วัดใจเพื่อไทย!‘ก้าวไกล’ร่ายสารพัดเหตุผล ดัน‘พ.ร.บ.ฉุกเฉิน’แทน‘พ.ร.ก.’

วัดใจเพื่อไทย!‘ก้าวไกล’ร่ายสารพัดเหตุผล ดัน‘พ.ร.บ.ฉุกเฉิน’แทน‘พ.ร.ก.’

วันพฤหัสบดี ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2566, 14.47 น.

‘ก้าวไกล’ชงร่าง พ.ร.บ.ฉุกเฉิน กำหนดให้ต้องขออนุมติจาก‘ครม.-สภาฯ’ พร้อมทำแผนชี้แจงเหตุคลายวิกฤต เพื่อตรวจสอบถ่วงดุลและเอาผิดเจ้าหน้าที่ที่กระทำผิดได้ หวังส่งเสริมให้รัฐบาลใช้อำนาจเป็นที่ยอมรับ และสส.เพื่อไทยร่วมหนุนร่างกฎหมาย 

21 กันยายน 2566 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม   สส.บัญชีรายชื่อ พร้อม สส.พรรคก้าวไกล   แถลงข่าวยื่นร่าง พ.ร.บ.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน  พ.ศ...  เข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร  ว่า สืบเนื่องมาจากการตั้งกระทู้ถามสดต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี  หยิบยกปัญหาการประกาศใช้  พ.ร.ก.ฉุกเฉินในพื้นที่จังหวัดใช้แดนภาคใต้  มีมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังมีการประกาศใช้ในสถานการณ์ทางการเมืองหลายครั้ง และใช้ในช่วงสถานการณ์ โควิด-19 โดยใช้ในลักษณะการปราบปรามผู้ชุมนุมเห็นต่างทางการเมือง โดยการประกาศใช้ปราศจากการถ่วงดุลตรวจสอบของสภาผู้แทนราษฎร  ปัญหาทั้งหมดที่มีจึงเสนอร่างพ.ร.บ.บริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อให้มีกฎหมายทำให้สภาฯ สามารถตรวจสอบฝ่ายบริหาร


นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้  มีสาระสำคัญ ดังนี้ 1.การประกาศ พ.ร.บ.ฉุกเฉินฯ ยังคงอำนาจนายกรัฐมนตรีในการประกาศ  มีเงื่อนไขต้องขออนุมัติ ครม.ภายใน 3 วัน และต้องขออนุมัติจากสภาฯ ภายใน 7 วัน เพื่อให้ สส.ตรวจสอบ 2.ในการขออนุมัติจากสภาฯ รัฐบาลต้องทำแผนชี้แจงเพื่อให้เห็นว่าจะแก้วิกฤตสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างไร   แก้วิกฤตได้อย่างไร เพราะที่ผ่านมาสภาฯไม่เคยรับรู้  3.พ.ร.ก.ฉุกเฉินปัจจุบัน ศาลปกครองไม่มีอำนาจตรวจสอบ   และกฎหมายเสนอนั้นให้อำนาจประธานสภาฯ ผู้ตรวจการแผ่นดิน  กสม.สามารถร้องศาลปกครองว่า การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีเหตุให้ประกาศหรือไม่ และ 4. ในกฎหมายนี้หากเป็นการใช้อำนาจไม่ถูกต้อง  สามารถดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่ผู้นั้นได้  

นายรังสิมันต์ กล่าวย้ำว่า หลักการเสนอกฎหมายหลักการสากล เพื่อให้ประเทศไทยนำไปสู่การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ   ควบคู่กับการใช้อำนาจพิเศษ โดยหวังว่ากฎหมายฉบับนี้จะได้รับการสนับสนุนจากเพื่อน สส. โดยเฉพาะ สส.พรรคเพื่อไทย แม้ขณะนี้พรรคเพื่อไทย เป็นรัฐบาลแล้วจะไม่ทำให้จุดยืนเรื่องนี้เปลี่ยนไป จากที่เคยสนับสนุน 

นายรังสิมันต์ โรม  กล่าวว่า รัฐบาลยังมีอำนาจใช้กฎหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ อยู่ สามารถใช้ควบคู่กับร่างกฎหมายที่เสนอเข้าสู่สภาฯฉบับนี้ ให้อำนาจรัฐสภาตรวจสอบความจำเป็นในการประกาศ  ซึ่งกำหนดไว้ 30 วัน และสามารถต่ออายุได้     โดยประเทศต่างๆ  ก็เป็นเช่นนี้ กรอบเวลาทำให้มั่นใจมันต่อสถานการณ์ที่จะแก้วิกฤตได้ เชื่อว่ากฎหมายฉบับนี้จะส่งเสริมให้รัฐบาลใช้อำนาจเป็นที่ยอมรับ

