"หมอเจตน์"นำคณะศึกษาดูงานความก้าวหน้าการจัดระบบบริการ และนวัตกรรมด้านสุขภาพของโรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณ
เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2566 คณะกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา นำโดย นายแพย์ เจตน์ ศิรธรานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข พร้อมด้วยกรรมาธิการ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ นายแพทย์ ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ นายพิศาล มาณวพัฒน์ ทันตแพทย์ พิทักษ์ ไชยเจริญ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ บุญส่ง ไข่เกษ พลโท อำพน ชูประทุม ทันตแพทย์ สุนี จึงวิโรจน์ และ คณะที่ปรึกษาเดินทางศึกษาดูงานโรงพยาบาลศิริราช เพื่อรับฟังบรรยายสรุปและร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นความก้าวหน้า/ประสิทธิภาพในการจัดระบบบริการของโรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์ โดยมี ศาสตราจารย์ นายแพทย์อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ศาสตราจารย์คลินิก นายแพย์วิศิษฎีกา วามวาณิชย์ ผู้อํานวยการโรงพยาบาลศิริราช และศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์ชาญ ศรีรัตนสถาวร ผู้อํานวยการโรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์ ตลอดจนผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับและร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
ประเด็นสำคัญในการหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ได้แก่ ประเด็นความก้าวหน้า/ประสิทธิภาพในการจัดระบบบริการของโรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์ ซึ่งพบว่า ในส่วนของโรงพยาบาลศิริราช ก่อตั้งมาเป็นระยะเวลา 135 ปี เป็นโรงพยาบาลของแผ่นดินและเป็นโรงเรียนแพทย์แห่งแรก ให้การดูแลประชาชนทุกระดับ รวมทั้งเป็นองค์กรที่สร้างองค์ความรู้ในการศึกษาวิจัย ทั้งนี้ รายได้ของโรงพยาบาลได้รับการสนับสนุนจากการบริจาค และการสนับสนุนจากโรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์เป็นหลัก ระยะเวลาที่ผ่านมาโรงพยาบาลมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทั้งในด้านการจัดและให้บริการ รวมทั้งการพัฒนาด้านการศึกษาวิจัย และการพัฒนานวัตกรรมการแพทย์ในด้านต่าง ๆ ตลอดจนมุ่งเน้นกระจายการให้บริการสาธารณสุขและการรักษาไปยังพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อการเข้าถึงบริการสุขภาพของประชาชนอย่างครอบคลุม ซึ่งมีการจัดทำโครงการสำคัญ เช่น ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ จัดตั้งที่จังหวัดสมุทรสาคร โครงการอาคารรักษาพยาบาลและสถานีศิริราช ศูนย์สุขภาพเชิงป้องกันและบูรณาการสมดุลชีวิต ณ ICONSIAM นอกจากนี้ ในด้านการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม มีการพัฒนาการใช้ AI ในการคำนวณแคลอรี่ เพื่อป้องกันโรค NCDs การจัดทำระบบ SMART EMS และการจัดทำ Siriraj Stroke Center เป็นต้น
สำหรับการดำเนินการของโรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์ ก่อตั้งขึ้นเป็นเวลา 11 ปี โดยเป็นโรงพยาบาลของรัฐที่มีการบริหารในรูปแบบพิเศษ ไม่ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากรัฐ สามารถสร้างรายได้ด้วยตนเอง โดยรายได้ครึ่งหนึ่งนำมาใช้เพื่อสนับสนุนโรงพยาบาลศิริราช และอีกครึ่งหนึ่งสำหรับการพัฒนาและดูแลตนเอง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ที่เน้นด้านการให้บริการทางการแพทย์ มีการจัดทำระบบริการเทียบเท่าโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำ สามารถรองรับผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ และด้วยระบบบริหารจัดการเช่นนี้ ทำให้สามารถธำรงรักษาบุคลากรไว้ในระบบได้ ไม่ไหลไปสู่ภาคเอกชนเช่นที่ผ่านมา ดังนั้น ขณะนี้จึงเป็นต้นแบบของการจัดทำระบบบริการที่ไม่ใช้งบประมาณจากภาครัฐแต่สามารถให้การสนับสนุนงบประมาณแก่โรงพยาบาลรัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการมีความชื่นชมในการพัฒนาศักยภาพด้านการรักษาพยาบาล การศึกษาวิจัย และนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องของโรงพยาบาลศิริราชที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นไปเพื่อให้ประชาชนได้รับการรักษาพยาบาลอย่างมีประสิทธิภาพ โดยทุกฝ่ายเห็นพ้องกันว่า การจะดำเนินการเพื่อให้ระบบสาธารณสุขของประเทศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในด้านการจัดและให้บริการ รวมทั้งการพัฒนาด้านนวัตกรรม ควรทำให้เกิดเอกภาพทางนโยบายด้านสาธารณสุข เนื่องจากการพัฒนาสาธารณสุขของแต่ละหน่วยงานมีความแตกต่างกันตามศักยภาพของตน ดังนั้น โรงเรียนแพทย์จะมีส่วนสำคัญอย่างมากในการสนับสนุนให้เกิดโครงสร้างดังกล่าวขึ้น เพื่อให้ระบบสาธารณสุขของประเทศในแต่ละส่วนมีการพัฒนาไปพร้อมกันอย่างเป็นระบบ
จากนั้น คณะกรรมาธิการได้ศึกษาดูงาน ณ Siriraj Open Innovation Lab อาคารศรีสวรินทิรา ชั้น 2 เพื่อศึกษาการพัฒนาและความก้าวหน้าของนวัตกรรมที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี