“มท.1” เล็งเพิ่มคำจำกัดความ “ผู้มีอิทธิพล” จาก 16 ประเภท กำชับ“ท้องถิ่น-ฝ่ายปกครอง”บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นอย่าให้ปลาเน่าตัวเดียวทำให้เหม็นไปทั้งข้อง ด้าน “ชาดา ไทยเศรษฐ์”ยอมรับเคยเป็นผู้มีอิทธิพล เผยรัฐมีรายชื่อผู้มีอิทธิพลแล้ว ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าประตูคุก

เมื่อวันที่ 14 กันยายน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวถึงความคืบหน้าการปราบปรามผู้มีอิทธิพลทั่วประเทศว่า สำหรับคำจำกัดความของผู้มีอิทธิพล แต่เดิมมีอยู่16ประเภท เช่น ค้าของเถื่อน ค้าประเวณี ค้าน้ำมันเถื่อน ฮั้วประมูล ยาเสพติด เป็นต้น ก็ถือเป็นส่วนหนึ่ง แต่เราอาจจะต้องหาวิธีว่าจะต้องเพิ่มประเภทเข้าไปอีกหรือไม่ ส่วนจะมีการกำชับไปยังองค์ปกครองส่วนท้องถิ่นหรือไม่นั้น เราดำเนินการอยู่ตลอด ต้องใช้กฎหมายเข้มงวดเพื่อดูแลพฤติกรรมคนเหล่านี้ด้วย เราจะให้ปลาเน่าตัวเดียวเหม็นไปทั้งข้องไม่ได้ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายกอบจ. อบต. ที่ทำงานดี ทุ่มเทให้กับประชาชน ตั้งใจเสียสละเพื่อส่วนรวมก็มี ตนมั่นใจว่ามีมากกว่าคนที่พาลเยอะ ดังนั้นเราต้องเน้นจัดการที่คนพาล ขณะที่ฝ่ายปกครอง อะไรที่ผิดกฎหมายก็ต้องไปบังคับใช้อย่างเข้มงวด เจ้าหน้าที่บ้านเมืองต้องวางตัวให้ดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับพฤติการณ์ที่เข้าข่ายเป็นผู้มีอิทธิพลที่สำคัญ 16 ฐานความผิด ได้แก่(1) นายทุนปล่อยเงินกู้นอกระบบ(2) การฮั้วประมูลและขัดขวางการเสนอ/แข่งขันราคา ในการประมูลงานของทางราชการ(3) การเรียกรับผลประโยชน์จากคิวรถจักรยานยนต์ และรถยนต์รับจ้างผิดกฎหมาย(4) การเรียกรับผลประโยชน์จากโรงงาน ร้านค้า สถานบริการ และสถานประกอบการต่างๆ(5) การลักลอบขนสินค้าหนีภาษี น้ำมันเถื่อน น้ำมันปาล์มเถื่อน บุหรี่/สุราเถื่อน และรับเคลียร์การนำเข้าสินค้าผิดกฎหมาย(6) การลักลอบจัดให้มีบ่อนการพนัน โต๊ะพนันบอล หวยใต้ดิน จับยี่กี ตู้เกมส์ไฟฟ้า(7) การลักลอบค้าหญิงและเด็ก บังคับค้าประเวณี โสเภณีเด็ก และให้หมายความรวมถึง ผู้มีอิทธิพลที่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์

(8) การลักลอบนำคนเข้า-ออก และอยู่ในราชอาณาจักร โดยผิดกฎหมาย(9) การหลอกลวงประชาชนไปทำงานต่างประเทศ(10) การหลอกลวงต้มตุ๋นนักท่องเที่ยว(11) มือปืนรับจ้าง(12) การรับจ้างทวงหนี้ด้วยการข่มขู่หรือใช้กำลัง(13) การลักลอบค้าอาวุธสงคราม อาวุธปืนเถื่อน และให้หมายความรวมถึงผู้สะสมอาวุธปืนและวัตถุระเบิด(14) การบุกรุกที่ดินสาธารณะ และหรือทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(15) การเรียกรับผลประโยชน์จากการรับเคลียร์หรือคุ้มครองการกระทำผิดบนเส้นทางหลวงและ/หรือสาธารณะ(16) ผู้มีอิทธิพลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และให้หมายความรวมถึงผู้สะสมอาวุธที่มีพฤติการณ์คุ้มกันผู้ค้ายาเสพติด และทวงหนี้ที่เกิดจากการค้ายาเสพติด

วันเดียวกัน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ที่ได้รับมอบหมายให้เข้ามาดูแลปฏิบัติหน้าที่ล้างผู้มีอิทธิพลได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ’โหนกระแส’ ที่มี ‘หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย’ เป็นพิธีกรว่า ตนไม่กังวลใจที่ได้รับมอบหมายให้มาปฏิบัติหน้าที่ตรงนี้ ถ้าให้พูดตามประสาชาวบ้านที่เขาวิพากษ์วิจารณ์กันก็คือ ถูกฝาถูกตัว ตนยอมรับเคยโดนขึ้นบัญชีผู้มีอิทธิพล

“อยากบอกทุกคนว่า ผมผ่านการพิสูจน์มาแล้วว่า ผมไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย ผมถูกตรวจสอบมาตลอดจนถึงวันนี้ ผมได้รับการยอมรับจากพี่น้องประชาชน ให้มาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มาอยู่ร่วมในรัฐบาลในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งผมก็ได้รับนโยบายจากท่านนายกรัฐมนตรี จากท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้มาดำเนินการเรื่องนี้ ผมขอพูดตรงๆ ว่า ผมก็เคยเป็นผู้มีอิทธิพล ยอมรับว่าเคยเป็นผู้มีอิทธิพล รู้ไส้รู้พุงผู้มีอิทธิพลทั้งหลาย แต่สิ่งที่สำคัญคือ ไม่มีใครใหญ่กว่าประตูคุก”นายชา กล่าวและว่า เรื่องของอิทธิพล มันมีทั้งด้านดีและด้านไม่ดี ถ้ามีอิทธิพล แล้วไปทำงานเพื่อบ้านเมืองช่วยเหลือประชาชน อันนี้ยอมรับได้ แต่ถ้าอิทธิพลด้านร้ายในโลกปัจจุบัน อันนี้ยอมรับกันไม่ได้ โดยเฉพาะการที่จะมาท้าทายอำนาจรัฐ อันนี้ยอมรับไม่ได้ ตนมาทำงานตรงนี้ มาด้วยความตั้งมั่น ไม่ใช่ทำงานตามกระแส แต่จะทำงานสร้างระบบตรวจสอบ ไม่ยอมให้ใครมาท้าทายอำนาจรัฐอีกต่อไป กรณีที่รายชื่อผู้มีอิทธิพล ในระบบข้าราชการมีอยู่แล้ว แต่อย่างที่บอก มันมีทั้งล้มหายตายจากไปเยอะ ส่วนของกำนันนก ผมไม่ทราบ แต่คิดว่าไม่มี เพราะว่ากำนันนกเพิ่งมาเป็นกำนันไม่กี่ปี ผมจะอธิบายว่ามันเป็นตัวอย่างหนึ่งที่มองในหลักการ เราอย่าไปพูดถึงประเด็นผู้มีอิทธิพลเลย แต่ต่อไปนี้เราจะทำยังไง เฝ้าระวังยังไง ทำอย่างไรไม่ให้เกิดคนแบบนี้ขึ้นในสังคมไทยอีก อันนี้เป็นเรื่องสำคัญ ต้องเป็นการร่วมมือกันกับอำเภอ คือกระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งต้องมีข้อมูลอยู่แล้ว แล้วต้องมาดูข้อมูลกันใหม่

“ถ้าให้ผมพูด ผมขอบอกว่า ให้หยุดเลยนะ พอแล้วอย่ามีแบบนี้เกิดขึ้นอีก ถ้ามีอีกรับรองได้ว่าองค์กรของรัฐไม่ปล่อยคุณไว้ และเราจะไม่ให้แค่ไปติดคุก สังคม ครอบครัว เพื่อนฝูงของคุณเดือดร้อนแน่นอนองค์กรของรัฐต้องเข้าไปตรวจสอบทั้งหมด อย่างที่ตอนนี้กำลังทำกับกำนันนก” นายชาดา กล่าว