ด้านนายรอมฎอน  ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ  พรรคก้าวไกล  กล่าวว่า   ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ถือเป็นกฎหมายฉบับสำคัญ ก็หวังว่าเพื่อนสส. โดยเฉพาะ สส.ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะมีฉันทามติร่วมกันในร่างกฎหมายฉบับนี้และคาดหวังว่ากฎหมายจะเปลี่ยนโฉมหน้าระบบราชการของประเทศ

เมื่อถามว่า เมื่อแก้ไขเป็นพ.ร.บ.ฉุกเฉิน จะตรงตามเจตนารมณ์ในการแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า หรือบังคับใช้ไปตลอด นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ปกติเรามีพ.ร.ก.ฉุกเฉินอยู่แล้ว ซึ่งคล้ายกับกฎหมายฉบับนี้ แต่จุดเริ่มต้นเป็นการอาศัยเครื่องมือของรัฐบาล ซึ่งสภาเห็นชอบและคงบังคับใช้ต่อ แต่ความแตกต่างของกฎหมายฉบับนี้คือเนื้อหาของพ.ร.บ.ฉุกเฉินฉบับนี้ จะให้อำนาจสภาในการรีวิวว่าการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินของรัฐบาลมีความจำเป็นจริงๆ  หรือไม่ แต่หากประกาศโดยที่ไม่มีแผนอะไร ก็ต้องบอกวิธีการให้กับสภา ว่าจะแก้อย่างไร ด้วยเวลาเท่าไหร่ แม้พ.ร.บ.ฉุกเฉินจะอนุญาตให้ต่อการใช้ได้ไม่เกิน 30 วัน แต่ก็สามารถต่ออีกได้ เพียงแต่ต้องขออนุญาตสภา ไม่มีทางที่เราจะให้อำนาจพิเศษไปอยู่กับรัฐบาลโดยปราศจากการตรวจสอบ ดังนั้น ตนจึงคิดว่ากฎหมายฉบับนี้เป็นกฎหมายที่ส่งเสริมให้รัฐบาลมีความโปร่งใส เป็นที่ยอมรับ ตรวจสอบได้ และเป็นผลดีต่อรัฐบาลเอง

เมื่อถามว่ากรอบการขยายเวลาที่ลดจาก 60 วัน เหลือเพียง 30 วัน จะทำให้การบริหารราชการติดขัดหรือไม่ กล่าวว่า ต้องบอกว่าเวลาไม่สั้น เพราะในกระบวนการนั้น ตนเชื่อว่าหากเกิดเหตุการณ์ร้ายแรง รัฐบาลมีความชอบธรรม อย่างไรสภาก็คงต้องยอมรับไม่ขัดขวาง เพราะประชาชนจะลงโทษเอง ตนคิดว่า 30 วันเป็นเวลาที่เหมาะสม อนึ่งรัฐบาลมีเสียงข้างมากในสภาอยู่แล้ว เราคงไม่สามารถประวิงเวลาได้ จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อรัฐบาลใช้อำนาจไปในทางที่ไม่ชอบ ไม่มีแผนงานที่ชัดเจน ที่อาจะเกิดการท้วงติงได้ แต่หากคิดในแง่ของประประชาชนที่ต้องการความชัดเจน และรู้ว่ารัฐบาลจะแก้ปัญหานี้อย่างไร หลายครั้งที่เราเจอวิกฤตแล้วรัฐบาลไม่มีคำตอบที่ชัดเจน สุดท้ายประชาชนก็ต้องสวดมนต์ให้กับตัวเองเพื่อหาทางออก ส่วนหากมีเหตุฉุกเฉินจริง ก็สามารถประกาศได้ทัน เพราะนายกรัฐมนตรีสามารถประกาศได้ทันที ภายใน 3 วัน เมื่อผ่านครม. แล้ว

เมื่อถามว่า ได้คุยกับพรรคเพื่อไทยในเรื่องนี้แล้วหรือยัง นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ไม่ได้คุยเป็นทางการ แต่ตนคิดว่าเราได้ส่งสัญญาณอย่างชัดเจน ว่าเรามีจุดยืนอย่างไร

-005

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top