาดแรงงานเสรีและผู้ประกอบอาชีพอิสระทั้งวินมอเตอร์ไซค์ แท็กซี่และผู้ให้บริการขนส่งต่างๆ ตนได้ฟังปัญหาต่างๆจากผู้ประกอบการทั้งช่วงก่อนและหลังเลือกตั้งทั้งค่ารอบไม่เป็นธรรม ค่าใช้จ่ายพื้นที่ฐานชาร์ตกับผู้โดยสาร บังคับรับงานพ่วง แบกรับต้นทุนความเสี่ยง กฎหมายแรงไม่คุ้มครองและกฎหมายล่าสมัยในหลายมิติ

มอบรง.คุยเอกชนยกระดับสวัสดิการ

“ผมได้รับแนวทางกระทรวงแรงงานหารือกับภาคเอกชนเพื่อยกระดับสวัสดิการและค่าแรงให้เป็นธรรมมากขึ้นแข่งขันกับเทคโนโลยีอย่างรุนแรง รวมทั้งจัดระเบียบค่าโดยสาร มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ไรเดอร์ และแท็กซี่ ให้มีความยุติธรรมและคำนึงถึงความปลอดภัย นอกจากนี้ยังให้กระทรวงคมนาคม ศึกษาการสร้างแอพพลิเคชั่นเรียกรถของรัฐบาล เพื่อช่วยเหลือผู้ให้บริการเหล่านี้ครบวงจรครอบคลุมและทั่วถึงด้วย”นายเศรษฐากล่าว

ชงด่วน‘พักหนี้อุ้มเกษตรกร’ทันที

เวลา13.12น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรมว.คลังลุกชี้แจงถึงนโยบายพักหนี้เกษตรกรในการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาว่าเรื่องการเกษตร เป็นเรื่องสำคัญ ในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ครั้งแรก จะมีเรื่องการพักหนี้เข้าสู่ที่ประชุมเป็นเรื่องเร่งด่วน จะทำให้ได้ในไตรมาสสี่ปีนี้โดยเป็นการพักหนี้ ทั้งต้นและดอก พร้อมแผนสร้างรายได้ การปรับเปลี่ยนโครงสร้างปลูกและผลิตตามที่ตลาดโลกต้องการและการพักหนี้ทั้งต้นทั้งดอกนี้ จะทำให้เกษตรกรมีแรงทำมาหากินสร้างรายได้อย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรีและไม่เสียวินัยการเงินการคลัง เช่นการใช้ปุ๋ยตามการวิเคราะห์ดิน ลดจำนวนปุ๋ยเคมีและเพิ่มผลผลิตเพื่อเพิ่มรายได้ ส่วนเรื่องการใช้ดาต้า เข้ามาสนับสนุนการเพาะปลูกนั้น เราจำเป็นต้องถ่ายทอดองค์ความรู้ให้เกษตรกรปรับใช้ให้มีประสิทธิภาพควบคู่ไปกับการให้ความรู้เกษตรกรทั่วไป

ช่วยดูรายได้’ขรก.-ครู’ให้เหมาะสม

ส่วนเรื่องรายได้ครูและข้าราชการนั้น ถือเป็นภาคส่วนสำคัญในการดูแลประชาชนซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญ และรับปากว่าจะไปดูแลเรื่องรายได้ให้เหมาะสมกับงบประมาณโดยรักษาไว้ซึ่งวินัยการเงินการคลัง

สำหรับประเด็นเรื่องหมูเถื่อนที่เข้ามานั้น ตนได้รับฟังปัญหานี้มาก่อนแล้ว เป็นปัญหาใหญ่ที่ลามไปทั่วประเทศ จะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือเพื่อหาแผนสั่งการต่อไป

ทำสวัสดิการถ้วนหน้าไม่ได้/งบไม่พอ

ด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลังชี้แจงว่าเรื่องสวัสดิการถ้วนหน้า เราต้องตื่นจากความฝันและอยู่กับความเป็นจริง เนื่องจากจีดีพีของไทยต่ำกว่าประเทศที่ทำสวัสดิการถ้วนหน้ามาก ขณะนี้ไทยอยู่ในสภาวะที่การจัดเก็บภาษียังไม่สามารถอยู่ในจุดที่เราจะทำสวัสดิการถ้วนหน้าได้จริงๆเราเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลกันมาช่วงหนึ่ง ทราบดีว่าข้อจำกัดคืออะไรอยากถามว่าหากท่านต้องการให้ทำสวัสดิการถ้วนหน้า ท่านคาดว่าจะเอางบประมาณมาจากไหนหรือท่านจะเอาเงินมาจากการขายทรัพย์สินของรัฐมาทำสวัสดิการถ้วนหน้าหรือจะขายกองทุน กู้แบงก์ แต่สำหรับรัฐบาลนี้เราตระหนักเรื่องวินัยการเงิน การคลังฉะนั้น เราคงจะทำแบบนั้นไม่ได้

“ด้วยภาระของรัฐบาลปัจจุบัน หากทำสวัสดิการถ้วนหน้า จะเกิดปัญหาขึ้นได้ในอนาคตอันใกล้ ขณะนี้ประเทศไทย ยังไม่มีงบประมาณมากเพียงพอ ที่จะรองรับการจัดสวัสดิการถ้วนหน้า สิ่งสำคัญที่ทุกท่านทราบคือ รัฐจะต้องจัดเก็บภาษีได้มากขึ้น ยืนยันว่า รัฐบาลมีความตั้งใจเดินหน้าสวัสดิการโดยรัฐให้กับประชาชนในระดับที่เหมาะสมและจะทำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆแน่นอน”รมช.คลัง กล่าว