"พิธา"ยันลาออกหัวหน้าพรรค ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวเปิดทางมีผู้นำฝ่ายค้าน เป็นหัวเรือหลักเดินเกมในสภา พร้อมเขย่าทัั้งในและทั่วโลก ยังอุ๊บชื่อใครนั่งหัวหน้าแทน 4-5 คน อยู่ที่ว่าจะเอาบู๊หรือบุ๋น ไม่ปฏิเสธก้าวไกล ยึดเก้าอี้ผู้นำฝ่ายค้าน-รองปธ.สภาฯ โยน คกก.พรรคชุด ขับ"ปดิพัทธ์"พ้นพรรค
เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2566 ที่สโมสรราชพฤกษ์ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ รักษาการหัวหน้าพรรค กล่าวถึงการลาออกจากหัวหน้าพรรคก้าวไกล ว่า การเห็นส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว เป็นสำนึกของนักการเมือง คือในเรื่องของส่วนรวม ในบริบทการเมืองปัจจุบัน ฝ่ายค้านต้องทำงานได้อย่าง มีประสิทธิภาพทั้ง มหภาคและจุลภาค ในทางมหภาคผู้นำฝ่ายค้านก็จำเป็นที่จะต้องเป็นเรือหลักในนำทิศทางการอภิปรายงบประมาณ อภิปรายแนะนำรัฐบาล อภิปรายไม่ไว้วางใจ หรือ แม้แต่เรื่องจุลภาคอย่างเรื่องการแต่งตั้งวิปฝ่ายค้าน ตามข้อบังคับก็เป็นหน้าที่ผู้นำฝ่ายค้านนี่เป็นเรื่องส่วนรวม
"ไม่ต้องห่วงตน ห่วงประชาชน ห่วงบ้านเมือง ห่วงประเทศดีกว่า ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัว ตนยังยืนยันคำเดิมผมไม่ยึดติดกับหัวโขน ยึดติดกับตำแหน่งและเชื่อว่าปัจจุบัน ผมสามารถทำงานได้แม้ไม่ได้มีตำแหน่งอะไรเลย" นายพิธา กล่าว
อย่างไรก็ตาม ตนยังเป็น ส.ส.ที่เข้าสภาไม่ได้ เป็น ส.ส.ที่ถูกหยุดปฏิบัติหน้าที่และเป็นสส.ที่ยังสามารถทำงานในฐานะสมาชิกพรรคก้าวไกล เพราะฉะนั้นจิตใจยังเกินร้อย และเดินหน้าทำงานในช่วงที่รอคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญอยู่ เผลอๆ อาจจะเจอตนมากกว่าเดิม เพราะจะเดินหน้าเขย่าการเมืองไทย และเขย่าปัญหาพี่น้องประชาชน ผ่านตะแกรงร่อนส่งต่อไปยัง ส.ส.พรรคก้าวไกล ที่ยังอยู่ในสภา ซึ่งตนมีกำหนดการเดินทางไปทั่วประเทศ ทั้งจังหวัดที่มี ส.ส.เขตและจังหวัดที่ได้คะแนนบัญชีรายชื่อเยอะ รวมถึงจะมีการเดินทางไปต่างประเทศ ที่จะไปบรรยายในมหาวิทยาลัยต่างๆ
ทั้งนี้ ตามกฎหมายตนยังเป็นรักษาการหัวหน้าพรรค จนถึงวันที่ 23 ก.ย.ที่จะมีการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ และเลือกหัวหน้าพรรคใหม่ และวันที่ 24 ก.ย.พรรคจะมีการจัดกิจกรรมที่ดินแดง และหลังจากที่พรรคก้าวไกลได้หัวหน้าพรรคใหม่ในวันที่ 24 ก.ย.ก็จะเป็นส่วนหนึ่งของฝ่ายค้านเชิงรุกตามที่เคยประกาศเอาไว้
ส่วนคนที่จะขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคแทนนั้น นายพิธา กล่าวว่า มี 2 ประเด็น ประเด็นแรกคือขึ้นอยู่กับการประชุมวิสามัญพรรค และอีกประเด็นคือขึ้นอยู่กับคนที่ถูกเสนอชื่อจะยอมเป็นหรือไม่ ส่วนตัวมองว่ามีคนที่เหมาะสมตั้ง 4 - 5 คน ที่พร้อมจะเป็นหัวหน้าพรรคแทนตนเองได้ ในช่วงเวลาที่รอคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ โดยยอมรับว่า นางสาวศิริกัญญา ตันสกุลเป็นหนึ่งในนั้น
เมื่อถามย้ำว่า เป็นไปได้เลยใช่หรือไม่ว่าจะเป็น นางสาวศิริกัญญา เพราะจะได้เป็นผู้นำฝ่ายค้านหญิงคนแรก นายพิธา กล่าวว่า เป็นความเห็นตนคนเดียว รอดูต่อไปมีเวลาอีก 7 - 8 วัน
"ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเอาบู๊หรือจะเอาบุ๋น ตนไม่ได้กังวลใจอะไร เพราะพรรคเราไม่ใช่พรรคที่มีเจ้าของ หรือสืบทอดอำนาจได้ มีข้อบังคับพรรคมีกฎหมายควบคุมอยู่" นายพิธา กล่าว
เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่เตรียมจะขับ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ออกจากพรรคก้าวไกล เพื่อรักษาตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ไว้ และได้ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านด้วย นายพิธา กล่าวว่า ต้องรอหลังการประชุมวิสามัญของพรรคเพราะเป็นหน้าที่ของกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ที่จะต้องหารือกับนายปดิพัทธ์ แล้วต้องฟังความคิดเห็นจากนายปดิพัทธ์ด้วย
เมื่อถามว่า ตามข้อกฎหมายสามารถเป็นไปได้ใช่หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า รัฐธรรมนูญเขียนไว้แบบนั้น เมื่อถามว่า ในอนาคตหากศาลรัฐธรรมนูญคืนสถานะ ส.ส.ให้แล้วจะกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคอีกหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า เป็นเรื่องของอนาคต และก็ไม่ใช่เรื่องของตนคนเดียว เป็นเรื่องของข้อบังคับพรรคและสมาชิกพรรค
ส่วนที่ลาออกจากหัวหน้าพรรคเพราะไม่มั่นใจ คำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ ในคดีถือหุ้นสื่อใช่หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า จะโยงแบบนั้นคงไม่เกี่ยวข้องกัน เรายังมั่นใจเกิน 100 ที่จะทำหน้าที่ในฐานะฝ่ายค้าน ส่วนเรื่องของคดีความก็ต้องรอกระบวนการที่ขับเคลื่อนไป ฝ่ายกฎหมายของเราก็ทำงานอย่างเต็มที่ และคิดว่าไม่ได้มีปัญหาอะไร ไม่ว่าจะดูคำวินิจฉัยภายในของ กกต.ก่อนที่จะหันไปดู Backdrop กกต.แล้วกล่าวพร้อมหัวเราะไปด้วยว่า "นี่ก็ตลกนะ เรามาแถลงอยู่หน้างานของ กกต." ตนคิดว่า กระบวนการของกกตที่ได้ทำมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ itv ทั้งวัตถุประสงค์ รายได้ และสัมปทาน ถ้าบริสุทธิ์ยุติธรรมตนก็เชื่อมั่นทั้งสองเรื่องทั้งเรื่องที่จะได้กลับมาเป็นสส. และเรื่องของการขับเคลื่อนพรรคภายใต้หัวหน้าพรรคคนใหม่
ส่วนที่นายพิธา มีชื่อติดหนึ่งในร้อยลำดับผู้ทรงอิทธิพลแห่งอนาคต ในนิตยสาร Time นั้น นายพิธา กล่าวว่า ดีใจที่ทั่วโลกที่ไม่ใช่แค่ในประเทศไทย มีความพยายามที่จะเขย่าการเมืองไทย และพร้อมที่จะขยับเขยื้อนให้ประเทศไทยมีส่วนสำคัญในบริบทอาเซียน และบริบทโลก และการถ่วงดุลอำนาจ มหาอำนาจเพื่อให้ประเทศไทยไปสู่อนาคตได้
เมื่อถามว่า การที่ลาออกจะไปเดินเกมนอกสภาเต็มตัวใช่หรือไม่นั้น นายพิธา กล่าวว่าไม่ได้เป็นการเดินเกม แต่ในเมื่อสถานการณ์เป็นแบบนี้ รัฐธรรมนูญที่เราต้องการจะเปลี่ยนเป็นแบบนี้ เราจึงต้อง เอาส่วนรวมมาก่อนส่วนตัว และตนคิดว่าตนสามารถทำงานได้โดยที่ไม่ต้องมีตำแหน่งทางการเมืองใดๆ และตอนนี้เวลาตกลงพื้นที่ก็มีคนฟัง นายพิธายังฝากถึงผู้ที่ติดตามว่า ต่อไปนี้เจอกันทั่วประเทศ เจอกันทั่วโลก และจนกว่าเราจะกลับมาเจอกันใหม่
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี