"อนุฯประชามติแก้รธน.รัฐบาล"เข้าถก"กมธ.พัฒนาการเมืองสว." ด้าน"เสรี"ยันเกาะติดเรื่องนี้ตลอด เชื่อหาข้อยุติได้ ขณะที่"นิกร"เผยเตรียมเดินสายฟังสารพัดความเห็นกลุ่มต่างๆ คิกออฟ 2 พ.ย.พบ"กมธ.พัฒนาการเมืองฯซีกส.ส." 14 พ.ย.หารือ"ก้าวไกล"ตลอดจนคนรุ่นใหม่-ผู้พิการ คาดปลายธันวานี้สรุปส่งทั้งหมดชงรัฐบาล
เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2566 ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิ (กมธ.) การพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ที่มี นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะประธานกมธฯเป็นประธานการประชุมร่วมกับคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เกี่ยวกับแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ที่มี นายนิกร จำนง เป็นประธานอนุกรรมการ โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมทั้ง 2 ฝ่ายอย่างพร้อมเพรียง
โดยเมื่อเริ่มการประชุม นายเสรี กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องมีการทำประชามติว่าควรจะแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ ดังนั้น ประเด็นการแก้รัฐธรรมนูญ เป็นประเด็นสำคัญ เมื่อเข้าสู่ช่วงเวลาที่จะแก้ไข ต้องมีจุดเริ่มต้น อย่างไรก็ตาม การจะทำเรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะความเห็นที่แตกต่างเป็นความเห็นที่จะต้องหาข้อยุติเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้ง ซึ่งคนที่มาทำเรื่องเหล่านี้ต้องเป็นที่ยอมรับ เป็นที่น่าเชื่อถือหรือไม่ ดังนั้น เมื่อนายนิกร และคณะที่ทำหน้าที่นี้ ตนเชื่อว่ามีความรู้ความสามารถเป็นที่ยอมรับก็จะสามารถทำให้กระบวนการในการรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการทำประชามติสามารถเดินหน้าลุล่วงไปได้ แต่จะสำเร็จหรือไม่นั้นก็อยู่ที่สิ่งที่จะดำเนินการต่อไป ซึ่งคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองฯ ก็ได้ติดตามเรื่องนี้มาตลอด และได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมา โดยมี นายวันชัย สอนสิริ สว.เป็นประธานอนุทำงานติดตามการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
"ในการที่นายนิกร และคณะมาร่วมหารือ ก็ต้องขอบคุณที่ให้เกียรติมารับฟังความเห็นของสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งจะมีทิศทางการดำเนินการอย่างไรนั้นก็อยากให้นายนิกร และคณะ เสนอแนวคิดและแนวทางว่าเราจะร่วมมือกันอย่างไร ในการที่จะดำเนินการในเรื่องเหล่านี้" นายเสรี กล่าว
ขณะที่ นายนิกร กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นครั้งแรกและถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี ซึ่งคณะอนุฯดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องการทำประชามติไม่ใช่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เราจึงต้องมาฟังความคิดเห็นจากวุฒิสภา ดังนั้น ขอเรียนว่าเราฟังความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง และใช้เวลาค่อนข้างสั้น ซึ่งสิ่งที่อยากต้องการจากท่านทั้งหลาย คือแบบสอบถามว่าควรจะถามท่านอย่างไรดี และให้ท่านร่วมตั้งคำถามกับเราด้วย เพราะของวุฒิสภาต้องถามเป็นการเฉพาะเพราะไม่เหมือนของประชาชน อย่างไรก็ตามทางคณะอนุฯ ต้องรอให้สภาฯ เปิดสมัยประชุมก่อน เพื่อรวบรวมความคิดเห็นทั้งหมด โดยทางอนุตั้งใจว่าจะให้มีการระบุชื่อผู้ที่ตั้งคำถามว่าจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย หรือสมาชิกบางท่านอาจจะไม่เปิดเผยชื่อก็ได้ ต่อจากนั้น วันที่ 2 พ.ย.ทางคณะอนุฯ จะไปพูดคุยกับคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชนและการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) เป็นประธาน กมธ.ฯ หลังจากนั้นจะสอบถามกับ ส.ส.ทั้งหมดทั้ง 500 คน เพื่อขอความเห็นในเรื่องนี้
นายนิกร กล่าวต่อว่า จากนั้นในวันที่ 8 พ.ย.จะพูดคุยกับเยาวชนคนรุ่นใหม่ ที่ทำเนียบรัฐบาล ทั้งนักเรียน นักศึกษาที่มีอายุเกิน 18 ปี เพราะรัฐธรรมนูญจะใช้กับรุ่นเขามากกว่ารุ่นเรา จากนั้นในวันที่ 14 พ.ย.จะต้องพูดคุยกับพรรคการเมืองที่เห็นต่างคือพรรคก้าวไกล ที่แก้ไข รธน.โดยไม่แยกหมวด 1 หมวด 2 ขณะที่ในส่วนของรัฐบาลไม่แตะหมวด 1 หมวด 2 โดยตนได้คุยกับ นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะไปคุยที่พรรคก้าวไกล จากนั้นวันที่ 15 พ.ย.ทางคณะอนุฯ ได้เชิญกลุ่มประชาชนจำนวน 14 - 15 กลุ่ม ประมาณ 80 คน ซึ่งมีทั้งกลุ่มไอลอว์ กลุ่มคนพิการ เป็นต้น โดยหารือกันที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งจะมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.พานิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการการศึกษาทำประชามติ เพื่อรับฟังความคิดเห็นของกลุ่มต่างๆ คำถามที่จะถามต่อประชาชนคือ อยากให้แก้หรือไม่ รวมถึงให้เสนอประเด็นต่างๆได้ เพราะทางคณะอนุกรรมการไม่มีหน้าที่ที่จะต้องทำการแก้ไข รธน.ไม่ว่าจะแก้ทั้งฉบับหรือไม่ เราไม่มีหน้าที่แต่เป็นเรื่องของสภาร่างรัฐธณรมนูญ (ส.ส.ร.) หากมีการตั้งขึ้นก็จะเป็นผู้ดำเนินการ
นายนิกร กล่าวด้วยว่า ทางคณะอนุฯ จะออกต่างจังหวัดเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนกลุ่มต่างๆ ทุกภาคทั่วประเทศ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นข้อสรุปเสนอไปยังรัฐบาลในต้นปีหน้า จากนั้นรัฐบาลก็จะนำไปกำหนดเป็นคำถาม อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการทำประชามติยังมีปัญหาอยู่ว่าจะทำกี่ครั้ง หรืออย่างไร ซึ่งเราก็พยายามรวบรวมทั้งหมด โดยในวันที่ 24 พ.ย.จะสรุปเรื่องทั้งหมดครั้งแรก และในประมาณปลายเดือน ธ.ค.ก็จะสรุปให้เสร็จ และเสนอให้รัฐบาลต่อไป
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี